ชานมไข่มุกซีอิ้วหวานอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ล่าสุดที่เรารู้ หลายคนบอกว่านี่ไม่ใช่สินค้าที่ทำออกขายเขาแค่ทำมาเป็นของรางวัลให้แก่คนที่เข้าร่วมกิจกรรม แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร www.ThaiFranchiseCenter.com ก็มองว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ไอเดีย” ที่สำคัญมากกับการทำธุรกิจยุคนี้ ลำพังจะขายแต่สินค้าเดิมๆ ไม่เพิ่มเติมสีสันหรือทำอะไรให้คนรู้จัก นอกจากแบรนด์จะไม่เข้าถึงลูกค้า ยังไม่มีเรื่องราวให้พูดถึงจดจำ ในภาวะที่การแข่งขันสูงขึ้น แบรนด์ควรทำอย่างไรก็ได้ให้คนรู้จักและพูดถึงไม่ใช่มั่นใจแต่คุณภาพและสินค้าที่ตัวเองมีเท่านั้น

 

ภาพจาก bit.ly/2vJCTE1

 

ซึ่งการหน้านี้ หยั่น หว่อ หยุ่น ของแบรนด์ตราเด็กสมบูรณ์ ก็เป็นที่พูดถึงและฮือฮาในโลกโซเชี่ยลอย่างมากกับสินค้าที่เรียกว่า “ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟซีอิ๊วดำ”ซึ่งหลังจากมีไอศกรีมซีอิ๊วดำแล้ว เด็กสมบูรณ์ยังเพิ่มไอศกรีมรสชาติใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นรสเต้าเจี้ยว รสบ๊วยเจี่ย รวมทั้งยังเพิ่มไอศกรีมแบบฮาร์ดเสิร์ฟ ทั้งแบบตักและแบบถ้วย เพื่อความสะดวกในการนำไปออกงาน หรือการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติมได้สะดวกมากขึ้นด้วย ซึ่งนอกจากไอศกรีมแล้วยังมีเครื่องดื่มสเลอปี้บ๊วยเจี่ยเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของบูธเด็กสมบูรณ์ในทุกๆ ครั้งที่ออกงานอีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/2vJCTE1

 

ไอเดียต่อยอดของ หยั่น หว่อ หยุ่น ก็ยังไม่ได้หยุดแค่นั้น ซึ่งเราคงเคยได้ยิน “ชานมไข่มุกซีอิ๊วดำ” ที่เปิดตัวมาก็ฮือฮาไม่แพ้กันซึ่งจำได้ว่าในตอนนั้นกระแสของชานมไข่มุกกำลังมาแรงมากและหยั่น หว่อ หยุ่น ก็จับเอาเทรนด์ชานมไข่มุกมาผสมผสานกับสินค้าของตัวทั้งที่มองเผินๆไม่น่าจะเอามารวมกันได้ แต่หยั่น หว่อ หยุ่น ก็ทำได้น่าสนใจมากทีเดียว

ภาพจาก bit.ly/2TEn4aF

 

แต่ดูเหมือนว่าคู่แข่งสำคัญในตลาดเครื่องปรุงรสจากค่ายง่วนเชียง ก็ได้วางกลยุทธ์ในการสร้างกระแสให้กับแบรนด์ด้วยเกมที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะการต่อยอด Usage ให้กับสินค้าเครื่องปรุงด้วยการเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูของหวาน ด้วยสินค้าในกลุ่มซีอิ๊วดำเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังใช้เมนูยอดฮิตอย่าง “ชานมไข่มุก” เช่นเดียวกันอีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/2TEn4aF

 

สำหรับง่วนเชียง พยายามสื่อสารเพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์ของแบรนด์ว่า “ง่วนเชียงทุกหยดเพิ่มรสอร่อย” พร้อมชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ซีอิ๊วดำที่ทำมาจากน้ำตาลอ้อย จึงน่าจะไปด้วยกันได้กับการเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มหรือท้อปปิ้งเมนูต่างๆ

ภาพจาก bit.ly/2TEn4aF

 

คำถามคือสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อคืออะไรกันแน่ อยากเพิ่มยอดขาย หรือแค่การสร้างกระแสให้คนรู้จัก คำตอบของเรื่องนี้หลักๆแล้วน่าจะเป็นความพยายามที่จะพัฒนาแบรนด์ให้ดูมีความทันสมัยทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์มีความทันสมัยและใกล้ชิดผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมโยงแบรนด์มาสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยการครีเอทผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงลูกค้าทั่วไปได้กว้างมากขึ้นกว่าการเป็นแค่สินค้าเครื่องปรุงรสที่อยู่แค่ในครัว หรือหน้าเตาเท่านั้น

 

ภาพจาก bit.ly/2Q4RnoM

 

ถ้ามองในเรื่องสินค้ายอมรับว่ามีความแปลกแต่หากมองในด้านกลยุทธ์แล้ว เรื่องนี้ไม่แปลกเพราะแบรนด์ระดับโลกหลายแห่งก็ใช้แนวทางนี้ในการพัฒนาสินค้าให้ดูทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้มากขึ้น โดยเฉพาะ “McDonald” ที่เราเห็นมีการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เกี่ยวข้องบ้างไม่เกี่ยวข้องบ้าง แต่ก็อยู่ภายใต้แบรนด์ของ McDonald ทั้งสิ้น 

ภาพจาก bit.ly/2IEARaO

 

ยกตัวอย่าง “เทียนหอม McDonald” ที่จับเอากลิ่นแฮมเบอร์เกอร์ Quarter Pounder ไปทำเป็นเทียนหอม โดยเทียนหอมกลิ่น Quarter Pounder ขายเป็นชุด รวม 6 ชิ้นเป็น 1 แพค ตามส่วนผสมของเมนู คือ เนื้อสด ซอสมะเขือเทศ แตงกวาดอง ชีส หอมหัวใหญ่ และขนมปังเบอร์เกอร์ผสมงา ซึ่งถ้าจุดเทียนหอมทั้งหมดรวมกันจะได้กลิ่นหอมความอร่อยของ Quarter Pounder อย่างสมบูรณ์ ราคาขายของเทียนหอมกลิ่น Quarter Pounder อยู่ที่ 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,109 บาท ต่อ 1 แพค

ภาพจาก bit.ly/2W3OtVe

 

หรือแม้แต่แบรนด์ดังอย่าง KFC ก็มีการออกสินค้ารายการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ไม่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นการที่ KFC จับมือกับ Crocs ออกคอลเลกชันใหม่รองเท้า Crocs ลายไก่ทอดเคเอฟซีมีพื้นสีขาวสลับแดงลายเดียวกับ Bucket หรือถังไก่ทอดเคเอฟซี ประดับข้างด้วยน่องไก่ที่ทำให้ดูเป็นรองเท้าที่น่ากินที่สุดในโลก รองเท้า Crocs ที่เปิดตัวจับมือกับ KFC นี้ทำมา 2 สไตล์ เป็น KFC x Crocs Bucket Clog คือรองเท้า Crocs ลายไก่ทอด KFC ที่มีถังไก่ทอดติดมาด้วย ราคาอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,860 บาท

 

แนวคิดเหล่านี้แบรนด์ไม่ได้หวังเรื่องยอดขายหรือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ สิ่งสำคัญคือ “เพิ่มการรับรู้” และเข้าถึง “ลูกค้า” ได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้ากับการจำหน่ายสินค้าและเข้าไปอยู่ในความทรงจำของลูกค้าที่เมื่อนึกถึงร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าที่ต้องการใช้ จะได้นึกถึงแบรนด์เป็นอันดับแรกๆ ที่จะการันตีว่าธุรกิจมีฐานลูกค้ามากขึ้นและมียอดขายเพิ่มมากขึ้นในอนาคตได้ด้วย

 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)