ตั้งแต่ประมาณต้นปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์เก่าแก่อายุกว่า 72 ปีอย่างชาตรามือ สามารถสร้างกระแสกลับมาเป็นที่พูดถึงของคนได้แบบถล่มทลาย หากพูดถึงในตลาดชาเมืองไทยเองส่วนแบ่งการตลาดของชาตรามือนั้นสูงลิ่วกว่า 80% ยังไม่รวมการเป็นคู่ค้าสำคัญกับอเมซอนที่ใช้วัตถุดิบของชาตรามือสูงถึง 88.5 ตัน/เดือน  ทริคเล็กๆของชาตรามือคือความตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจทุกๆด้าน

รวมถึงเรื่องผลิตภัณฑ์ที่กระแสดีแบบสุดยอดอย่างชากุหลาบที่ตอนนี้ใครยังไม่เคยชิมถือว่าเชยระเบิด www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปสัมผัสกับแนวทางการตลาดของชาตรามือที่ส่งผลิตภัณฑ์อย่างชากุหลาบให้เป็นสินค้าขึ้นชื่อลือชาถึงขนาดที่เขียนไว้ในคู่มือของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่ามาถึงเมืองไทยต้องไปชิมชากุหลาบให้ได้

 

ก่อนที่ชากุหลาบตรามือจะเป็นที่นิยมและโด่งดังในโลกออนไลน์ ต้องย้อนไปเมื่อกิจกรรมแคมเปญชากุหลาบที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2017 โดยถือเอาฤกษ์เดือนกุมภาพันธ์ที่มีวันวาเลนไทน์เป็นการเปิดตัวสินค้าตัวนี้ โดยได้เปิดตัวชากุหลาบออกมา 3 รส ได้แก่ ชานมกุหลาบ ชากุหลาบน้ำผึ้ง และชากุหลาบลิ้นจี่ ซึ่งแต่ละรสก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันตามส่วนผสมตัวรองของ น้ำผึ้ง นม และน้ำลิ้นจี่ ขณะที่ใช้ส่วนผสมหลักเหมือนๆกันคือ ชากุหลาบอย่างดีจากจีน
 

 

ซึ่งหลังจากสินค้านี้วางตลาดก็เป็นที่นิยมอย่างมากและรีวิวกันแพร่หลายในโลกโซเชียล จนเมื่อสิ้นสุดแคมเปญเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีกระแสเรียกร้องให้ชาตรามือนำกลับมาขายอีก และกลายเป็นเมนูยอดฮิตของร้าน ณ ปัจจุบัน
 

ถ้าจะมองว่าเหตุใด ชากุหลาบถึงขึ้นมาโดดเด่นจนถึงขั้นช่วงหนึ่งประกาศว่าสินค้าขาดตลาด ก็คงเป็นที่ 

 

1. สินค้าชากุหลาบถือว่าเป็นสินค้าใหม่ในตลาด ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่เคยทาน ยิ่งเมื่อมีการรีวิวภาพและบรรยายสรรพคุณรื่องการช่วยขับถ่ายยิ่งแปลก และต้องซื้อมาลองสักครั้ง 

 

2.ความสวยงามของแก้วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ยิ่งทำให้ลูกค้าที่แพ้ของสวยๆงามๆยิ่งชอบและอยากซื้อมาถ่ายรูป และเกิดเป็น Gimmick บนโลกโซเชียล 

 

3.ความแปลกใหม่ของจุดขาย ที่ชูเอาเรื่องของการเป็นยาระบายอ่อนๆที่ผู้บริโภคไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ดื่มชาเย็นแล้วถ่ายได้จนโล่งท้องและที่น่าตกใจและโดนใจวัยรุ่นก็คือ ยังมีการจัดโหวตว่ารสไหนเป็น ราชินีขรี้แตก ผ่านทางเพจ ChaTraMue ของชาตรามือด้วย ซึ่งผู้ที่ได้ผลโหวตชนะเลิศได้ประกาศทางเพจไป คือ ชากุหลาบน้ำผึ้ง ซึ่งมียอดโหวตสูงสุดในเพจไป
 

 

 

ทั้งนี้ ไม่ว่ารสชาติของชากุหลาบทั้ง 3 รสจะเป็นนอย่างไร แต่ผลที่ได้จากการรีวิวของแฟนๆสินค้าตัวนี้ ที่มีอยู่เต็มโลกโซเชียล ทั้งชมว่าช่วยให้ถ่ายท้องโล่งโปร่งสบาย ขณะที่บางคนก็อาจจะบ่นกระปอดกระแปดว่าไม่อยากลองอีกแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นการชมหรือบ่นอย่างไรส่วนใหญ่ก็ยังผ่านโซเชี่ยล ยิ่งเป็นการช่วยดันให้สินค้าตัวนี้เป็นที่อยากรู้อยากลอง และสร้างความแตกต่างที่แหวกแนว เป็นปรากฎการณ์ใหม่ในวงการตลาดเครื่องดื่มที่ส่วนใหญ่จะมีแค่ชา หรือว่ากาแฟเป็นหลัก

 

ปัจจุบันร้านเครื่องดื่มชาตรามือมีสาขาทั้งหมดกว่า 60 สาขาในประเทศไทย กระจายอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รวมไปถึงตามสถานีรถไฟฟ้า BTS โดยทุกสาขาเป็นการลงทุนเองของทางบริษัท อีกทั้งยังได้เปิดสาขาในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนผ่านการขายแฟรนไชส์ ทั้งในมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ซึ่งมีรสนิยมการดื่มคล้ายกับบ้านเรา
 

และล่าสุดได้ไปเปิดตัวที่เกาหลีใต้อีกด้วย โดยเป้าหมายสูงสุดของชาตรามือคือเข้าไปนั่งใจกลางตลาดชาในต่างประเทศที่มีสัดส่วนการดื่มชา/คน/ปีสูงมากโดยเฉพาะในประเทศสำคัญอย่าง ตุรกี ไอร์แลนด์ อังกฤษ รัสเซีย และญี่ปุ่นที่มีอัตราการบริโภคชาสูงกว่า 3 ปอนต์/คน/ปี ในขณะที่เมืองไทยมีอัตราการบริโภคชาเพียงแค่ 0.11 ปอนต์/คน/ปี เท่านั้น

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

 
ขอบคุณรูปภาพจาก www.facebook.com/ChaTraMue/