ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของผู้ประกอบการ มีแนวโน้มหันมาใช้บริการที่ปรึกษาธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ ยิ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้บริการที่ปรึกษาแฟรนไชส์ เพราะที่ปรึกษาแฟรนไชส์จะมีความรู้

มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการสร้างระบบแฟรนไชส์ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจ และการขายแฟรนไชส์ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีของที่ปรึกษาแฟรนไชส์ เพราะผู้ประกอบการแฟรนไชส์ต้องการจ้างที่ปรึกษาแฟรนไชส์มาช่วยให้ธุรกิจสำเร็จได้ง่ายขึ้น
 

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะขอนำเสนอ 7 หน้าที่สำคัญของการเป็นที่ปรึกษาแฟรนไชส์ที่ดี ให้กับผู้ที่ต้องการอยากเป็นที่ปรึกษาแฟรนไชส์ รวมถึงเจ้าของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ แล้วอยากทำที่ปรึกษาแฟรนไชส์ด้วย

 

คือ แบรนด์แฟรนไชส์ หรือตรายี่ห้อของแฟรนไชส์ซอร์ ว่ามีความเข้มแข็งแค่ไหน หากยังไม่ดีพอ ที่ปรึกษาควรแนะนำให้แฟรนไชส์ซอร์พัฒนาแบรนด์เนม หรือตรายี่ห้อของแฟรนไชส์ซอร์ให้ติดตลาด หรือถ้าไม่สามารถทำได้ ควรเปลี่ยนแปลงแบรนด์หรือตรายี่ห้อใหม่ เช่น แฟรนไชส์บะหมี่กุ๊กกุ๊ย แค่ฟังชื่อโอกาสที่จะพัฒนาแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

 

ซึ่งตรงนี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะตัวสินค้าเท่านั้น แต่หมายถึงการบริหารงานของแฟรนไชส์ด้วย อย่างถ้าเป็นที่ปรึกษาแฟรนไชส์ธุรกิจซักแห้ง ที่ปรึกษาไม่มีความจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจซักแห้งอย่างดี แต่ต้องมีความเข้าใจในธุรกิจซักแห้ง เช่น กระบวนการทำงานของธุรกิจซักแห้ง

3.ที่ปรึกษาแฟรนไชส์ต้องรู้ว่า แฟรนไชส์ซอร์ที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้ มีระบบการลงทุนอย่างไร

 

ตรงนี้ที่ปรึกษาสามารถถามกับเจ้าของกิจการได้ แต่สิ่งสำคัญในการถาม คือ เรื่องการลงทุนต้องถามแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น เช่น ใช้เงินลงทุนในธุรกิจเท่าไหร่ แต่ไม่ควรถามว่าดอกเบี้ยในการกู้เงินมาลงทุนเท่าไหร่ หรือกู้เงินจากที่ไหน

 

ขณะเดียวกัน ไม่ควรนำเอกสารที่เกี่ยวกับตัวเลขของแฟรนไชส์ซอร์กลับออกมา เช่น วันนี้มีประชุมเรื่องยอดขายกับแฟรนไชซอร์ หลังจากที่เสร็จการประชุมแล้ว ควรคืนเอกสารดังกล่าวให้แฟรนไชส์ซอร์ทันที เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับแฟรนไชส์ซอร์ ที่ที่ปรึกษาจะไม่เข้าไปล่วงรู้ธุรกิจของเขามากนัก ยกเว้นมีกรณีที่ต้องนำไปศึกษาเพิ่มเติม

 

 

ไม่ใช่ทำให้แฟรนไชส์ซอร์มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ที่ปรึกษาแฟรนไชส์ยังต้องเข้าไปช่วยให้แฟรนไชส์ซอร์สามารถมีกำไร จากการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ที่ปรึกษาต้องประเมินให้ดีว่า จะใช้เวลาเท่าไหร่ หรือทำอย่างไรให้ธุรกิจที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้มีกำไร

 

จะต้องมีหน้าที่ในการกำหนด หรือสร้างโครงสร้างการเทรนนิ่งรวมถึงโปรแกรมปฏิบัติการให้กับแฟรนไชส์ซอร์ เพื่อนำไปให้แฟรนไชส์ซีใช้ในการปฏิบัติตามสิ่งที่แฟรนไชซอร์ต้องการ หรือตามความเหมาะสมกับความเป็นจริงของธุรกิจ

 

จะต้องประเมินและออกแบบว่า แฟรนไชส์ซอร์ควรจะให้การสนับสนุนอะไรบ้างกับแฟรนไชส์ซี อาทิ การฝึกอบรม การให้การสนับสนุนเรื่องการตลาด การจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ การออกแบบตกแต่งร้านให้ ฯลฯ 
 

 

รวมถึงเรื่องของรายละเอียดของสัญญา ซึ่งที่ปรึกษาจะทำอย่างรอบคอบ เช่น แฟรนไชส์ซีควรจะมีพื้นที่ในการเปิดสาขาต่างจังหวัด 1 จังหวัด 1 สาขาเท่านั้น

 

ทั้งหมดเป็น 7 หน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษาแฟรนไชส์ที่ดี ใครที่กำลังมองหาช่องทางทำธุรกิจที่ปรึกษาแฟรนไชส์อยู่ ก็ลองเอาแนวทางข้างต้นไปเป็นแนวทางในการทำธุรกิจที่ปรึกษาแฟรนไชส์ได้ครับ เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์จะไว้เนื้อเชื่อใจคุณได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถสร้างระบบแฟรนไชส์ รวมถึงสร้างความสำเร็จให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ได้เร็วขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php 

สนใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php 

แหล่งข้อมูล https://goo.gl/s9s87n