บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
2 นาที
8 ตุลาคม 2562
“ชิม ช้อป ใช้” รับสิทธิ์ไว้ ดีจริงหรือไม่?! กระแสดัง Pantip


ในช่วงนี้นโยบาย “ชิม ช้อป ใช้” ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของรัฐบาลกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโซเชียลมีเดีย บางคนก็ตื่นเต้นและตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ และมีหลายคนที่ถึงกับโพสต์อวดในโซเชียลมีเดียเมื่อตัวเองลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้สำเร็จ แต่ก็มีอีกหลายคน เช่นกันที่ตัดสินใจไม่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ดังกล่าวนี้  หรืออาจถึงขั้นไม่ยอมรับในนโยบายนี้เลยทีเดียว 
 
 
อย่างเช่นในกระทู้พันทิปดังกล่าวนี้ที่ชื่อว่า “ร้านกาแฟในสุโขทัยโพสต์ไม่ร่วม 'ชิม ช้อป ใช้' เพราะไม่หนุนการแจกเงิน” (https://pantip.com/topic/39290301) ที่พูดถึงข่าวร้านกาแฟแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัยไม่ร่วมนโยบาย ชิม ช้อป ใช้ เพราะไม่สนับสนุนนโยบายดังกล่าวนี้ของรัฐบาล ทั้งยังไม่กลัวว่าจะไม่มีลูกค้ามาเข้าร้านเพราะไม่รองรับชิม ช้อป ใช้ด้วย แต่ถ้ามาตรการดังกล่าวสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ตนก็ไม่มีปัญหาอะไรหากมาตรการนี้จะมีเฟส 2 ออกมา……

ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE
 
และเมื่อศึกษาจากการที่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม  พบว่าโดยส่วนมากผู้แสดงความคิดเห็น แบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆด้วยกัน คือ
  1. คิดว่านโยบายนี้ ไม่ได้บังคับทั้งประชาชนและผู้ประกอบการให้เข้าร่วมทุกคน
  2. ผู้ที่จะได้ผลประโยชน์ในนโยบายนี้กลับเป็นห้างร้านใหญ่ๆ มากกว่าที่จะเป็นผู้ประกอบการที่เป็นประชาชนทั่วไป
  3. ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่า ทำแล้วไม่เกิดความคุ้มค่าเท่าไหร่
ทั้งหมดที่ได้อ่านในกระทู้นี้ก็พอจะยืนยันความสนใจ และความคิดเห็นของผู้คนที่มีต่อนโยบาย “ชิม ช้อป ใช้” ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ภาพจาก bit.ly/2lNqzNE

แต่อ่านถึงตรงนี้ หลายคนก็อาจจะเกิดคำถามว่า แล้วนโยบายชิม ช้อป ใช้ มันคืออะไร?
 
หากจะให้คำนิยามแบบสั้นๆ ง่ายๆ “นโยบายชิม ช้อป ใช้” ก็คือ มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของคนในประเทศด้วยการออกไปใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยว โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท ในโควตาทั้งหมด 10 ล้านคน โดยกำหนดเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์ว่า ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีโทรศัพท์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้และมีอีเมลล์ ซึ่งเมื่อทางรัฐฯ เปิดให้คนลงทะเบียนรับสิทธิ์ ปรากฏว่าก็มีผู้คนลงทะเบียนรับสิทธิ์กันอย่างล้นหลามและครบโควตา 10 ล้านคนภายในเวลาไม่นาน ทั้งนี้ก็ได้มีร้านค้าโชว์ห่วยรายย่อยกว่า  1.35 แสนรายที่เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย

ภาพจาก bit.ly/2LXOBQx
 
แต่แล้วนโยบายนี้ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่าใดนักถึงแม้จะได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามก็ตาม แต่บุคลาการในแวดวงท่องเที่ยวต่างให้ความคิดเห็นที่เป็นไปในทางเดียวกันว่าผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ไม่ได้เอาเงินมาใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล เช่น คุณภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวประมาณว่า นโยบายมีเสียงตอบรับที่ดี

แต่ทว่า ตัววัดผลอยู่การท่องเที่ยว แต่ผู้รับสิทธิ์กลับใช้เงินไปกับการซื้อสินค้าต่างๆ แทน ซึ่งถือว่าไม่ถูกวัตถุประสงค์ อีกอย่างคือเมื่อดูจากสถิติของธนาคารกรุงไทยแล้วพบว่าผู้ที่รับสิทธิ์ผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังค์มีการใช้เงินในกรุงเทพฯและปริมณฑลมากกว่าในต่างจังหวัด

ซึ่งนั่นหมายความว่าเงินยังกระจุกตัวแค่ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ได้เป็นการกระจายรายได้แต่อย่างใด หรือความคิดเห็นจากคุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิที่กล่าวถึงนโยบายนี้ว่า ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมยังพอจะได้ผลประโยชน์อยู่บ้าง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับสิทธิ์เน้นการซื้อของมากกว่าการท่องเที่ยว

ภาพจาก bit.ly/2LXOBQx

ดังนั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงไม่เชิงว่าจะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายนี้โดยตรง อีกเหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะช่วงที่เปิดรับสิทธิ์นี้ยังไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว ผู้คนจึงเน้นจับจ่ายซื้อของมากกว่าการออกไปเที่ยว และคุณพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายไปในอีกแง่มุมว่าหากมาตรการนี้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าประชาชนเริ่มยอมรับการใช้จ่ายออนไลน์ (ผ่านแอพฯ เป๋าตังค์) ได้ นั่นถือเป็นการสร้างนวัตกรรมที่ภาครัฐสามารถพัฒนามาใช้ต่อไปได้ในอนาคต แต่ถ้าหากไม่สำเร็จ ก็ต้องพัฒนาต่อไป และหากนโยบายนี้จะมีเฟส 2 ตามมา ก็ควรจะประเมินผลของเฟสแรกนี้ก่อน

ทั้งหมดนี้อาจสรุปได้ว่า นโยบายชิม ช้อป ใช้ที่กระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยผู้คนก็มีทั้งเลือกที่จะรับสิทธิ์ และไม่รับสิทธิ์ อีกทั้งผู้คนยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับนโยบายนี้ แต่แล้วผลลัพธ์ของมาตรการนี้จะเป็นอย่างไร? และจะมีเฟส 2 ตามมาหรือไม่? นั่น คงเป็นเรื่องของอนาคตที่อาจอยู่ไม่ไกลนี้......
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com/document/

แหล่งที่มา
 
การเข้ามาของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และอื่นๆ ตามหมู่บ้าน และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อร้านขายของชำ หรือ “โชห่วย” ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย มักจะล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าและบริการไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค การบริหารจัดการร้านค้าไม่เป็น จึงท..
58months ago   3,912  4 นาที
คำว่า “ร้านอาหารจะตายหมด” เหมือนเป็นการตัดพ้อ ท้อแท้ใจ แต่ในความจริงคำว่า “ตายหมด” ก็คงไม่หมดเหมือนที่พูดแต่เรื่องจริงคือ “ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม” ก่อนหน้าที่ COVID 19 จะแพร่ระบาด เราก็เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ถดถอยคนมีกำลังซื้อน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เ..
64months ago   3,122  7 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
421
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด