บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
1.5K
2 นาที
29 เมษายน 2568
ปัญหาระดับชาติ! #แฟรนไชส์จีนบุกไทย พร้อมซัพพลายเชน คำถามใครจะรอด
 

นับตั้งแต่ช่วงปี 2565 เป็นต้นมา หลังจากที่แบรนด์แฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้จากจีนอย่าง MIXUE เข้ามาบุกตลาดในไทย ได้สร้างกระแสและป่วนธุรกิจในประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก หวั่นทำให้โครงสร้างราคาในตลาดพัง เนื่องจากไม่ค่อยมีแบรนด์แฟรนไชส์ในไทย ที่ทำโมเดลขายไอศกรีมและชาผลไม้ไปด้วยกัน ที่สำคัญขายสินค้าราคาถูก เริ่มต้น 15-50 บาท 
 
หลังจากนั้น ก็มีบรรดาแบรนด์แฟรนไชส์จากจีนทยอยเข้ามาบุกตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ไอศกรีมและชาผลไม้ WEDRINK, Bing Chun แฟรนไชส์ไก่ทอด Zhengxin Chicken, Wallace Burger รวมไปถึงแฟรนไชส์เครื่องดื่มชาพรีเมียมอีกหลายแบรนด์ อาทิ  CHAGEE, Taning, Naixue, CHAPANDA และคาดว่าจะทยอยเข้ามาอีกหลายแบรนด์   
 
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย" ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์การตลาดเอสเอ็มอี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการตั้งรับของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย กรณีแฟรนไชส์จากจีนบุกตลาดในไทยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยถ้าหากไม่มีระบบหน้าบ้านหลังที่เป็นมาตรฐาน ไม่มีซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง ไม่มีโนว์ฮาวที่ชัดเจน สินค้าไม่มีคุณภาพ และขายแพงกว่าแฟรนไชส์จีน ก็จะไม่สามารถแข่งขันกับแฟรนไชส์จากจีนได้ เพราะผู้บริโภคชาวไทยชอบของถูกและของดี ซึ่งจีนสามารถตอบสนองตรงนี้ได้ 
 
แฟรนไชส์จีนที่เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย เช่น Mixue แบรนด์ไอศกรีมและชาผลไม้ ดูแล้วไม่ได้แข่งขันกับแฟรนไชส์ไทยแบรนด์ไหนตรงๆ หรือแฟรนไชสไก่ทอดจีนก็เจอคู่แข่งในตลาดอย่าง KFC แฟรนไชส์กาแฟจีนก็เจอคู่แข่ง Cafe Amazon ซึ่งแฟรนไชส์แบรนด์ใหญ่ๆ สามารถปรับตัวและต่อสู้กับแฟรนไชส์จีนได้ ส่วนแฟรนไชส์ไทยแบรนด์เล็กๆ ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็เลิกไป 
 
 
สำหรับแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทย ต้องรู้จักสร้างความแตกต่างให้กับแฟรนไชส์ของตัวเอง เช่น ควรเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ทำรสชาติให้ถูกปากคนไทย สร้างระบบจัดการที่เป็นมาตรฐาน บริการดี ก็ไม่ต้องกลัวแฟรนไชส์จีน 
 
อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าแฟรนไชส์จากจีนขายสินค้าราคาถูกกว่าแฟรนไชส์ไทย ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยควรปรับวิธีการต่อสู้ด้วยการชูนวัตกรรมและวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพมากกว่าแฟรนไชส์จีน นำเสนอแหล่งที่มาที่ไปของวัตถุดิบ 
 
 
อาจกล่าวได้ว่า ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยจะทำธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว แต่ก่อนอาจจะทำแบบไหนก็ขายได้ แต่พอมีแฟรนไชส์จีนมาบุกตลาด ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถทำธุรกิจเหมือนเดิมได้อีกต่อไป  
 
“หลักการทำธุรกิจทั่วไป ก็คือ ถ้าแฟรนไชส์จีนเข้ามา ถ้าคุณทำอะไรที่แตกต่างกว่าเขา ใช้วัตถุดิบคุณภาพ จ้างแรงงานคนไทย รสชาติถูกปากคนไทย หรือไม่ก็ทำอะไรที่มันเป็น Limited edition หรือ Personalize ไม่ใช่ทำแบบเดิม ทำไปเรื่อยๆ ถ้าแฟรนไชส์แบรนด์ไหนทำแบบเดิม ไม่ปรับตัว ขายแฟรนไชส์เยอะๆ มาแข่งขันกันเอง ถ้าไม่มีจีนต่อไปยังไงก็เจ๊ง”  
 
 
อาจารย์ธันยวัชร์ ได้ยกตัวอย่างกรณีร้านอาหารหมูทอดเจ๊จง แม้จะไม่ได้ขายแฟรนไชส์ แต่เจ๊จงไม่ได้กลัวแฟรนไชส์จากจีนเลย เพราะเจ๊จงรู้จักปรับตัวและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ขายถูก คุ้มค่า รสชาติอร่อย เติมข้าวได้ไม่อั้น
  
ดังนั้น ถ้าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยต้องการอยู่รอดและสู้กับแฟรนไชส์จีนได้ ควรเร่งสร้างแบรนด์ วางระบบการบริหารจัดการให้เป็นมาตรฐาน ใช้วัตถุดิบคุณภาพ ทำสินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภค รสชาติถูกปาก ขายราคาเหมาะสม เปิดในทำเลที่ดี แฟรนไชส์ไทยต้องโฟกัสจุดแข็งและพัฒนาตัวเองก่อน ทำในสิ่งที่ตัวเองได้เปรียบใช้วัตถุดิบดี ทำรสชาติอร่อยให้ถูกใจคนทั่วโลก 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
875
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
619
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
544
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
509
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
493
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
470
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด