30K
 1 มกราคม 2550 
Inthanin Coffee แฟรนไชส์ร้านกาแฟคุณภาพ



ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้ามีความต้องการร้านกาแฟที่มีมาตรฐาน รสชาติดีมีคุณภาพ ในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อเป็นจุดพักผ่อนและจุดนัดพบระหว่างการเดินทาง


บริษัท บางจากฯ ได้ตระหนักถึงความต้องการนี้ จึงได้พัฒนาร้าน Inthanin Coffee ขึ้นมาในระบบแฟรนไชส์เพื่อให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับกาแฟที่มีกลิ่นหอมละมุนละไมและรสชาตินุ่มนวล โดยผ่านกรรมวิธีคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันตามข้อกำหนดและกรรมวิธีปรุงกาแฟที่คิดค้นเป็นพิเศษ รวมทั้งบรรยากาศภายในร้านที่เน้นความร่มรื่นและเป็นธรรมชาติซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายหายจากความเหน็ดเหนื่อยระหว่างเดินทาง

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่บริษัทเข้ามาบุกตลาดร้านกาแฟอย่างจริงจัง เป็นเพราะมองเห็นโอกาสทางการตลาด เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยยังคงต่ำอยู่ เมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยในปัจจุบันจะอยู่ที่ 200 แก้วต่อคนต่อปี

ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีอัตราการบริโภคอยู่ที่ 500 แก้วต่อคนต่อปี ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ 700 แก้วต่อคนต่อปี ทำให้ตลาดยังมีช่องว่าง และศักยภาพในการเติบโต แม้ว่าในระยะหลังจะมีผู้ประกอบการเกิดขึ้นค่อนข้างมาก ปัจจุบันตลาดร้านกาแฟระดับพรีเมียมมีมูลค่ากว่า 4.7 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมร้านกาแฟระดับกลางและล่าง โดยคาดว่าร้านกาแฟในไทยจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท


"ปกติในปั๊มน้ำมันบางจากจะมีร้านกาแฟเปิดให้บริการอยู่แล้ว แต่ค่อนข้างจะหลากหลายประมาณ 10 แบรนด์ และส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดจะเป็น Coffee Boy ซึ่งสาขาส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ ดังนั้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจร้านกาแฟ จึงได้จัดระเบียบร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันบางจากใหม่ทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกัน คือ อินทนิน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปทิศทางเดียวกัน" นายมนูญกล่าว


ตั้งเป้าขยายสาขา
ปัจจุบันมีร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันบางจากทั้งหมด 60 สาขา และเตรียมจะปรับเป็นร้านอินทนิน ประมาณ 40 สาขาภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะสามารถปรับเป็นร้านอินทนินได้ครบทุกสาขา อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 100 สาขาภายในปี 2552 และจะขยายสาขาออกไปนอกปั๊มน้ำมันบางจากประมาณปีหน้า

รูปแบบ และเงื่อนไขในการลงทุน สำหรับร้านกาแฟอินทนินจะมีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 20 ตารางเมตรขึ้นไป และเบื้องต้นจะมีอยู่รูปแบบเดียว คือ ร้านแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะอยู่ภายใต้แนวคิด Natural and Relaxing เพื่อให้ร้านกาแฟอินทนินเป็นเสมือนจุดพักการเดินทาง หรือจุดนัดพบเพื่อการเดินทางของทุกคน

ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นธรรมชาติ โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายนักเดินทาง และผู้ที่ชื่นชอบการบริโภคกาแฟ ตลอดจนจะเน้นการขยายสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน แต่ถ้าเป็นสาขาที่อยู่นอกปั๊มน้ำมัน อาจจะเป็นรูปแบบคีออส


"ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตประมาณ 2-3 ราย เพื่อติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงภายในร้าน คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายกลางปีนี้ เพื่อรองรับการแข่งขันที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นในอนาคต แม้ว่าในปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน จะยังไม่รุแรงเหมือนกับในศูนย์การค้าก็ตาม ดังนั้น อยู่ที่ว่าใครจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีกว่า" นายมนูญกล่าว


ทั้งนี้ สินค้าที่จำหน่ายภายในร้านจะมีให้เลือก ทั้งเครื่องดื่มและอาหารว่าง โดยผลิตภัณฑ์ในหมวดเครื่องดื่มจะมี 4 ประเภท คือ กาแฟร้อน กาแฟเย็น น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่นๆ อาทิ โกโก้ และชา เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ในหมวดอาหารว่างจะมี 3 ประเภท คือ วาฟเฟิล ขนมปังปิ้ง และโรตี

โดยเมล็ดกาแฟทั้งหมดที่ใช้ในร้านจะเป็นเมล็ดกาแฟที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด และกำลังจะเพิ่มสินค้าในไลน์ไอศกรีมเข้าไปในร้านด้วย ซึค่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา สำหรับสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านจะมีราคาตั้งแต่ 30-60 บาท

"เราเริ่มทำธุรกิจกาแฟตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่จะเป็นในลักษณะของการให้เช่าพื้นที่ ดังนั้น เงื่อนไขของผู้ประกอบการแต่ละรายจะแตกต่างกัน ทั้งค่าเช่า และระยะเวลาของสัญญา แต่เมื่อเราดำเนินธุรกิจร้านกาแฟภายใต้แบรนด์ของตนเอง จึงจำเป็นต้องสร้างระบบแฟรนไชส์ขึ้นมา เพื่อให้ทุกร้านอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน" นายมนูญกล่าว


ค่าแฟรนไชส์ และเงินลงทุน
สำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามาซื้อแฟรนไชส์ จะต้องมีเงินลงทุนเบื้องต้น 6.3 แสนบาท ประกอบด้วยค่าก่อสร้าง ตกแต่งและอุปกรณ์ รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 4 แสนบาท ค่าตกแต่งและอุปกรณ์ 1.5 แสนบาท

ค่าแฟรนไชส์ ฟี 6 หมื่นบาทต่อ 3 ปี ค่ารอยัลตี้ ฟี 2 หมื่นบาทต่อปี โดยแฟรนไชส์ซีจะต้องเสียค่าสิทธิรายเดือน 8 พันบาท หรือ 8.5 พันบาทต่อเดือน ซึ่งจะมีอายุสัญญาแฟรนไชส์ 3 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ายอดขายธุรกิจร้านกาแฟเฉลี่ยประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  คุณสมยศ วชิรธาดา 
  • โทร : 064-1815527, 02-3558400 
  • E-mail : mkbcr-franchise@bangchakretail.com, mkbcrfranchise@gmail.com

อ้างอิงจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
 
สุดยอดแฟรนไชส์น่าสนใจ

ท็อปส์ เดลี่

ค้นพบความสุขทุกวันในแบบคุณกับ “ท็อปส์ เดลี่” ชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบใหม่ พร้อมความหลากหลายสุดสนุก ทั้งสินค้า,โปรโมช..

มาโนอิ

MANOI マノイมาโนอิ จากความชื่นชอบดื่มชานมไข่มุก ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะสานต่อความชอบให้ออกมาในรูปแบบของธุรกิจ ส่งต่อความอร่อยแบบห..