|
|

28 มกราคม 2563
|
การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ พ.ศ.2562 (บังคับใช้ 4 ก.พ.63)
แฟรนไชส์ซอร์ต้องบอก
- ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เช่น Franchise Fee Royalty Fee เป็นต้น
- แผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น การให้ความช่วยเหลือ การฝึกอบรม เป็นต้น
- สาระเกี่ยวกับสิทธิเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และลิขสิทธ์ เกี่ยวกับช่วงเวลาที่มีผลบังคับใช้
- การต่อสัญญาแฟรนไชส์ การแก้ไข การยกเลิก การเพิกถอน สัญญาแฟรนไชส์
- การขยายสาขาโดยแฟรนไชส์ซอร์เอง ในแต่ละพื้นที่ของแฟรนไชส์ซี
แฟรนไชส์ซีต้องทราบ
- ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจต่างๆ
- การให้การช่วยเหลือด้านต่างๆรวมถึงการฝึกอบรม
- การได้รับสิทธิต่างๆในการซื้อแฟรนไชส์
- การต่อสัญญา การแก้ไข ยกเลิก ต้องระบุในสัญญาแฟรนไชส์
- การเปิดสาขาใหม่ของแฟรนไชส์ซอร์ในพื้นที่ของตัวเอง
แฟรนไชส์ซอร์ต้องปฏิบัติ
- แฟรนไชส์ซอร์ไม่บังคับแฟรนไชส์ซีให้ซื้อสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์ หรือซื้อวัตถุกิบปริมาณมากเกินจริง
- เมื่อมีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหลังจากเซ็นสัญญา แฟรนไชส์ซอร์ต้องแจ้งให้แฟรนไชส์ซีทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
- แฟรนไชส์ซอร์ห้ามตั้งเงื่อนไข โดยไม่มีเหตุอันควร เช่น การห้ามไม่ให้ซื้อ สินค้าและบริการจากผู้จัดจำหน่ายรายอื่นที่มีสินค้าเทียบเท่าหรือสูงกว่า
- แฟรนไชส์ซอร์ห้ามตั้งเงื่อนไข โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ห้ามแฟรนไชส์ซีขายลดราคาสินค้าที่ใกล้หมดอายุ/เน่าเสียง่าย
- แฟรนไชส์ซอร์ต้องปฏิบัติต่อแฟรนไชส์ซีโดยใช้มาตรฐานเดียวกัน เช่น การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างระหว่างแฟรนไชส์ซี
- แฟรนไชส์ซอร์ต้องไม่กำหนดเงื่อนไขที่นอกเหนือจากการรักษาคุณภาพ และมาตรฐานแฟรนไชส์
|
|
|