บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.6K
2 นาที
19 มิถุนายน 2560
10 ข้อควรรู้ก่อนลุยเปิดตลาดการค้าในเวียดนาม

 
เวียดนามได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุดและถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว หลายสิ่งหลายอย่างในเวียดนามที่เป็นปัจจัยสำคัญทั้งด้านความรู้ และจารีตประเพณีต่างมีบทบาทกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศยิ่งได้รับโอกาสจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นก็ดูจะทำให้เวียดนามนั้นมีทิศทางที่สดใส

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าในกลุ่มอาเซียนด้วยกันแล้วเวียดนามถือว่ามีพลังในการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งทีเดียว เหตุนี้เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญเราควรรู้เกี่ยวกับตลาดเวียดนามให้มากขึ้นเพื่อให้การลงทุนนั้นได้ผลถึงที่สุด
 
1.เวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วมาก

 
เวียดนามเป็นประเทศที่ขยายเศรษฐกิจได้มากที่สุดในอาเซียนที่ผ่านมาแม้เวียดนามจะต้องเผชิญกับมรสุมต่าง ๆทั้งปัญหาภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุด แต่เศรษฐกิจเวียดนามสามารถขยายตัวที่ระดับ 6.3% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคและในปี2017รัฐบาลยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโตอยู่ที่ 6.8% อีกด้วย
 
2.ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของเวียดนามคล้ายกับคนไทย
 
ภาพรวมของการบริโภคในเวียดนามค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับไทยทั้งเรื่องอาหารการกิน คนเวียดนามชอบดูทีวีดาวเทียมช่องรายการของประเทศไทย ดาราหลายคนมีแฟนคลับเช่นเดียวกับดาราในประเทศไทยอีกด้วยแต่สิ่งที่ทำให้เวียดนามดูแตกต่างจากประเทศอื่นในอาเซียนที่มีต่อประเทศไทยคือ เวียดนามไม่ได้มีแรงงานเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากนักเมื่อเทียบกับกัมพูชา ลาว และพม่า
 
3.ธุรกิจความงาและสุขภาพเป็นไฮไลท์การลงทุนในเวียดนาม

 
โดยธุรกิจความสวยความงามและสุขภาพแบรนด์ใดที่มีศักยภาพก็จะได้เปรียบในการทำตลาดมาก เนื่องจากในเวียดนามธุรกิจเครื่องสำอางอาหารเสริม สมุนไพร และศัลยกรรม มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น จากความต้องการของประชากรที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะหลังการเปิดประเทศเป็น AEC
 
4.การทำธุรกิจในเวียดนามต้องเน้นวิธีการที่หลากหลาย
 
วิธีการเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามต้องหลากหลายในปัจจุบันบริษัทใหญ่ในไทยได้เข้าไปตีตลาดใน CLMV แล้ว โดยการเข้าไปลงทุนในเวียดนามนั้นมีหลายรูปแบบ เช่นการทำธุรกิจเครือข่ายโดยใช้การแต่งงาน เช่นมีภรรยาหรือสามีเป็นคนเวียดนามซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบดั้งเดิม แต่ในปัจจุบันก็มีอยู่บ้างต่อมาคือการหาคู่ค้าชาวเวียดนามที่พร้อมจะลงทุนร่วมกับเราและการเข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจระบบเชน(Chain)อย่างซีพีออล์,ปตท.และเซ็นทรัลเป็นต้น
 
5.ต้องมองภาพรวมตลาดของเวียดนามให้ได้

 
กลุ่มตลาดของเวียดนามแบ่งเป็นสองประเภท คือกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศ และกลุ่มคนที่อพยพไปอยู่ประเทศอื่นช่วงสงครามเช่นสหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันนี้พวกเขาเหล่านั้นได้กลับมาประเทศบ้านเกิดแล้วพร้อมกับการนำ “ความรู้”และ“เงิน”พร้อมความมุ่งมั่นที่จะกลับมาพัฒนาประเทศ
 
6.สินค้าควรในการวางตลาดควรเน้นที่คุณภาพเป็นสำคัญ
 
ธุรกิจSMEs ไทยที่คิดจะตีตลาดเวียดนามควรเน้นเอาของดีที่สุดไปขาย โดยต้องรู้ให้แน่ชัดว่าลูกค้าของสินค้าเราเป็นใครเราต้องการจะเอาเงินออกจากกระเป๋าใคร โดยต้องลงสำรวจข้อมูลจริงโดยการไปดูตลาดบ้านเขาด้วยตนเอง ไปดูทำเลจริง 3 ครั้งขึ้นไปโดยจะเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้มองช่องทางการตลาดได้ 

7.การลงทุนในเวียดนามควรมีภาครัฐเดินนำหน้าไปก่อน


 
การลงทุนในเวียดนามควรมีภาครัฐเดินนำหน้าเพื่อการหาคู่ค้าในเวียดนามที่SMEs ไทยควรขอคำปรึกษาจากหน่วยงานต่างๆของรัฐเช่นสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางเเละขนาดย่อมเเห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SMEDevelopment Bank) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM Bank) พร้อมการไปสอบถามกับกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
 
8.รู้จักใช้ปัจจัยของการเปิดประเทศให้เป็นประโยชน์
 
ประโยชน์สำคัญจากการที่เวียดนามเปิดประเทศได้ไม่นานทำให้ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วง “สร้างบ้านแปลนเมือง” จึงถือเป็นโอกาสทองของบริษัทก่อสร้างและเจ้าของสินค้าตกแต่งบ้านของไทยที่จะเข้าไปทำธุรกิจโดยคู่แข่งต่างชาติสำคัญในเวียดนาม คือ มาเลเซียและเกาหลีใต้ ซึ่งเข้ามาลงทุนเยอะมาก พร้อมกับการปรับตัวเข้ากับรูปแบบการค้าสมัยใหม่ของเวียดนามที่เพิ่งเปิดตัวเปิดประเทศได้ไม่นาน

9.ชนชั้นกลางเป็นตลาดที่ใหญ่สุดของเวียดนาม


 
ตลาดชนชั้นกลางในเวียดนามมีขนาดใหญ่ทำให้มีความต้องการในธุรกิจห้างสรรพสินค้า เทรนด์ไลฟ์สไตล์และอาหารฟาสฟู้ดเข้ามา และมีการใช้ “รถยนต์” เพิ่มมากขึ้น ส่วนการมาของ “สมาร์ทโฟน” ก็ไปกระตุ้นธุรกิจรายย่อยอื่นๆ เช่นเครื่องประดับตกแต่งโทรศัพท์ให้เติบโตขึ้นได้ด้วย
 
10.เวียดนามกับวัฒนธรรมจากเมืองจีน
 
เวียดนามได้ชื่อว่านอกจากมีหลายอย่างที่คล้ายคนไทยแล้วยังมีอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนเข้ามาผสมปนเปอยู่มากด้วยเชื้อสายที่ใกล้เคียงทำให้รูปแบบของธุรกิจส่วนหนึ่งจึงถอดแบบมาจากเมืองจีนก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การค้าที่เราควรรู้ไว้รวมถึงสกุลเงินที่นิยมใช้ทั้งดอลล่าร์และเงินหยวนในการซื้อขายแลกเปลี่ยนทางธุรกิจด้วย
 
อย่างไรก็ตามเวียดนามยังถือว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับนักลงทุนเมืองไทย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นก็ควรดูกรณีศึกษาจากธุรกิจที่เปิดตัวและประสบความสำเร็จ และลองเลือกเอาแนวทางเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเองก็จะช่วยให้อุ่นใจและทำให้ทิศทางของธุรกิจในเวียดนามมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
ขอบคุณรูปภาพจาก  goo.gl/WZKqTS
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
614
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
520
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
478
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
439
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
425
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
422
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด