บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
529
2 นาที
20 พฤศจิกายน 2567
ตัวเล็กแต่ทรงพลัง! โลตัส โกเฟรซ! มินิบิ๊กซี! ร้านเล็ก ยอดขายเงินล้าน
 

โมเดล “ร้านขนาดเล็ก” ยุคนี้อาจทรงพลังกว่า “ร้านขนาดใหญ่” แม้แต่ธุรกิจค้าปลีกทั้งหลายก็หันมาใช้โมเดลร้านขนาดเล็กเจาะกลุ่มลูกค้า เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น 
 
มองเห็นตัวอย่างกันชัดๆ อย่าง บิ๊กซีที่ใช้โมเดล “มินิบิ๊กซี” เข้าถึงลูกค้า เปิดปีละ 200-300 สาขา

 
หรือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่จะใช้โมเดลสาขาเล็ก “โลตัส โก เฟรช” เปิดเพิ่มปีละ 120-150 สาขา
 
เช่นเดียวกับ “ซีเจ มอร์” ค้าปลีกโมเดลใหม่ที่เป็นมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไป เปิดเพิ่มปีละประมาณ 250 สาขา
 
 
รวมถึง 7-Eleven ที่ปรับโมเดลร้านสะดวกซื้อให้มีความครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าในทุกพื้นที่ได้มากขึ้น
 
ประการแรกของการปรับลดขนาดร้านจากใหญ่ไปเล็กคือการประหยัดงบในด้านการลงทุน แม้กระทั่ง OR ยังมีโมเดล “ปั๊มชุมชน” ที่ลดเงินลงทุนได้ถึง 30% จากปกติ 35-40 ล้านก็เหลือประมาณ 10-20 ล้าน เป็นต้น
 
คำถามต่อมาคือเมื่อลดขนาดร้านลงมา โอกาสสร้างยอดขาย จะดีแค่ไหน?
 
 
หนังสือเรื่อง The Millionaire Fastlane กล่าวถึงวิธีการเป็นเศรษฐีเงินล้านไว้อย่างเรียบง่ายและน่าสนใจว่า “TO MAKE MILLIONS, YOU MUST IMPACT MILLIONS” แปลก็คือ “ถ้าหากคุณอยากได้เงินล้าน คุณก็ต้องทำในสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน” นั่นหมายความว่าขนาดร้านเล็กหรือใหญ่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สำคัญว่าเราขายได้มากแค่ไหน 
 
ลองคำนวณว่า
 
ถ้าเราขายของกำไรชิ้นละ 1,000 บาท ให้คน 1,000 คน เราจะมีกำไร 1,000,000 บาท
 
แต่ถ้าเราขายของกำไรชิ้นละ 1 บาท ให้คน 1,000,000 คนเราก็จะได้กำไร 1,000,000 บาทเช่นกัน
 
หรือให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ขายของกำไรชิ้นละ 10 บาท ให้คน 100,000 คน เราก็ได้ 1,000,000 บาทเช่นกัน
 
 
ถ้าดูจากตัวอย่างของร้านค้าปลีกเป็นหลักจะเห็นว่าร้านเล็กนี่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่าร้านใหญ่ จำนวนคนที่เข้าร้านก็มากกว่า แม้คู่แข่งจะมากแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ และต้องยอมรับว่านี่คือการตลาดแบบโลกยุคใหม่ที่ต่างไปจากอดีตมาก
 
สอดคล้องกับสูตรวิธีการหาเงินล้าน = กำไรต่อหน่วย x จำนวนลูกค้า และแน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงเพื่อเอากำไรเยอะ แต่เน้นขายในปริมาณมากเพื่อให้ได้กำไรเยอะจะดีกว่า เพราะยุคนี้คนส่วนใหญ่ชอบสินค้าที่ราคาไม่แพง จะกระตุ้นให้คนอยากซื้อได้มากขึ้น
 
เมื่อเป็นโมเดลขนาดเล็กต้นทุนเราต่ำลง การตั้งราคาก็สมเหตุสมผลกับราคาที่ลูกค้าจ่ายไหว ยังไม่รวมวิธีการแบบ Online to Offline โดยนำสาขามาเป็นฐานการจัดส่งสินค้าออนไลน์แก่ผู้บริโภคในทำเลใกล้เคียง ทำให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้เพิ่มขึ้น
 
 
วิธีการที่ธุรกิจขนาดใหญ่ “ลดขนาดร้าน” แต่ไม่ได้ลดในเรื่องคุณภาพหรือบริการ หากแต่ยุคนี้คือการแข่งกันที่ความเร็วในการเข้าถึงลูกค้าว่าใครจะทำได้ดีกว่า ดังนั้นการเปิดร้านขนาดเล็กจึงเป็นอีกวิธีสร้างเงินล้านให้กับคนทำธุรกิจได้ 
 
ในมุมของคนตัวเล็กๆ ที่อาจยังแค่เริ่มต้นก็มีสิทธิ์ขายของกำไรไปแตะหลักล้านได้เหมือนกัน อย่าไปกลัวว่า มีคู่แข่ง แล้วจะขายได้ยังไง เรามาทีหลัง เขามาก่อน จะสู้เขาได้ยังไง ก้าวแรกที่เราต้องทำคือ “ขายอะไรก็ได้” ที่เราถนัด เพราะสินค้าทุกชนิดมีฐานลูกค้าของตัวเอง

สำคัญคือ “ไอเดียการขาย” ที่ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าถ้าคิดหาอะไรใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมไม่ได้ ก็ลองขายในสิ่งที่พอคิดออก สิ่งที่มีคนอยากได้ แล้วมานั่งหาวิธีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจำนวนมากดู เราก็สามารถประสบความสำเร็จตามสูตรเงินล้านได้เหมือนกัน

ถ้ายังไม่เห็นภาพจะลองนึกไปถึงสินค้าดูบ้างก็ได้อย่าง Lobo ขายซองละ 20 บาท แต่ก็ยังมีรายได้มากถึง 1,670 ล้านบาท หรือแม้แต่กระดาษทิชชู่ ที่ขายห่อละ 20 บาทเช่นกัน ก็ยังสร้างรายได้มากถึง 500 ล้านบาท 
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด