อ้างอิงข้อมูลจากรายงานการเงินของ Starbucks ในไตรมาส 2 ประจำปี 2019 ระบุว่า ปัจจุบัน Starbucks มีสาขาหน้าร้านทั่วโลกรวมทั้งหมดถึง 30,184 แห่ง แถมยังมีการประกาศจะขยายสาขาเพิ่มอีกกว่า 2,100 แห่งทั่วโลก แบ่งเป็นในสหรัฐอเมริกาประมาณ 600 แห่ง , จีนและเอเชียแปซิฟิกอีกประมาณ 1,100 แห่ง , ในยุโรปรวมถึงตะวันออกกลางและแอฟริกาอีกประมาณ 400 แห่ง นั่นหมายความว่าหากเป็นไปตามแผนนี้ Starbucks จะมีสาขาทั่วโลกภายในปี 2019 ประมาณ 32,284 แห่ง

 

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่า Starbucks คือหนึ่งในธุรกิจระดับโลกที่วางแผนรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทุกธุรกิจทั่วโลกได้เป็นอย่างดี อะไรที่ไม่สำคัญ Starbucks ตัดทิ้ง อะไรที่ยังไม่มี Starbucks ก็พัฒนาให้มีและดีกว่าเดิม

ภาพจาก bit.ly/2kDHzFL

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาร้าน Starbucks กว่า 8,600 สาขาทั่วอเมริกาประกาศเลิกวางขายหนังสือพิมพ์ระดับชาติ 3 ฉบับคือ นิวยอร์กไทมส์ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และยูเอสเอทูเดย์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อาหารว่างแบบซื้อแล้วกินทันที และถุงเมล็ดกาแฟ  และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Starbucks ได้พยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบร้านและลดเอาสิ่งที่ไม่ใช่สินค้าหลักของร้านออก โดยเมื่อปี 2015 Starbucks ก็เลิกขายซีดี และไม่นานมานี้ก็เพิ่งลดจำนวนของที่ระลึกของร้านลง เช่น แก้ว กระติกน้ำ  

ภาพจาก bit.ly/2kGdsgN

 

นโยบายของ Starbucks เริ่มชัดเจนว่าต้องการปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัย เน้นไปที่ความสะดวกสบาย และให้บริการลูกค้าได้แบบทันใจในทุกที่ทุกเวลา นั่นรวมถึงโปรเจคล่าสุดที่ทำเอา สาวกของ Starbucks ร้องอื้อฮือ ว่าอยากให้เกิดขึ้นจริงๆ และก็ดูเหมือนว่าฝันนั้นจะเป็นจริงกับ “การสั่งซื้อสินค้า Starbucks ผ่านแอพพลิเคชั่น”

 

ภาพจาก bit.ly/2lOeO9q

โปรเจคนี้อันที่จริงก็เป็นไปตามคำเรียกร้องของสาวก Starbucks ที่อยากให้มีการจัดส่งสินค้าแบบ Delivery ซึ่ง Starbucks ก็ดูเหมือนจะรับรู้ความต้องการนี้และได้เริ่มทดสอบการส่งกาแฟแบบ Delivery ที่ซีแอทเทิลและตึกเอมไพร์สเตท ในแมนฮัตตันและหลังจากที่ประสบความสำเร็จในขั้นทดลองเป็นอย่างดี Starbucks ได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทจะเริ่มทดสอบการ Delivery กาแฟขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยจะแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 ส่วนคือ

 

1.เริ่มทดลองให้บริการ Delivery จากสาขาในซีแอทเทิล โดยการให้บริการนี้จะอนุญาตให้ลูกค้าสั่งกาแฟและจ่ายเงินผ่านทางแอพของ Starbucks จากนั้นก็จะใช้ฐานข้อมูลตรงนี้ในการให้พนักงานจัดส่งกาแฟให้ถึงที่ครับ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือสำนักงานจะสั่งแก้วเดียวหรือ 10 แก้ว ก็ไปส่งแน่นอน

ภาพจาก Nation's Restaurant News

 

2.เริ่มทดสอบกับตึกเอมไพร์สเตทในแมนฮัตตัน โดยจะให้พนักงานไปส่งให้ตามชั้นต่างๆที่ลูกค้าออเดอร์เข้ามา

ภาพจาก bit.ly/2maLR82

 

การออกมาประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมที่ซีแอทเทิลของเหล่าผู้ถือหุ้นของ Starbucks นอกจากนี้สำหรับเรื่องของค่าบริการจัดส่งนั้นทาง Starbucks ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน  นอกจากนั้นแล้ว Starbucks ยังตระหนักถึงเรื่องของความเร็วในการจัดส่งเป็นอย่างมาก เพราะให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก และกำลังมองกันว่าจะทำการปรับปรุงตรงจุดไหน อย่างเช่นกระเป๋าที่จะบรรจุเป็นวัสดุแบบไหนดี แก้วเทคอเวย์ต้องปรับเปลี่ยนให้เก็บความเย็นได้นานขึ้นหรือไม่

ภาพจาก bit.ly/2lGFclH

 

สำหรับคอกาแฟ Starbucks ในเมืองไทยเห็นข่าวนี้ก็อย่าเพิ่งร้อนใจกันไป ด้วยตอนนี้เขากำลังทดสอบระบบเพื่อให้มีมาตรฐานก่อนที่จะขยายออกไปยังสาขาต่างๆทั่วโลก ซึ่งก็แน่นอนว่าในแต่ละประเทศการส่งสินค้าอย่างกาแฟเดลิเวอรี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้ง่ายๆ ทั้งหมด ด้วยสภาพการจราจรของแต่ละประเทศนั้นแตกต่าง จุดนี้ก็เป็นเรื่องที่ Starbucks จะต้องมาลองคิดคำนวณหาความเหมาะสมกันเป็นกรณีไป  แต่อย่างน้อยก็เป็นข่าวดีที่ให้คอกาแฟได้รู้สึกชื่นใจและมีความหวังว่าในอนาคตเราคงมีโอกาสสั่งกาแฟ Starbucks มาเสิร์ฟถึงโต๊ะทำงานได้บ้าง

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

ข้อมูลจาก
https://bit.ly/2maEsWi 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)