แฟรนไชส์ Eye Level กุญแจการศึกษาที่จะแก้ไขปัญหาเด็กไทย
#Eye Level การศึกษาที่จะแก้ไขปัญหาเด็กไทย
ฉัน คือ กุญแจ I am the key.
สโลแกนข้างต้นของ Eye Level ฟังดูก็คงงงๆ ว่ามีความหมายอะไรแน่ แต่ถ้ามารู้จักกับระบบ Franchise Eye Level จากประเทศเกาหลีแล้วเราจะเข้าใจในวิธีคิด วิธีทำ วิธีการพัฒนาเด็ก ที่ได้ผลอย่างยิ่ง
หัวใจของ I am the key
หัวใจของ I am the key มาจากปรัชญาการศึกษาว่า เด็กต้องเป็นศูนย์กลางของการเรียนของเขา ปรัชญานี้ฟังดูดีมาก จะทำอย่างไรล่ะ ครูคนเดียว ดูแลเด็ก 40-50 คน จะให้เด็กเป็นศูนย์กลางได้อย่างไร
แนวทางการจัดการศึกษาแบบ Self-Directed Learning (SDL) คือคำตอบ
การศึกษาของไทยยังให้ครูเป็นจุดศูนย์กลาง เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ เด็กเป็นผู้เก็บเกี่ยวความรู้จากครู ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตรงที่ไม่ได้ คือ ช่องว่างความรู้ที่เด็กสะสมไปเรื่อยๆ เมื่อมีช่องว่างมาก เด็กจะไม่เข้าใจ จะเบื่อและจะไม่อยากเรียนในที่สุด
วิธีการของ Self-Directed Learning (SDL) คือ การฝึกนิสัยให้เด็กเรียนด้วยตัวเองเป็น ครูทำหน้าที่เป็นโค้ช คอยสนับสนุนพัฒนาการของเด็กไปที่ละขั้น เด็กไม่แข่งกับใคร แข่งกับตัวเอง จะชนะตัวเองได้ก็ต้องเรียนรู้อย่างเข้าใจ ฝึกนิสัยการตั้งเป้าหมาย การประเมินผล การปรับปรุงแก้ไข “Mastery” หรือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในทุกบทเรียน คือเป้าหมายหลัก
Self-Directed Learning ทำได้จริงหรือ
พิสูจน์มาแล้วจากประเทศเกาหลี ระบบของ Eye Level ทำให้ Eye Level เป็นแฟรนไชส์การศึกษาอันดับ 1 ติดต่อกันมากกว่า 15 ปี มีคนเกาหลีกว่า 30% ผ่านหลักสูตรนี้ และยังสามารถขยายสาขาไปทั่วโลก ถึง 22 ประเทศ ประเทศที่ Eye Level ประสบผลสำเร็จมาก คือ สหรัฐอเมริกา ได้ยอมรับกับระบบการศึกษานี้มาก
ทำอย่างไร
Eye Level พัฒนาเทคนิคที่สำคัญ 2 อย่าง ที่เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของระบบ
- เทคนิคการบริหารจัดการศูนย์และการเรียนการสอน ที่ประกอบไปด้วย
- การจัดชั้นเรียน (Class Flow)
- การวางจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมให้กับเด็ก (Placement)
- การสร้างนิสัยในการเรียน
- การประเมินผล
- การรายงานผลการเรียนกับผู้ปกครอง
- การส่งเสริมและจูงใจนักเรียน
- การสร้างกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักเรียน
- ขบวนการต่างๆ หลายประการที่ทำให้เด็กก้าวหน้า และประสบความสำเร็จ และทำให้ศูนย์ประสบความสำเร็จ
- เทคนิคการเรียนการสอน
- เรียนวิชาคณิตศาสตร์อย่างไร ถึงจะเข้าใจในระดับ Mastery
- เทคนิคการเรียนแบบไม่ต้องนับนิ้ว
- เทคนิคและวิธีการเรียนแบบ Critical Thinking
- ความรู้เกี่ยวกับ Math ที่นำไปใช้ทั้งในการเรียนระดับสูงและในชีวิต
- การแก้ปัญหาโจทย์ปัญหาต่างๆที่ต้องใช้การวิเคราะห์
- เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ
- เทคนิคการออกเสียงแบบเจ้าของภาษา
- เทคนิคการฟัง ความเข้าใจ การอ่าน และการเขียนโดยเน้นวิชาหลัก 4 วิชา คือ
- คณิตศาสตร์เด็กเล็ก (Play Math)
- คณิตศาสตร์ ทั้งที่แบ่งออกเป็น Basic Thinking Math และ Critical Thinking
- ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก (English Spark)
- ภาษาอังกฤษของ Eye Level (Eye Level English)
เทคนิคทั้ง 2 รูปแบบ ถูกค้นคว้าวิจัย ปรับปรุง แก้ไข จนกลายเป็นระบบการเรียนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- นักเรียนชอบ สนุก และเข้าใจคณิตศาสตร์จริงๆ
- นักเรียนออกเสียงพูดภาษาอังกฤษ เข้าใจ และเขียนได้จริงๆ
ฟังดูดี แล้วจะมาทำธุรกิจได้อย่างไร?
- การเรียนแบบ Self-Directed Learning เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาใช้กับระบบการศึกษาเสริม เพราะเด็กใช้เวลาเรียนอาทิตย์ละแค่ 2-3 ครั้ง มาเรียนตามเวลาที่เหมาะสมไม่ต้องรอใคร มาถึงเรียนได้เลย แม้เรียนจำนวนชั่วโมงไม่มาก แต่เด็กมีพัฒนาการดีกว่าการเรียนหลายๆชั่วโมงในห้องเรียน เพราะเด็กจะเข้าใจอย่างชัดเจน และพัฒนาไปตามความสามารถของตน
- การออกแบบบทเรียน เน้นแนวทางสมัยใหม่ ประกอบด้วย นิทาน นิยาย รูปภาพ เกมส์ ฯลฯ ทำให้เด็กรู้สึกอยากเรียน ทำให้วิชายากๆกลายเป็นง่าย บทเรียนทุกบทสร้างความท้าทายให้เด็กก้าวต่อไปข้างหน้าตลอด
ต้องลงทุนสูงไหม? ทำการตลาดยากไหม?
- ถ้าท่านมีสถานที่ของตัวเอง ห้องพอที่จะรองรับการเรียนการการสอนได้ การลงทุนก็ไม่มาก และสามารถลงมือทำธุรกิจได้รวดเร็ว เพราะ ทางบริษัทจะมีการแนะนำ อบรม มีแนวทางต่างๆ อุปกรณ์การสอนทุกอย่างครบครัน
- ความสำเร็จของเด็ก คุณภาพของการศึกษาจะช่วยให้ศูนย์เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองจะแปลกใจในพัฒนาการของเด็ก และจะบอกต่อไปจากนักเรียนคนหนึ่งไปสู่เพื่อนร่วมชั้น จากโรงเรียนหนึ่งไปอีกโรงเรียนหนึ่ง
สนใจอยากจะรู้เพิ่มเติมทำอย่างไร?
SMART PEOPLE DO SMART BUSINESS!
- ฟรี สำหรับท่านที่สนใจ เรามีหลักสูตรอบรมที่เรียกว่า Franchise Introduction
สนใจเปิดศูนย์อายเลเวล ติดต่อ
ติดต่อที่ 02-9349911-2
E-mail: myeyelevelthailand@gmail.com
Line: @eyelevel.th
“มาช่วยกันแก้ปัญหาการศึกษาของเด็กไทยด้วยวิธีการของ Eye Level เถอะครับ”