เชื่อว่าทุกคนที่เริ่มธุรกิจหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คงคิดถึงเรื่อง “ชื่อ” “โลโก้” หรือ “เครื่องหมายการค้า” เป็นอย่างแรก และคิดว่าทำอย่างไรชื่อนั้น ถึงจะได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า เพื่อไม่ให้ผู้อื่นลอกเลียนแบบหรือนำไปใช้ประโยชน์เชิงการค้าได้ โดยเฉพาะวันที่แบรนด์ของคุณเริ่ม ฮอต ฮิต ติดตลาดขึ้นมา
 

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขอนำท่านผู้ประกอบการไปสำรวจดูว่า เครื่องหมายการค้าแบบไหน ที่สามารถจดทะเบียนได้ รวมถึงขั้นตอนเบื้องต้นในการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า มาดูกันเลยครับ 

ภาพจาก goo.gl/KvrnkB

เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายร่วม ที่จะจดทะเบียนได้ ต้องมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด 3 ประการ ดังนี้ 
 

1.มีลักษณะเป็นคำบ่งเฉพาะ ไม่มีความหมายใดๆ 
 

ภาพจาก goo.gl/AmDMaB

 

เครื่องหมายการค้านั้น ต้องเป็นเครื่องหมายที่ถูกทำให้มีลักษณะพิเศษ โดดเด่นเฉพาะตัว แต่ต้องไม่สื่อความหมายโดยตรงเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถทราบและเข้าใจได้ว่า สินค้าหรือบริการที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้น แตกต่างกับสินค้าหรือบริการของบุคคลอื่น เช่น คำที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง โดยไม่มีความหมายตามพจนานุกรม ลายมือชื่อ หรือภาพของเจ้าของเครื่องหมายการค้า ตัวอย่า Google, Exxon, Ikea และ Kodak เป็นต้น
 

2.ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
 

ภาพจาก  goo.gl/AmDMaB

 

เครื่องหมายการค้านั้น ต้องไม่มีหรือไม่ประกอบไปด้วยลักษณะต่างๆ ที่กฎหมายกำหนดห้ามไว้ เช่น ต้องไม่เป็นเครื่องหมายอันเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ธงประจำชาติ เครื่องหมายของหน่วยงานระหว่างประเทศ เครื่องหมายที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายที่มีชื่อเสียง เป็นต้น
 

ภาพจาก  goo.gl/AmDMaB

 

เครื่องหมายการค้าที่จะจดทะเบียนได้ ต้องไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วจนอาจทำให้ผู้บริโภคสับสน หรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของ หรือแหล่งกำเนิดของสินค้าหรือบริการนั้น

ภาพจาก goo.gl/EnBh0J

ก่อนการยื่นขอจดทะเบียนเจ้าของเครื่องหมายการค้า ควรขอตรวจค้นข้อมูลเบื้องต้นในฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก่อนที่ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตน เพื่อตรวจค้นดูว่ามีเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ที่เหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าที่จะยื่นขอจดทะเบียนหรือไม่ 
 

เพราะหากมีเครื่องหมายการค้า ที่เหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าที่จะยื่นขอจดทะเบียน ได้รับการจดทะเบียนไว้แล้ว เจ้าของเครื่องหมายการค้าก็จะไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตนได้ 
 

ซึ่งวิธีการขอตรวจค้นข้อมูลดังกล่าว 1.สามารถขอตรวจค้นได้ทางอินเตอร์เน็ต ฟรีค่าธรรมเนียม หรือ 2.ที่ศูนย์บริการทรัพย์สินทางปัญญา ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยมีค่าธรรมเนียมชั่วโมงละ 200 บาท

เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียน

ภาพจาก goo.gl/EnBh0J

1.แบบพิมพ์คำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ( แบบ ก.01)
 

จำนวน 6 ชุด (ต้นฉบับ 1 ชุด สำเนา 5 ชุด) ให้กรอกข้อความในคำขอเป็นภาษาไทยให้ครบถ้วนโดยให้พิมพ์ดีดหรือพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ติดรูปเครื่องหมาย ที่ต้องการจดทะเบียน (ขนาด 5 x 5 ซ.ม.) และลงลายมือชื่อเจ้าของหรือตัวแทน
 

ที่เหมือนกับรูปที่ติดในคำขอจดทะเบียนจำนวน 5 รูป
 

3.บัตรประจำตัวเจ้าของ
 

แบ่งเป็น กรณีบุคคลธรรมดา ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ กรณีนิติบุคคล ใช้ต้นฉบับหนังสือรับรองนิติบุคคลฉบับนายทะเบียนรับรองและออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
 

4.สำเนาหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ (ถ้ามี) 
 

ทั้งนี้ อาจใช้แบบพิมพ์ ก. 18 และถ้าต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจเป็นภาษาต่างประเทศให้แปลเป็นภาษาไทยพร้อมรับรองความถูกต้อง

ภาพจาก goo.gl/EnBh0J

การชำระค่าธรรมเนียม ขึ้นอยู่กับจำนวนรายการสินค้าหรือบริการที่จะจดทะเบียน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้

 

เครื่องหมายการค้าที่ดีและมีประสิทธิภาพ ต้องสามารถขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ โดยมีลักษณะบ่งเฉพาะ ไม่เป็นเครื่องหมายต้องห้าม ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว มีชื่อที่สั้น จดจำได้ง่าย มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเครื่องหมายของผู้อื่น และสามารถสื่อถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และเชื่อมโยงถึงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้โดยไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า