ภาพจาก www.facebook.com/chamichivietnam/

ปัจจุบันกระแสความนิยมของชานมไข่มุกในประเทศไทย พุ่งสูงขึ้น จนมีผู้นำเข้าแบรนด์ และเปิดร้านใหม่ เป็นจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงผู้บริโภคในตลาดนี้ ทวีความเข้มข้น และดุเดือด อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้กระทั่งร้านอาหารบางแห่ง ก็เพิ่มเมนูนี้เข้าไปด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นตลาดชานมไข่มุกในไทย มีมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านบาท 

 

แม้ตลาดชานมไข่มุกในเมืองไทยจะมีมูลค่าสูง แต่เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียนอย่าง “เวียดนาม” ถือว่าไทยยังห่างจากเวียดนามหลายเท่าตัว เพราะมูลค่าตลาดชานมไข่มุกในเวียดนามสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,573,000,000 บาท) สอดคล้องกับนักการตลาดของเวียดนามรายงานว่า มูลค่าตลาดชานมไข่มุกในเวียดนามเติบโตขึ้น 20% ต่อปี 

 

ทำไม? ความนิยมชานมไข่มุกในประเทศเวียดนามถึงสูงขึ้นทุกปี สร้างรายได้ในตลาดมูลค่ากว่า 9,573 ล้านบาท วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ทราบกันครับ 

 

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า ชานมไข่มุก ถือกำเนิดขึ้นในปี 1988 ที่ประเทศไต้หวัน โดยร้านชื่อ ชุนสุ่ยถัง ได้คิดค้นเมนูเครื่องดื่มแบบใหม่ ใส่เม็ดแป้งมันสำปะหลังต้ม ที่มีความเหนียวนุ่ม ผสมลงไปในน้ำชา ที่มีความหอมเป็นทุนเดิม 

ภาพจาก www.facebook.com/chamichivietnam/

 

ปรากฏว่า รสชาติเข้ากันได้พอดี ส่งผลให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนแพร่หลายไปหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย แม้ว่าต่อมา กระแสจะซบเซาลง เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มหันไปบริโภคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทน

 

แต่อย่างไรก็ตาม ชานมไข่มุก เริ่มกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2016 หลังไต้หวัน มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้สิทธิ์หลายประเทศ เข้าไต้หวันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งหน่วยงานต่างๆ เลือกชานมไข่มุก มาใช้เป็นสินค้าโปรโมต ในฐานะเครื่องดื่มประจำชาติ อีกทั้ง แบรนด์ต่างๆ ได้ปรับตัวตามเทรนด์ เช่น สามารถเลือกลดระดับความหวานลงได้ มีรสชาติ และส่วนผสมใหม่ๆ ทำให้ตลาดชานมไข่มุก กลับมาคึกคัก กลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของไต้หวัน สร้างงานกว่า 3 แสนตำแหน่งในไต้หวัน 

 

ภาพจาก facebook.com/chamichivietnam

 

สำหรับความนิยมชานมไข่มุกในประเทศเวียดนาม จนมีนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบร้านเครื่องดื่มในเวียดนามซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ชานมไข่มุกจากต่างประเทศเข้าไปเปิดเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งมูลค่าตลาดสูงถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ปัจจุบันมีแบรนด์ชานมไข่มุกในเวียดนามมากกว่า 100 แบรนด์ แต่ละแบรนด์ล้วนเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่าง โฮจิมินห์ และฮานอย ไม่ว่าจะเดินไปตามถนนสายไหน ก็เจอแต่ร้านชานมไข่มุก  อาทิแบรนด์ Gongcha, Chamichi, Phuc Long, Ten Ren และ Royaltea เป็นต้น และยังมีร้านขนาดเล็กอีกจำนวนมาก 

ภาพจาก bit.ly/2H5Sy31 

 

ยกกรณี นครโฮจิมินห์ เกือบทุกถนนจะมีร้านชา กาแฟ พวก Afternoon tea หรือ ชานมไข่มุก ซึ่งแต่ละร้านจะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะร้านที่ขายชานมไข่มุกจะได้รับความนิยมและขายดีมาก เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมชานมไข่มุกก็ว่าได้ หลายร้านถึงขั้นมีแบบรับ Order Delivery รับ-ส่ง กันแทบทุกร้าน ที่สำคัญร้านอยู่ติดๆ กัน

 

ด้วยความนิยมชานมไข่มุกในตลาดเวียดนาม แม้แต่ร้านกาแฟดังๆ อย่าง Highlands และ The Coffee House รวมถึงร้านอาหารชื่อดังต่างๆ ในเวียดนาม ยังต้องเพิ่มเมนูชานมไข่มุกในร้านด้วยเช่นกัน 

 

ร้านชานมไข่มุกในเวียดนาม จะมีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน แต่ละร้านจะมีการออกแบบตกแต่งสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปใช้บริการในร้าน มีมุมถ่ายรูป เพื่อให้ลูกค้าแชร์ต่อในโลกออนไลน์อีกด้วย  

 

ภาพจาก bit.ly/2J3pwDv

 

ฝ่ายประชาสัมพันธ์แบรนด์ชานมไข่มุกชื่อดัง “Gong Cha” บอกว่า การแข่งขันชานมไข่มุกในตลาดเวียดนามเหมือนการวิ่งมาราธอน ต้องดูกันระยะยาวๆ ว่าแบรนด์จะอยู่รอดได้ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเวียดนามเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

 

ส่วน Vo Van Quang ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้อย่าน่าสนใจ โดยอ้างจากหนังสือพิมพ์ Nguoi Lao Dong (The Laborer) ว่าเครื่องดื่มยอดนิยมชานมไข่มุกในฮ่องกงและไต้หวัน ประสบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในตลาดเวียดนาม พร้อมกับท็อปปิ้งต่างๆจำนวนมาก เพื่อปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับรสนิยมของชาวเวียดนาม

Vo Van Quang ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์
ภาพจาก bit.ly/2Jn4lM7

 

“ตอนนี้ชานมไข่มุกเป็นเครื่องยอดนิยมของวัยรุ่นและเยาวชนเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่แบรนด์ชายมไข่มุกที่เข้ามาเปิดตลาดในเวียดนาม จะเข้ามาในฐานะและรูปแบบแฟรนไชส์” Vo Van Quang กล่าว  

 

โดยส่วนใหญ่ค่าแฟรนไชส์และงบการลงทุนอยู่ที่ประมาณ ราคา 30,000 VND ถึง 80,000 VND ขึ้นไป และในตอนนี้ชานมไข่มุกกำลังสร้างผลกำไรมหาศาล นั่นคือ เหตุผลที่แบรนด์ต่างประเทศ ให้ความสนใจขยายแฟรนไชส์ในเวียดนาม

 

ภาพจาก bit.ly/2VndrzJ

 

อันที่จริง ธุรกิจชานมไข่มุก ได้เข้าสู่ตลาดเวียดนามครั้งแรก เมื่อราวๆ ปี ค.ศ.2002 กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของนักเรียนนักศึกษา กลุ่มวัยรุ่น จนธุรกิจเฟื่องฟู แต่ก็เริ่มลดความนิยมลงอย่างรวดเร็ว หลังข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบ 

 

กระทั่งปี ค.ศ.2013 ธุรกิจชานมไข่มุกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในตลาดเวียดนาม เรียกว่าคึกคักมากกว่าเดิม เพราะบรรดาแบรนด์ชานมไข่มุกจากไต้หวันและฮ่องกง ได้เข้ามาปลุกกระแสตลาดชานมไข่มุกให้กับมาชีวิตชีวาอีกครั้ง

ภาพจาก bit.ly/2LrgfqK

 

ด้านเหงียน ฟี วัน ผู้อำนวยการบริหาร Retail & Franchise Asia เชื่อว่าตลาดชานมในเวียดนาม จะยังมีศักยภาพ เพราะมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนามจะยังเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี ค.ศ.2020 

 

เห็นได้ว่า เวียดนามเป็นตลาดการลงทุนสาขาการผลิตเครื่องดื่มที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโต เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากและส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีความต้องการซื้อสูง ต้องการบริโภคสินค้าที่แปลกใหม่และหลากหลาย

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)