บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.8K
2 นาที
12 กรกฎาคม 2560
วิธีการทำธุรกิจ Co-Working Space ให้มีรายได้งามๆ ทั้งเจ้าของและลูกค้า 

 
ภาพร้านกาแฟที่เต็มไปด้วยนักเรียนนักศึกษานั่งทำ Project หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่นั่งทำงานหน้าโน้ตบุ๊ก และกลุ่มคนทำงานที่มานั่งประชุมย่อย ดูจะเป็นสิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน นี่ไม่ใช่แค่ภาพสะท้อนไลฟ์สไตล์คนทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังสะท้อน Demand ความต้องการในธุรกิจออฟฟิศคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่หลายคนคุ้นหูกับชื่อ Co-Working Space
 
เรียกว่าเป็นเทรนด์ของเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการทำงานอิสระ หลายคนจึงออกจากงานประจำไปเป็น “Freelance” รับทำงานตามโปรเจกต์หรือชิ้นงาน และอีกจำนวนไม่น้อยมองหาลู่ทางเพื่อสร้างธุรกิจตัวเอง บวกกับเทคโนโลยีสื่อสารที่ก้าวหน้าทำให้การทำงานเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ คนทำงานอิสระเหล่านี้จึงมักไปแฝงตัวอยู่ตามร้านกาแฟ 
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขออิงกระแสการสนับสนุนส่งเสริม Start Up ของรัฐบาล พาท่านผู้อ่านไปดูว่า วิธีการทำธุรกิจ Co-Working Space สถานที่นั่งทำงานร่วมกันกับผู้อื่น ให้ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้งามๆ ให้กับผู้ลงทุน ทำกันอย่างไรบ้าง ที่สำคัญธุรกิจ Co working space จะได้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี จากรัฐบาลอีกด้วย 
 
1. ทำเลดี ตกแต่งสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน

 
การที่ Co-working Space ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี เดินทางง่าย เช่น ใกล้รถไฟฟ้า อยู่กลางใจเมือง มีที่จอดรถ รวมทั้งสถานที่กว้างขวางไม่อุดอู้ ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศช่วยน่านั่งทำงาน รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งสบาย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แม้ต้นทุนจะสูงสักหน่อย และการคืนทุนและได้กำไรต้องใช้เวลาหลายปี 
 
แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้ฟรีแลนซ์ และ Startup แห่กันมาใช้บริการ มาสร้างคอนเนคชั่น และนั่งทำงานกันไม่ขาดสาย ทางที่ดี เจ้าของ Co-working Space ก็อย่าลืมที่จะหารายได้ทางอื่นด้วย เช่น เป็นเจ้าของ Startup อะไรเพิ่ม เพราะนอกจากจะได้รายได้จาก Co-working Space แล้ว ยังได้โอกาสหาคอนเนคชั่นคนมาช่วยทำงานอีกด้วย
 
2. Concept โดน ชัดเจน ตรงกลุ่มเป้าหมาย 

 
Co-working Space ควรมีคอนเซ็ปต์ชัดเจน ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ออกแบบเพื่อสาย Workshop สาย Design หรือสาย Fintech คอนเซ็ปต์จะเป็นสิ่งที่ช่วยตีการออกแบบและตกแต่งสถานที่ เช่น การออกแบบแนว Loft จะเหมาะกับผู้ใช้บริการที่อยู่ในสาย Design หรือออกแบบให้มีห้องประชุมและอุปกรณ์ทันสมัย 
 
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สำหรับ Startup สาย Fintech เพราะการชัดเจนในคอนเซ็ปต์สำหรับผู้ใช้บริการ จะเป็นการสร้าง Royalty ให้กับผู้ใช้บริการได้ดี เมื่อเขารู้ว่ามาที่นี่แล้วเหมาะกับตนเอง ก็จะมาสมัครและใช้บริการรายปี
 
3. ค่าบริการ โปรโมชั่น สมเหตุสมผล มีกิจกรรมสร้าง Connection ต่อเนื่อง

 
สำหรับฟรีแลนซ์ และ Startup ที่มาใช้บริการ Co-working Space มักจะหาข้อมูลเปรียบเทียบหลายๆ ที่ ทั้งในเรื่องคอนเซ็ปต์ของสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง และที่สำคัญ “ค่าบริการ” ที่ควรมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ 1 Day เพื่อการทดลอง หรือระยะยาวแบบ 3-12 เดือน พร้อมส่วนลดที่น่าพอใจ 
 
อีกทั้งยังมีกิจกรรมสร้าง Connection และความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายมากมาย เช่น Workshop สำหรับ Designer หรือ Programmer และไม่ลืมที่จะใช้การโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย ความครบครันแบบนี้ รับรองว่า ชาวฟรีแลนซ์ และ Startup ก็จะพร้อมใจกันมาใช้บริการและบอกต่อ กด Invite เพื่อนแน่นอน
 
4. ให้บริการ ต้อนรับ รองรับ ลูกค้าที่ประทับใจ 

 
Co-working Space หลายเจ้าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่มักจะไกลแหล่งอาหารการกิน ซึ่งแตกต่างจากออฟฟิศโดยทั่วไป ที่ร้านค้าร้านอาหารมักจะรู้ว่าแถวนั้น มีพนักงานออฟฟิศ จึงเลือกจะมาเปิดร้านกันมากมาย อีกสิ่งหนึ่งที่ Co-working Space จะเพิ่มบริการมาเติมช่องโหว่ตรงนี้ได้ คือ บริการรับสั่งอาหาร อาจจะเก็บค่าบริการเพิ่มคนละ 10-20 บาท คล้ายๆ บริการ Delivery ส่งอาหารนั่นเอง 
 
หรืออาจจะปรับเพิ่มให้มีอาหารง่ายๆ เช่น แซนด์วิช รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟต่างๆ เพราะสิ่งที่ขาดไม่ได้ของฟรีแลนซ์ และ Startup ก็คือ กาแฟนั่นเอง เพิ่มรายได้ให้เจ้าของ Co-working Space และไม่ขัดจังหวะการทำงานของผู้ใช้บริการ สร้างสรรค์งาน สร้างรายได้ สร้างคอนเนคชั่นได้ไม่ติดขัด
 
ทั้งหมดเป็นวิธีการทำธุรกิจ Co-working Space ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเจ้าของธุรกิจและลูกค้าที่เป็น Start Up และบรรดาฟรีแลนซ์ต่างๆ ก็จะได้รับความพึงพอใจ มีการบอกต่อเพื่อนๆ ให้มาใช้พื้นที่ทำงาน

ยิ่งปัจจุบันรัฐบาลให้การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจ Co working space ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี การทำธุรกิจนี้ก็นับว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แม้ว่ารายได้อาจไม่สูงเหมือนการทำธุรกิจอื่นๆ แต่ถ้าสร้างเครือข่าย บอกต่อคนในสังคมได้มากทีเดียว 
 
อ่านบทความ SMEs goo.gl/R8cBXp
 

Tips
  1. ทำเลดี ตกแต่งสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน
  2. Concept โดน ชัดเจน ตรงกลุ่มเป้าหมาย 
  3. ค่าบริการ โปรโมชั่น สมเหตุสมผล มีกิจกรรมสร้าง Connection ต่อเนื่อง
  4. ให้บริการ ต้อนรับ รองรับ ลูกค้าที่ประทับใจ 
อ้างอิงข้อมูลจาก goo.gl/NEzFU6
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
423
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด