บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.8K
1 นาที
3 มกราคม 2568
ต้นทุนร้านอาหาร ปี2568 ไม่อยากเจ๊งต้องดู!

 
ถ้าให้เลือกทำธุรกิจสักอย่าง คนส่วนใหญ่ต้องโฟกัสธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหาร เพราะเชื่อว่ายังไงก็ต้องขายได้ ยากดีมีจนแค่ไหนคนเราก็ยังต้องกิน 
 
ในความเป็นจริงอีกด้านการลงทุนทำธุรกิจอาหารก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จได้ ปัจจัยเสี่ยงมีหลายด้านทั้งกำลังซื้อที่หดหาย , คู่แข่งที่เยอะมาก หรือแม้แต่เรื่องต้นทุนด้านต่างๆ ก็มีผลต่อกำไรเช่นกัน โดยมีการประเมินสถานการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารปี 2568 จะมีอัตราการเติบโตคงที่หรืออาจลดลง 2-3% ก็มาจากเหตุผลในหลายๆด้านตามที่ได้กล่าวไป
 
เคล็ดลับสำคัญของคนทำร้านอาหารในปี 2568 ไม่ใช่นึกจะทำอะไรตามใจก็ได้ จำเป็นมากที่ต้องสนใจเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค และเลือกรูปแบบร้านให้มีความเฉพาะเจาะจงตรงความต้องการลูกค้าเช่น
 

1.ร้านอาหารเต็มรูปแบบ (Full Service) มีมูลค่า 213,000 ล้านบาท โอกาสเติบโตประมาณ 2.9% จากปี 2567 โดยร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ยังได้รับความนิยมเพราะความคุ้มค่า ส่วนร้านอาหารอะลาคาร์ท เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไทย ตะวันตก ราคาระดับกลางๆ จะเจอกับความท้าทายจากกำลังซื้อและการแข่งขันจากคู่แข่ง
 
2.ร้านอาหารให้บริการจำกัด (Limited Service) คาดว่ามีมูลค่า 93,000 ล้านบาท เป็นการขยายตัวมาจากกลุ่มร้าน พิซซ่า และไก่ทอด รวมถึงร้านแบบ Full Service ปรับรูปแบบร้านเป็นแบบ Quick Service มากขึ้น
 
3.ร้าน Street Food มีมูลค่า 266,000 ล้านบาท เหตุผลที่คนนิยมเพราะเมนูเข้าถึงง่าย ราคาไม่แพง กินง่าย ขายง่าย อีกทั้งเป็นกลุ่มร้านที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
 
 
อย่างไรก็ดีการคำนวณต้นทุนของอาหาร เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจนี้ต้องพึงระวังให้ดี บางครั้งเราเคยเจอกับคำว่าขายดีจนเจ๊งก็เพราะไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง ต้นทุนที่ควรรู้ในการทำธุรกิจร้านอาหารปี 2568 ได้แก่
  1. ต้นทุนวัตถุดิบ (COG) 30-35%
  2. ต้นทุนแรงงาน (Labor cost) 15-20%
  3. ค่าเช่า (Occupancy Cost) 15-20%
  4. ต้นทุนการตลาด (Marketing Cost) 10-15%
  5. ต้นทุนบริหารจัดการ (General & Admin Cost) 1-5%
  6. ต้นทุนสาธารณูปโภค (Utility Cost) 1-5%
  7. ต้นทุนอื่นๆ (Miscellaneous costs) 5%
หรือถ้าทำขายตลาดนัด ไม่ได้เป็นรูปแบบธุรกิจร้านอาหาร ก็ให้บวกเข้าไปสัก 10-15 % ของ Food Cost เผื่อค่าน้ำค่าไฟค่าแก้ส ค่าจิปาถะ เป็นต้น
 
 
ทั้งนี้หากคิดรวมต้นทุนทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ไม่ควรเกิน 80% ของยอดขายในแต่ละเดือนซึ่งจะเหลืออีก 20% เป็นกำไร ซึ่งการทำธุรกิจร้านอาหารก็ไม่ควรที่จะได้กำไรหรือ Net profit ต่ำกว่า 10-15% ซึ่งถ้าธุรกิจร้านอาหารสามารถทำกำไรได้ 20% ขื้นไปโดยเฉลี่ยก็จะคุ้มค่ากับการลงทุนและสามารถคืนทุนภายในช่วงเวลาที่เหมาะสม 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
423
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด