เชื่อหรือไม่ว่าจีนเป็นตลาดชานมและชาผลไม้ หรือเรียกว่าเครื่องดื่มแนวใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในจีนมีร้านเครื่องดื่มชาแนวใหม่มากถึง 515,000 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 1 สาขาต่อประชากรประมาณ 3,111 คน 

 

สาขาส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ ทำให้แต่ละแบรนด์สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อความต้องการของตลาดในประเทศอิ่มตัวและอยู่ในภาวะล้นตลาด ทำให้แบรนด์แฟรนไชส์ชาผลไม้ของจีนวางกลยุทธ์การเติบโตในตลาดต่างประเทศ

 

แบรนด์ชาจีนหลายๆ เจ้า เริ่มอิ่มตัวในตลาดบ้านของตัวเอง จึงต้องวางกลยุทธ์เดินหน้าขยายตลาดไปทั่วโลก โดยส่วนใหญ่จะโฟกัสกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว รวมถึงประเทศไทย เพราะตลาดยังเติบโตได้อีกมาก 

 

ข้อมูลจาก MOMENTUM WORKS ระบุว่า ในปี 2021 ตลาดชานมไข่มุกและชาผลไม้ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่ากว่า 3,660 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 118,470,526,092 บาท 
 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

 

ปัจจัยทำให้มูลค่าตลาดชาผลไม้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโต มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่เปิดรับเมนูใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ และมีส่วนผสมของผลไม้สดๆ ทำให้ในตลาดชาผลไม้ในแต่ละประเทศเติบโต เฉพาะในไทยมีร้านชามากกว่า 31,000 แห่ง มีการใช้จ่ายในตลาดสูงกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เติบโตเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี
 

จึงไม่แปลกที่แบรนด์ชาจีนหลายๆ เจ้า เลือกขยายตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเราเอง ที่แบรนด์ชาจีนเลือกใช้เป็นสมรภูมิปะลองฝีมือกัน ไม่เฉพาะแบรนด์จีนแข่งขันกันเอง ยังมีแบรนด์ไทย ไต้หวันร่วมอีกด้วย  

 

แบรนด์ชาผลไม้จีนที่เป็นผู้เล่นหลักๆ ในจีนและต่างประเทศ อาทิ Auntea Jenny, Mixue, GoodMe, Chagee, Chabaidao, Modern China Tea, Shuyi Shaoxiancao, Xinshiqi, HeyTea, Nayuki, Chapanda, Naixue ฯลฯ 

 

แบรนด์ชาจีนดังกล่าวข่างต้น มีทั้งเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยและยังไม่เข้ามาเปิด แต่ที่คาดว่าจะเข้ามาในไทยเร็วๆ นี้ และมีความน่าสนใจ ก็คือ Auntea Jenny แฟรนไชส์ชาผลไม้จีนที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรก สามารถระดมทุนได้ 273 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราวๆ 35 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

เรื่องราวความเป็นมาและกลยุทธ์ธุรกิจของ Auntea Jenny มีความน่าสนใจอย่างไร มาดูกัน

 

 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

แฟรนไชส์ชานมไข่มุก Auntea Jennny สัญชาติจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยสองสามีภรรยาชื่อ (คุณชาน) Shan Weijun และ (คุณโจว) Zhou Rongrong เปิดสาขาแรกที่จัตุรัสประชาชน หรือ People's Square ในเซี่ยงไฮ้ ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยสาขาแรกสามารถทำกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 400,000 หยวนต่อเดือน

 

ย้อนกลับไปก่อนที่คุณชานและคุณโจวจะมาเปิดร้านชาสาขาแรกในเซี่ยงไฮ้ พวกเขาทำงานตำแหน่งผู้จัดการระดับสูงในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง และบริษัทได้ย้ายจากมณฑลซานตงไปเซี่ยงไฮ้ในปี 2011 บังเอิญว่าวันหนึ่งพวกเขาสังเกตเห็นลูกค้ายืนแออัดในร้านเล็กๆ เพื่อซื้อชานมไข่มุกกับชาข้าวเหนียวแดง ทำให้ฉุกคิดได้ว่าธุรกิจชานมไข่มุกจะกลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตในอนาคตได้ 

 

คุณชานจึงได้เดินทางไปไต้หวัน เพื่อศึกษาอุตสาหกรรมชานมที่กำลังเฟื่องฟูในเกาะแห่งนี้ เขาพบว่าในไต้หวันมีร้านชามากกว่า 20,000 แห่งในพื้นที่ที่มีประชากรเพียงแค่ 23 ล้านคน เขาจึงมองทะลุไปอีกขั้นว่าประเทศจีนมีแผ่นดินที่ใหญ่กว่าน่าจะสามารถรองรับร้านชานมได้หลายล้านแห่ง ทำให้อีก 2 ปีถัดมาพวกเขาจึงได้มาเปิดร้านชานมสาขาแรกที่เซี่ยงไฮ้นั่นเอง  

 

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา จากร้านชานม  Auntea Jenny สาขาแรกในเซี่ยงไฮ้ ได้ขยายสาขาอย่างรวดเร็วไปยังเมืองระดับรองๆ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจทั่วประเทศจีน 

 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

ต่อมาเดือน ก.พ. 2024 แฟรนไชส์ชานม Auntea Jenny ขยายตลาดในต่างประเทศครั้งแรก โดยเปิดสาขาแรกที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และในช่วงปลายปีเดียวกัน Auntea Jenny ได้เปลี่ยนโลโก้ให้เป็นแบบปัจจุบัน คือ ผู้หญิงยิ้มสวมหมวกกับทรงผมบ็อบย้อมเป็นสีส้ม โดยในสิ้นปีนั้น Auntea Jenny มีสาขามากกว่า 8,000 สาขาใน 300 เมืองในจีนและมาเลเซีย   
 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

 

วันที่ 8 พ.ค. 2025 บริษัท อานเทีย เจนนี่ เซี่ยงไฮ้ อินดัสเทรียล จำกัด หรือ (Auntea Jenny (Shanghai) Industrial Co. Ltd.) เจ้าของแฟรนไชส์ชานม Auntea Jenny ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 

 

โดยเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรก สามารถระดมทุนได้ 273 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราวๆ 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้สองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งคุณ Shan Weijun และ Zhou Rongrong มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกันกว่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

 

และในเดือนเดียวกันแฟรนไชส์ Auntea Jenny ได้ขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา เปิดสาขาแรกที่ควีนส์นิวยอร์ก ทำให้ในปัจจุบัน Auntea Jenny มีสาขามากกว่า 9,176 สาขาทั่วโลก 

 

ปัจจุบันแฟรนไชส์ Auntea Jenny เป็นแบรนด์ชาอันดับ 1 ในภาคเหนือของจีน และอันดับ 3 ชานมราคาปานกลางชั้นนำในจีน
 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

 

โดยสาขา Auntea Jenny เกือบทั้งหมด (หรือ 99.3% ตามลำดับ) เป็นสาขาแฟรนไชส์ นั่นหมายความว่ารายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการขายสินค้าและบริการให้กับแฟรนไชส์ซี

 

ผู้ก่อตั้ง Auntea Jenny อย่างคุณ Shan Weijun และ Zhou Rongrong ทั้งคู่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการชาวจีน ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในการขับเคลื่อนกระแสชาชงสด เช่นเดียวกับเจ้าของแฟรนไชส์ชาผลไม้ Chagee และ Mixue

 

แฟรนไชส์ชาผลไม้ Chagee เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในอเมริกา เมื่อเดือน เม.ย. 2025 ส่งผลให้ผู้ก่อตั้งวัย 30 ปีอย่างคุณ Junjie Zhang กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินสุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

 

ขณะเดียวกัน ดียวกัน สองพี่น้องผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ร้านชาและไอศกรีมราคาประหยัดอย่าง Mixue ก็ได้กลายเป็นเศรษฐีมีความมั่งคั่งรวมกันกว่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่บริษัทเสนอขายหุ้น IPO ในประเทศฮ่องกงเมื่อต้นปี 2025
 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

 

คุณ Shan Weijun และ Zhou Rongrong ผู้ก่อตั้ง Auntea Jenny ก่อนจะร่ำรวยจากเครื่องดื่มชา ทั้งคู่มีอายุ 48 ปี เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสของ Amway (ประเทศจีน) เป็นผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพรายใหญ่ในจีน 

 

สำหรับเป้าหมายการขยายตลาดต่างประเทศของ Auntea Jenny ปัจจุบันมีสาขาในสหรัฐอเมริกา 1 สาขา ในประเทศมาเลเซีย 30 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 100 สาขาในรปี 2025 นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาไปยังออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และยุโรป 

 

อย่างไรก็ตามแฟรนไชส์ Auntea Jenny ต้องเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เมื่อปี 2024 บริษัทมีรายได้ลดลง 2% เหลือ 3,300 ล้านหยวน (453 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่กำไรสุทธิลดลง 15% เหลือ 329 ล้านหยวน
 

ภาพจาก www.facebook.com/AunteaJennyMY

 

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)