บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม
2.3K
2 นาที
31 พฤษภาคม 2560
10 ผลงานยุค AI ที่หุ่นยนต์ใกล้จะอยู่รวมกับมนุษย์มากขึ้น

 
ภาพจาก goo.gl/QrQMGE

ปัญญาประดิษฐ์" หรือ Artificial Intelligence (AI) นับเป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้นและมีการนำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กับธุรกิจหลากหลายรูปแบบและเป็นการผนวกรวมเข้ากับทุกภาคส่วนมากขึ้น

ถ้ายังมองภาพไม่ชัดเจนก็ขอพูดให้เด่นชัดว่าในโลกอนาคตนั้นมนุษย์จะมีบทบาทในการทำสิ่งต่างๆ น้อยลงและจะใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาอำนวยความสะดวกมากขึ้นถึงขั้นที่เกิดความกังวลว่ามนุษย์จะว่างงานกันมากขึ้น ซึ่งความวิตกกังวลนี้มองไปถึงว่าอนาคตนั้นเราจะถูกปกครองโดยหุ่นยนต์หรือไม่
 
ในมุมมองของธุรกิจเองแล้ว AI ก็ไม่ต่างจากเรื่องของอินเทอร์เนตที่ประมาณ 20 ปีก่อนหลายคนก็ตั้งสมมุติฐานไปต่างๆนานาและทุกวันนี้อินเทอร์เนตก็กลายมาเป็นช่องทางสำคัญที่ใครก็ไม่กล้าปฏิเสธรวมถึงเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจจำนวนมากด้วย

ดังนั้น www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเทคโนโลยีก็คือความมั่นคงอย่างหนึ่ง ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งมีโอกาส และยิ่งสร้างงานเพิ่มขึ้นได้ เหมือนกับที่ แจ็ก หม่า ได้กล่าวไว้ว่า"จงอย่ากลัวเทคโนโลยี เทคโนโลยีไม่ได้จะทำลายตำแหน่งงาน กลับกันจะสร้างงานมากขึ้นความคิดล้าหลังต่างหาก ที่จะทำลายการจ้างงานลง" และด้วยเหตุนี้นิตยสารไทม์ จึงได้นำเสนอนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่พร้อมทำให้โลกของเราเข้าใกล้ค่ำว่าไฮเทคมากย่งขึ้น

1.Google Home

 
ภาพจาก goo.gl/M6C86C

เป็นผู้ช่วยประจำบ้านที่ได้รับการพัฒนาด้วยระบบ "กูเกิล แอซซิสแทนต์" โดยผู้ใช้สามารถออกเสียงคำสั่งได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือหยิบมือถือมาใช้ โดยกูเกิล โฮมจะช่วยผู้ใช้จัดการตารางนัดหมาย ค้นหาความต้องการต่าง ๆ และแปลภาษา ทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านได้อีกด้วย
 
2.Amazon Echo

 
ภาพจาก goo.gl/TSka6D

ลักษณะคล้ายกับ Google Home แต่เป็นลักษณะขงลำโพงอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยการใช้เสียง ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายตั้งแต่รายงานข่าว รายงานสภาพอากาศ ให้ร่วมกับโปรแกรมอื่นในการเปิดเปิดเสียงเพลง หรือสั่งงานเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้มาจอดเทียบหน้าบ้านได้เลยทีเดียว
 
3.Fetch Robotic

 
ภาพจาก goo.gl/m7vZNO

เป็นลักษณะของหุ่นยนต์ที่จะทำหน้าที่ตามติดพนักงานประจำคลังสินค้า และมีหน้าที่ช่วยหยิบสิ่งของจากชั้นวาง พร้อมกับช่วยเคลื่อนย้ายสิ่งของไปยังที่ต่าง ๆ โดยนวัตกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อจากการยกของหนัก และคาดว่าจะเป็นอีกเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาทำงานทดแทนมนุษย์ในเรื่องการขนส่งสินค้าได้ด้วย

4.Aethon Tug

 
ภาพจาก goo.gl/PCngz5

หุ่นยนต์อัตโนมัติที่ปัจจุบันเข้าไปช่วยงานในสถานพยาบาล สำหรับเคลื่อนย้ายลำเลียงวัสดุ อุปกรณ์ ยา เสื้อผ้า และอาหาร ภายในโรงพยาบาล เพื่อช่วยลดเวลาการทำงานของพยาบาล ให้พวกเขาดูแลคนไข้ได้มากขึ้น เป็นการออกแบบเทคโนโลยีมาเพื่อธุรกิจสุขภาพสถานพยาบาลที่หากสำเร็จเต็มรูปแบบเมื่อไหร่เราคงเจอกับพยาบาลน้อยลงแน่ๆ
 
5. Tesla Model S

ภาพจาก goo.gl/QybtvB

ค่ายนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ทำงานแบบไร้คนขับ โดยอาศัยกล้องและเซ็นเซอร์ในการขับเคลื่อนบนท้องถนน ทำให้รถยนต์คันนี้รู้ว่าควรจะอยู่ในเลนไหน และใช้ความเร็วเท่าใดในสถานการณ์จราจรต่าง ๆ ทั้งยังสามารถจอดรถได้ด้วยตัวเองซึ่งนักวิเคราะห์เองก็เคยออกมาให้ข้อมูลว่าภายในปี 2025 ยานยนต์ไร้คนขับจะมาแทนรถยนต์ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันได้แทบทั้งหมดทีเดียว

6. DJI MAVIC PRO

 
ภาพจาก goo.gl/Nc7f6s

เป็นลักษณะของโดรนพับปีกได้ขนาดเล็กกะทัดรัด มาพร้อมกล้องนำทางเพิ่มศักยภาพในการมองเห็น รวมถึงหลีกเลี่ยงอุปสรรคต่อการบินได้ดี เช่น ต้นไม้ หรืออาคาร พร้อมระบบลงจอดและระบบบินกลับฐานอัตโนมัติ รวมทั้งระบบบินติดตามเป้าหมาย เช่น นักสกี เป็นต้น ด้วยระบบควบคุมผ่านรีโมตที่มีจอภาพในตัว หรือ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ที่สามารถบินด้วยความเร็วสูงสุด 64.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

7. Otto Trucks

 
ภาพจาก goo.gl/aFEOad

นี่คือเทคโนโลยีรถบรรทุกไร้คนขับที่พัฒนาโดยค่าย "อูเบอร์" โดยใช้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานควบคู่กัน ส่งผลให้เจ้ารถบรรทุกอัจฉริยะคันนี้ขับเคลื่อนได้โดยมองเห็นท้องถนนและมองเห็นแผนที่หรือเส้นทาง แน่นอนว่าหากต้นแบบนี้สำเร็จเมื่อไหรในโลกอนาคตเราคงเห็นรถบรรทุกแบบไร้คนขับและคำถามก็คือคนทำอาชีพขับรถบรรทุกจะไปทำอะไรกันดี

8.Asus Zenbo

 
ภาพจาก goo.gl/gbN1Dq

เป็นหุ่นยนต์หน้าตาน่ารักจากค่าย "เอซุส" ที่ทำหน้าที่คล้ายกับกูเกิล โฮม และอเมซอน เอคโค่ ที่สามารถตอบคำถามต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถเคลื่อนไหวได้เสมือนจริงไปรอบบ้าน ทั้งยังสามารถแสดงสีหน้าได้ผ่านใบหน้าเหมือนจริง ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองไปดูหนังวิทยาศาสตร์ต่างๆที่รับรองได้ว่าเจ้าตัวนี้ถอดแบบกันออกมาแบบเห็นๆเลยทีเดียว

9. Microsoft Hololens

 
ภาพจาก goo.gl/4x9cj1

เป็นการเปิดประสบการณ์การมองเห็นด้วยแว่นตาสุดล้ำจาก "ไมโครซอฟท์" ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพรอบตัวได้ในแบบสามมิติ หรือโฮโลแกรม สร้างประสบการณ์เล่นเกมเสมือนเข้าไปอยู่ในเกมจริง ๆ และการพูดคุยแบบเห็นหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน เมื่อโฮโลเลนส์สามารถสร้างหน้าจอสามมิติขึ้นมาตรงหน้าผู้ใช้งานได้
 
10. Softbank pepper

 
ภาพจาก goo.gl/iZjONf

เป็นหุ่นยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจากบริษัท "ซอฟต์แบงก์ โรโบติกส์" มีความสูง 4 ฟุต เคลื่อนที่ด้วยล้อ 4 ล้อ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถจับอารมณ์ของผู้ใช้งาน, จดจำโทนเสียงต่าง ๆ รวมถึงสีหน้าเพื่อจะได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้กับมนุษย์ ปัจจุบันได้ถูกทดสอบการใช้งานในฐานะผู้ช่วยเหลือลูกค้าในร้านค้าปลีกต่าง ๆด้วย
 
หากมองในแง่ดีนี่คือการพลิกโอกาสทางธุรกิจในทุกมิติเพียงแต่ตอนนี้หลายอย่างเป็นเพียงแค่ต้นแบบที่ต้องรอการทดลองที่สำเร็จเพื่อใช้งานได้อย่างแท้จริง แต่คาดว่าอีกไม่เกิน 10 ปีนับจากนี้เราจะได้เห็นอะไรดีๆที่แตกต่างไปจากเดิมรวมถึงเราอาจได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ อาชีพใหม่ๆ การลงทุนใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น ซึ่งใครมีหัวทางธุรกิจสักหน่อยเตรียมคิดการณ์ล่วงหน้าเรื่องนี้ไว้รับรองได้ว่าโอกาสทางธุรกิจเปิดกว้างมากทีเดียว
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
419
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด