บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
507
2 นาที
18 กุมภาพันธ์ 2568
Brand Identity Prism 6 ปัจจัยสร้างสินค้าให้คนอยากซื้อ
 

ทำไมสินค้าตัวนี้ขายดี! อันนี้ก็เป็นสินค้าที่คล้ายกันเหมือนกันแต่ขายไม่ได้! จุดแตกต่างของสินค้าทั้ง 2 อย่างนี้คือ “ความต้องการอยากซื้อ” ที่ไม่เท่ากันของลูกค้า ซึ่งสามารถสร้างได้โดยการใช้ Framework อย่าง Brand Identity Prism หรือจะเรียกอีกอย่างว่าคืออัตลักษณ์ของแบรนด์ก็ได้
 
 
Brand Identity Prism คือการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความละเอียดให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียว เป็นที่จดจำได้ง่าย สะท้อนคุณค่าหลักของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน สื่อสารตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้  องค์ประกอบสำคัญ มี 6 ปัจจัยคือ
  1. Physiqe (ลักษณะแบรนด์ที่เห็น) - คือสิ่งที่ลูกค้าจะอนึกถึงเมื่อพูดถึงแบรนด์ ทั้งโลโก้ โทนสี ไปจนถึงรูปลักษณ์ต่างๆ
  2. Brand Personality (บุคลิกภาพของแบรนด์) – การที่ระบุว่าแบรนด์มีบุคลิกภาพเป็นอย่างไร มีผลต่อการใกล้ชิดของลูกค้าได้
  3. Brand Culture (วัฒนธรรมของแบรนด์) คือ การระบุถึงที่มาของแบรนด์ หรือการนำเอาความเป็นท้องถิ่นที่ถือกำเนิดมาใช้เป็น Brand Culture เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผูกผัน
  4. Relationship (ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์) เช่น การบริการ หลังการขาย เป็นต้น โดยสิ่งนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ และกลายมาเป็น Customer Loyalty
  5. Customer Reflection (ฐานลูกค้า) เป็นภาพสะท้อนถึงตัวแบรนด์ที่เชื่อมโยงสินค้าเข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และการที่จะสามารถรู้ได้ว่าลูกค้ามองแบรนด์อย่างไร ต้องมีการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
  6. Customer Self Image (สิ่งที่ลูกค้ารับรู้จากการใช้แบรนด์) คือ ภาพลักษณ์ที่อยู่ในใจของลูกค้า มีจุดเริ่มมาจากการได้ใช้สินค้าหรือบริการในครั้งแรก
ซึ่งวิธีการสร้าง Brand Identity จะเริ่มต้นด้วย การวิเคราะห์ SWOT ภาพรวมของทั้งแบรนด์ ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น จากนั้นจึงกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ เช่นหากสินค้ามีความหรูหรา การโฆษณาก็ควรที่จะออกแบบมาให้ตรงกับภาพลักษณ์ที่หรูหรา เป็นต้น เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้วก็เป็นการระบุกลุ่มเป้าหมาย และกำหนดข้อความที่ต้องการสื่อสาร
 
มีตัวอย่างของหลายแบรนด์ที่นำเอา Brand Identity Prism มาให้อย่างได้ผลเช่น
 
 
McDonald’s -  มีการใช้โลโก้ที่จดจำได้ง่าย และการสร้างภาพจำที่ชัดเจน สีแดงและสีเหลือง รวมไปถึงโลโก้ตัว M ที่เป็นเอกลักษณ์ และภาพจำของแบรนด์ที่ขายแฮมเบอร์เกอร์ ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายทั้งหน้าร้าน เดลิเวอรี่ 
 
BMW - มีการสร้าง Brand Identity ที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่โลโก้รูปใบพัด การใช้โทนสีขาวน้ำเงิน และที่สำคัญคือการออกแบบสินค้าให้มีเอกลักษณ์คือ รถทุกรุ่นของ BMW จะมีกระจังหน้ารูปเหมือนไตคู่ ทำให้ทุกคนสามารถจดจำได้อย่างดี
 
Apple – ชูจุดเด่นด้วยโลโก้รูปแอปเปิ้ลที่แหว่ง เน้นความเป็นแบรนด์ที่ดูทันสมัยตลอดเวลา มีความเป็นมิตรและสร้างความผูกพันทางอารมณ์ร่วมกับลูกค้าได้อย่างดี
 
 
Starbucks – สร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจนเน้นรูปแบบที่รู้จักกันทั่วไป รวมถึงการสร้างวัฒนธรรม (Culture) ของ Starbucks มีพื้นฐานมาจากการให้คำมั่นสัญญา รวมถึงความเคารพในตัวคนและสิ่งแวดล้อม Starbucks สะท้อน (Reflection) ให้เห็นถึงการเชื่อมชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนเข้าไว้ด้วยกันได้ด้วย
 
Brand Identity Prism เป็นกลยุทธ์น่าสนใจ สามารถใช้เป็นกรอบปฏิบัติสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างจุดเด่นให้ลูกค้าจดจำและอยากซื้อสินค้า แน่นอนว่า Brand Identity Prism สามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือทางการตลาดอื่นๆ ได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
598
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
484
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
461
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
407
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
399
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
390
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด