บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    กฎหมายและข้อบังคับ    แผนธุรกิจแฟรนไชส์
5.4K
2 นาที
17 มกราคม 2563
คลอดแล้ว! กฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมธุรกิจแฟรนไชส์ บังคับใช้ 4 ก.พ.63


สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จัดประชุมเพื่อสร้างความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ พ.ศ.2562 โดยมีสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สมาคมแฟรนไชส์ไทย และบริษัทไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ จำกัด เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ในวันที่ 17 ม.ค. 63

ปัจจุบันหลายๆ ประเทศทั่วโลกยังไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์บังคับใช้ แต่สำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียนเริ่มมีกฎหมายแฟรนไชส์ (Franchise Law) บังคับใช้แล้ว โดยปัจจุบันมี 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ส่วนประเทศที่ยังไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์โดยเฉพาะมี 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ สปป.ลาว กัมพูชา และบรูไน


อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะยังไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์บังคับใช้ แต่ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้คลอดกฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมธุรกิจแฟรนไชส์ โดยได้กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามทำไว้ 6 ข้อ เพื่อช่วยสร้างความเป็นธรรมในการทำธุรกิจ ระหว่างเจ้าของแฟรนไชส์กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งไกด์ไลน์แฟรนไชส์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.63 เป็นต้นไป
 
สำหรับกฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ หรือไกด์ไลน์แฟรนไชส์ดังกล่าวจะเป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยและผู้เกี่ยวข้องได้ทราบกันครับ  


 
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เลขานุการคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง “แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ พ.ศ. 2562” ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2562 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป 
 
โดยประกาศกฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ดังกล่าว ได้มีการปรับแก้เล็กน้อยจากร่างเดิม หลังจากผ่านการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนทั่วไปทางเว็บไซต์ www.otcc.or.th ไปเมื่อวันที่ 19 ส.ค. – 20 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา รวมทั้งจากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2562


มีรายละเอียดเพิ่มเติมคือ เพื่อใหัการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์มีการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม และโปร่งใส แฟรนไชส์ซอร์ต้องเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ของตนใหัแก่แฟรนไชส์ซี ก่อนทำสัญญาแฟรนไชส์ เช่น 
  1. ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินธุรกิจ
  2. แผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ การช่วยเหลือการสนับสนุน คำแนะนำการดำเนินธุรกิจในอนาคต
  3. สาระเกี่ยวกับสิทธิในเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และลิขสิทธิ์ทีเกี่ยวข้องช่วงเวลาที่มีผลบังคับใช้
  4. การต่อสัญญาแฟรนไชส์ การแก้ไข การยกเลิก การเพิกถอนสัญญาแฟรนไชส์

นอกจากนี้ ในเรื่องการขยายสาขาโดยแฟรนไชส์ซอร์เป็นผู้บริหารและดำเนินการด้วยตัวเอง จะต้องแจ้งให้แฟรนไชส์ซีที่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้เคียงที่สุดได้ทราบและให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อน
 
สำหรับประกาศกฎการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ มีเป้าหมายต้องการจัดระบบการค้าให้มีธรรมาภิบาล และมีหลักปฏิบัติที่ชัดเจนในการสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติทางการค้าให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นระบบและมาตรฐานสากล อันจะเป็นการพัฒนาระบบการค้าในธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีความเข้มแข็ง 
 
และเกิดประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป ซึ่งไกด์ไลน์ในธุรกิจแฟรนไชส์ฉบับนี้ได้กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามและอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ไว้ 6 ข้อ ประกอบด้วย 
 
6 ข้อห้ามในธุรกิจแฟรนไชส์ มีอะไรบ้าง
 
โดยไกด์ไลน์ในธุรกิจแฟรนไชส์ฉบับนี้ ได้กำหนดพฤติกรรมที่เป็นข้อห้ามและอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ไว้ดังนี้
  1. การกำหนดเงื่อนไขที่จํากัดสิทธิแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าแฟรนไชส์ หรือต้องซื้อวัตถุดิบในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการใช้จริง
  2. การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหลังทำสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีซื้อสินค้านอกเหนือจากที่กำหนดไว้
  3. การห้ามแฟรนไชส์ซีซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิต ผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการรายอื่น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
  4. การห้ามแฟรนไชส์ซีขายลดราคาสินค้าที่เน่าเสียง่าย โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
  5. การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่างแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม
  6. การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาคุณภาพและมาตรฐานตามสัญญา

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม แฟรนไชส์ซอร์ต้องเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญให้แก่แฟรนไชส์ซีทราบก่อนตัดสินใจทำสัญญา เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ แผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ สิทธิในเครื่องหมายการค้า และการต่อ แก้ไข ยกเลิกสัญญา 
 
รวมทั้งในกรณีที่แฟรนไชส์ซอร์ จะเปิดสาขาใหม่เองนั้น จะต้องแจ้งแฟรนไชส์ชีที่มีสาขาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดทราบ และให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อน 


“การออกประกาศฉบับนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 
 
ควรศึกษาแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ซึ่งมีกำหนดโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด”


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
844
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
588
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
504
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
481
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด