บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.4K
2 นาที
21 มีนาคม 2560
กลยุทธ์ Blind Date Books ดึงกระแสคนอ่านจากร้านหนังสือในออสเตรเลีย

ภาพจาก goo.gl/ghdQXV

กลายเป็นแพะรับบาปกันไปเต็มๆสำหรับเรื่องของไอทีที่แวดวงหนังสือต่างยกให้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ธุรกิจร้านหนังสือซบเซากันอย่างทันตาเห็น ไม่ต้องมองไปไกลแค่ในประเทศไทยตามแผงหนังสือหรือร้านขายหนังสือชั้นนำเราก็เห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี

ไหนจะบรรดานิตยสารต่างๆที่ทยอยปิดตัวกันไปเป็นจำนวนมาก ที่ยังพอเหลืออยู่ก็ต้องงัดกลยุทธ์การอยู่รอดออกมาใช้กันเต็มที่ด้วยการเพิ่มรูปแบบการเข้าถึงผู้บริโภค พัฒนารูปเล่มใหม่ และทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะนึกได้เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นได้มากที่สุด
 
ไม่ใช่แค่ในบ้านเราเท่านั้นแต่ปัญหานี้กระทบไปทั่วโลกก็ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจร้านหนังสือของแต่ละทีจะมีกลยุทธ์การปรับตัวอย่างไรในวิกฤติที่ว่านี้ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มีหนึ่งกลยุทธ์จากร้านหนังสือ Elizabeth’s Bookshop ในออสเตรเลียที่ไม่ยอมแพ้กับวิกฤติที่เกิดขึ้นและงัดกลยุทธ์ Blind Date Books ออกมาใช้เพื่อให้ธุรกิจยังเดินหน้าซึ่งก็ได้ผลดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
 
Elizabeth’s Bookshop ร้านหนังสือชั้นนำในออสเตรเลีย

ภาพจาก goo.gl/qn7xty

ร้านหนังสือชื่อ Elizabeth’s Bookshop มี 6 สาขาในเมืองใหญ่ของออสเตรเลีย โดยสาขาซิดนีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนคิง ย่านนิวทาวน์ นอกจากนี้ยังมีสาขาอีกหลายแห่งในทวีป

ซึ่งหนังสือของ Elizabeth’s Bookshop เน้นการจำหน่ายหนังสือมือสองหรือหนังสือที่ไม่มีการตีพิมพ์ซ้ำอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนสนใจมาที่ร้านนี้กันอย่างเนืองแน่น โดย Elizabeth’s Bookshop เปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1973  นับเป็นเวลามากกว่า 44 ปีที่เป็นร้านหนังสือชั้นนำของออสเตรเลีย

แต่ทว่าหลังการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมีสื่อออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้องผลประกอบการของ Elizabeth’s Bookshop ก็ลดลงอย่างน่าใจหายร้านหนังสือหลายแห่งในออสเตรเลียเองที่ทนแรงเสียดทานนี้ไม่ได้ก็มีอันต้องล้มเลิกกิจการไป

แต่ Elizabeth’s Bookshop ยังมีสายป่านที่ยาวและฐานลูกค้าที่มากพอสมควร แต่การจะอยู่รอดได้ดีกว่าคือต้องหากลยุทธ์มาดึงดูดลูกค้าสุดท้ายผู้บริหารของ Elizabeth’s Bookshop ก็มาตกลงที่กลยุทธ์สำคัญที่เรียกว่าการนัดบอดหนังสือหรือ Blind Date Books นั่นเอง

ดันกลยุทธ์ Blind Date Books สู้ตลาดไอที

ภาพจาก goo.gl/axTthP

Elizabeth’s Bookshop เพิ่มความสนใจให้กับลูกค้าทั้งหลายด้วยการจัด Blind Date Books ซึ่งเป็นมุมไว้สำหรับลูกค้ามานัดบอดกับหนังสือ หนังสือที่ถูกคัดเลือกมาจะถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษสีน้ำตาลผูกริบบิ้นเรียบร้อย บนกระดาษห่อเขียนด้วยลายมือระบุสั้น ๆ ว่าเป็นหนังสือแนวไหน และมีคีเวิร์ดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาภายในเล่ม ลูกค้าที่มาเลือกซื้อจะไม่รู้ชื่อเรื่องหรือแม้กระทั่งชื่อนักเขียน เรียกว่าเป็นการสุ่มเลือกล้วน ๆ
 
มีวิธีเพิ่มความสนใจให้ลูกค้าด้วยการจัด 

ภาพจาก goo.gl/GKb8tE

โดยผู้จัดการร้านกล่าวว่าเป็นการดึงให้คนอ่านออกจากวรรณกรรมที่ถนัดหรือชื่นชอบ และไม่เลือกหนังสือเพราะปก และลูกค้าหลายคนอาจเลือกหนังสือไม่ถูก ไม่รู้จะอ่านอะไร ส่วนใหญ่ก็จะตัดสินจากปกหนังสือ

การห่อหนังสือไม่ให้เห็นปกทำให้ตัดปัญหาตรงนี้ไป และยังเป็นการเปิดโอกาสคนอ่านได้ลองอะไรใหม่ ๆ แทนการเลือกหนังสือแนวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่คุ้นเคยโดยลูกค้าสามารถซื้อ Blind Date Books ไปอ่านเองหรือเป็นของขวัญก็ได้ เหมือนการเล่นเกมสนุก ๆ เพิ่มความตื่นเต้นเพราะผู้ให้ก็ไม่รู้ว่าซื้อหนังสืออะไรมา ส่วนผู้รับต่างก็ได้ลุ้นว่าจะได้รับหนังสือแนวไหนไปอ่านเช่นกัน
 
ทั้งนี้ทางร้าน Elizabeth’s Bookshop ก็ยังมีการวางจำหน่ายหนังสือเปิดเผยปกทั่วไป แต่ทว่า Blind Date Books ดูเหมือนกิจกรรมนัดบอดกับหนังสือจะได้รับความสนใจมากกว่าหนังสือทั่วไปบนชั้น ทั้งนี้ พนักงานในร้านจะเป็นผู้เลือกหนังสือมาห่อปก โดยราคาหนังสือจะไม่แพงมาก อยู่ที่เล่มละ 7-10 เหรียญ เมื่อซื้อไปแล้วพบว่าเป็นหนังสือที่เคยอ่านหรือมีอยู่แล้ว ลูกค้าสามารถนำกลับมาคืนได้ภายใน 7 วัน 
 
ภาพจาก goo.gl/bgGhFK
 
ถือเป็นอีกกลยุทธ์เพิ่มยอดขายที่น่าสนใจไม่น้อย  แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลตอบรับของกลยุทธ์นี้ดี อาจเป็นด้วยร้านตั้งอยู่ในย่านนิวทาวน์ ใกล้มหาวิทยาลัยซิดนีย์

แหล่งรวมปัญญาชนและคนรุ่นหนุ่มสาวที่สนใจแนว ๆ นี้อยู่แล้วหรือบางกรณีในประเทศญี่ปุ่นที่เจอปัญหาธุรกิจซบเซาก็เปลี่ยนแนวทางมาเป็นร้านหนังสือให้เช่าแทนการขายขาด ก็เป็นกลยุทธ์ทางตรงที่เราเห็นกันแต่ในทางอ้อมธุรกิจร้านหนังสือก็เข้าไปในโลกออนไลน์ด้วยการจัดหนังสือออนไลน์ขายเช่นกันซึ่งดูเหมือนในบ้านเราจะนิยมวิธีหลังสุดที่ว่านี้มากกว่า
 
ทั้งนี้ร้านหน้งสือในประเทศไทยเองก็ใช่ว่าจะต้องเลิกกิจการกันไปยังมีอีกหลายร้านที่เปิดดำเนินกิจการอยู่ได้เพียงแต่รูปแบบการนำเสนอวิธีการขายหรือการเข้าถึงลูกค้าจะต้องดึงดูดใจให้มากขึ้น

เรายังเชื่อว่าเสน่ห์ของนิตยสารหรือว่าหนังสือเป็นสิ่งที่ยังมีค่าคู่สังคมไทยเพียงแต่รูปแบบที่ทำให้คนสนใจเท่านั้นที่ยังไม่ชัดเจนหากตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ได้วงการหนังสือก็ไม่สูญหายและยังจะอยู่คู่สังคมของเราได้อีกนานเท่านาน
 

SMEs Tips (ทำร้านหนังสืออย่างไรให้อยู่รอด)
  1. หาหนังสือที่มีความหลากหลายที่คนกำลังให้ความสนใจมากๆ
  2. รูปแบบการจัดร้านต้องเปลี่ยนสไตล์เป็นแบบวัยรุ่นมากขึ้น
  3. ต้องจัดกิจกรรมทางการตลาดร่วมด้วยให้คนสนใจ
  4. ผสมผสานการใช้เทคโนโลยีในการโปรโมทร้านอย่างชาญฉลาด
ทั้งนี้หากเราคิดจะทำร้านหนังสือให้เติบโตและอยู่รอดได้จริงๆก็ควรมีแนวทางความรู้ในการบริหารจัดการและก้าวตามเทคนโลยีต่างๆให้ทันเพื่อคิดค้นการตลาดที่ไม่ตกยุคซึ่งเราก็มีบทความมากมายเกี่ยวกับการตลาดในยุคนี้ไว้คอยอัพเดทอย่างต่อเนื่องสามารถเลือกอ่านได้ตามความเหมาะสม

ดูรายละเอียด goo.gl/zTNzcR
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด