โลกของเราหลังจากปี 2017 น่าจะเริ่มเข้าสู่ความไฮเทคมากขึ้นกับเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวัน สิ่งของจากในอดีตหลายอย่างถูกทดแทนหรือไม่ก็ถูกพัฒนาจนคนรุ่นเก่าๆ ได้แต่จดจำสิ่งของเหล่านั้นไว้ในความทรงจำและ วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com รวบรวมเอาของ20อย่างที่ภายในปี 2020 น่าจะหายไปโดยสิ้นเชิง

1.ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ

ถ้าย้อนไปสัก 20 ปีก่อนตู้โทรศัพท์สาธารณะนั้นเรียกได้ว่าบูมไม่ต่างจากเซเว่นในยุคนี้ ตู้โทรศัพท์สาธารณะเมืองไทยเปิดบริการครั้งแรกเมื่อปี 2522 ยุคเฟื่องฟูที่สุดทั่วประเทศมีตู้โทรศัพท์รวมกันกว่า 200,000 เครื่องแต่ตอนนี้มีการรื้อถอนออกไปกว่าครึ่งจากการเข้ามาแทนที่ของโทรศัพท์มือถือและเชื่อว่ายิ่งนานไปความนิยมของตู้โทรศัพท์ก็จะยิ่งหมดลงเรื่อยๆ

2.หนังสือพิมพ์

สื่อสิ่งพิมพ์เป็นอีกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนว่ายุคนี้อะไรๆก็พูดถึงแต่ออนไลน์แม้แต่หนังสือยังต้องเป็นแมกกาซีนออนไลน์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ใน รอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาปิดตัวกันไปมากมายล่าสุดในเมืองไทยก็นิตยสารคู่สร้างคู่สม และขวัญเรือนและดูว่าแนวโน้มของสื่อสิ่งพิมพ์จะเติบโตได้ยากและน่าจะค่อยๆเลือนหายไปมากขึ้น

3.กล้องดิจิทัล

กล้องดิจิทัลตัวแรกเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1975 โดยวิศวกรของบริษัท Eastman Kodak แต่ในปี 2017 นี้ กล้องดิจิทัลได้กลายร่างไปเป็นส่วนหนึ่งในสมาร์ทโฟนโดยสมบูรณ์ ผลก็คือทุกคนต่างมุ่งไปซื้อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องและเลนส์ดี ๆ แทนการเลือกซื้อกล้องดิจิทัลแบบแยกเดี่ยว และอาจทำให้กล้องดิจิทัลกลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เตรียมตัวหายไปจากตลาด

4.ฮาร์ดไดรฟ์/ แฟลชไดรฟ์

ฮาร์ดไดรฟ์ และแฟลชไดรฟ์เป็นสองอุปกรณ์ที่มีแนวโน้มต้องจากไปในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน เหตุผลคือเพราะมีคลาวด์เข้ามาแทนที่ ทำให้ผู้ใช้งานแทนที่จะโยนไฟล์ใส่ฮาร์ดไดรฟ์ก็เปลี่ยนเป็นโยนไฟล์ใส่ไว้ในคลาวด์แทน

5.แผนที่กระดาษ

 

ในยุคหนึ่งเวลาเราเดินทางไปต่างจังหวัดจะต้องมีแผนที่กระดาษไว้ดูเส้นทางจนกลายเป็นของแจกที่ต้องมีติดรถ ต่อมาในยุคที่สมาร์ทโฟนเข้ามา เดี๋ยวนี้แผนที่กระดาษหมดความหมายทันทีเพราะเรามีแอปพลิเคชั่นแผนที่ซึ่งจะว่าไปแล้วใช้งานง่ายและสะดวกกว่ามาก

6.อุปกรณ์จีพีเอส

อนาคตของเครื่องจีพีเอสตกอยู่ในสถานะเดียวกับกล้องดิจิทัล เพราะทุกวันนี้ ความสามารถของอุปกรณ์จีพีเอสถูกนำไปรวมอยู่ในสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว

7.การปรินท์เอกสาร

ถ้าไทยแลนด์ 4.0 เกิดขึ้นได้จริง โอกาสที่เราจะได้เห็นการทำงานในยุค Paperless ก็น่าจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่เอกสารทั่วไปที่จะเลิกปรินท์แล้วหันมาดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์แทน แต่เอกสารสำคัญ ๆ เช่น สัญญา หรือเอกสารด้านการแพทย์ก็จะสามารถทำได้ด้วย

8.เครื่องแฟกซ์

ทุกวันนี้เครื่องแฟกซ์ไปรวมอยู่กับปรินเตอร์ – สแกนเนอร์นานแล้ว แต่เพราะการใช้งานที่น้อยลง ปี 2020 จึงคาดการณ์ว่าเครื่องแฟกซ์ก็น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมบอกลาไปด้วยอีกชิ้้นหนึ่ง

9.แผ่นซีดี – แผ่นดีวีดี

แผ่นซีดีถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Sony และ Philips และเริ่มวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์เมื่อปี 1982 แต่ทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะยังใช้แผ่นซีดีกันอยู่ การหายไปของแผ่นซีดี ส่วนหนึ่งก็มาจากเทคโนโลยีคลาวด์เช่นกัน

ถ้าถามจากความทรงจำของคนรุ่น 35+ ก็จะมีชื่อของToshiba ที่พัฒนา HD-DVD แต่ดูเหมือนว่าเครื่องเล่นนี้ปัจจุบันหมดความหมายสาเหตุสำคัญก็คือมีบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ที่เข้ามา และตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า

11.จดหมายแจ้งหนี้ /ใบเสร็จรับเงิน

เอกสาร เช่น บิลค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ใบเสร็จ ที่เคยส่งมาในรูปแบบกระดาษ แต่ในอนาคต มีแนวโน้มว่าสิ่งเหล่านี้จะขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ในเร็ววัน ซึ่งสามารถจ่ายชำระได้ผ่านแอปพลิเคชันรวมถึงลดรายจ่ายของบริษัทได้อีกด้วย

เดี๋ยวนี้เราเปิดเครื่องคิดเลขจากสมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว ทำให้เครื่องคิดเลขน่าจะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่เตรียมบอกลาผู้บริโภคในเร็ววันเช่นกัน

เช่นกันกับเครื่องคิดเลข – กล้องดิจิทัล เชื่อว่าทุกวันนี้ หลายคนตั้งนาฬิกาปลุกกันในสมาร์ทโฟนเป็นหลักหมดแล้ว

14.โทรศัพท์แบบ Fixed Line

ในเมืองไทยอาจยังพอมีอยู่มีแต่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกสิ่งนี้กำลังถูกลดบทบาทลงอย่างรวดเร็ว เช่นในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 มีการพบว่า มากกว่า 70% ของชาวอเมริกันอายุ 25 – 34 ปี อาศัยอยู่ในบ้านที่มีแต่เครือข่ายไร้สายแล้ว

15.หนังสือพจนานุกรม – สารานุกรม

สำหรับคนอายุ 30 ขึ้นไปช่วงวัยเรียนน่าจะคุ้นเคยดีกับการหาความรู้ในสารานุกรม พจนานุกรมแต่ยุคนี้และยุคต่อไป พจนานุกรมกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว เพราะแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถหาทุกสิ่งที่ต้องการได้

16.สมุดเช็ค

การใช้เช็คเป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งสำหรับคน Gen X อาจมีบางคนคุ้นเคยกับการใช้เช็คอยู่บ้าง แต่สำหรับคนรุ่นมิลเลนเนียล มันอาจไม่ใช่การชำระเงินที่ตอบโจทย์อีกต่อไปแล้วก็เป็นได้

สิ่งที่จะมาทำให้พาสเวิร์ดหายไปก็คือการยืนยันตัวตนผ่านข้อมูลไบโอเมทริกซ์ เช่น ใบหน้า ม่านตา ลายนิ้วมือ และการใช้งานหลัก ๆ ก็อยู่บนสมาร์ทโฟนแล้วเป็นส่วนมาก

เราอาจเคยเห็นรีโมทสำหรับใช้กับโทรทัศน์ เครื่องเล่นวีซีดีมาแต่เด็กและคิดว่ามันทันสมัยมากในยุคนั้น แต่ในโลกยุคต่อไป สิ่งที่จะเข้ามาแทนที่ก็คือ การสั่งการด้วยเสียงผ่านลำโพงอัจฉริยะ ซึ่งจะค่อย ๆ ลดบทบาทของรีโมตคอนโทรลจนหายไปได้ในที่สุด

การเปิดตัวของแอปพลิเคชันจองที่พักที่สะดวกสบาย จะจองเวลาใด ที่ไหนก็ได้ เป็นตัวการทำให้เอเจนซีทัวร์ต้องเลิกกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ

สมัยก่อนหน้าที่ของเราก่อนไปโรงเรียนคือการจัดตารางสอน เด็ก1คนมีหนังสือเรียนหลายเล่มในกระเป๋า ในอเมริกาเอง ร้านขายหนังสือเรียนก็เคยเป็นที่นิยมมาก แต่ทุกวันนี้และในอนาคตหนังสือเรียนถูกแทนที่ด้วย e-book แล้ว แถมหาก

หนังสือมีการอัปเดตเวอร์ชัน ก็ไม่ต้องซื้อใหม่ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้หนังสือ และร้านขายหนังสือมือสองเริ่มจะหดหายไปในที่สุด

 

ธุรกิจใดก็ตามที่จะลงทุนต่อจากนี้ก็ต้องจับกระแสของเทคโนโลยีมารวมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจให้ได้เพื่อความอยู่รอดและเติบโตทางธุรกิจที่ยุคอนาคตต่อจากนี้จะต้องมีการใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/DZA25o