บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
729
2 นาที
4 กุมภาพันธ์ 2568
Shinkanzen Sushi จากซูชินักศึกษา สู่ธุรกิจอาหารพันล้าน
 

ถ้าพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นสัญชาติไทย โดยเฉพาะร้านซูชิในห้างสรรพสินค้า ราคาสบายกระเป๋า เชื่อว่าแฟนซูชิน่าจะนึกถึง Shinkanzen Sushi เป็นแบรนด์แรกๆ ปัจจุบันมี 56 สาขา มีเป้าหมายขยายครอบคลุมทุกจังหวัด ถือเป็นเชนร้านอาหารที่บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี (CRG) กระโดดร่วมลงทุนในสัดส่วน 51% 
 
Shinkanzen Sushi มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างไร ทำไมอยู่รอดและเติบโตมีรายได้พันล้านบาท ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นมากมายในประเทศไทย มาดูกัน 
 
จุดเริ่มต้น Shinkanzen Sushi 
 

ภาพจาก www.facebook.com/shinkanzensushi

Shinkanzen Sushi (ชินคันเซ็น ซูชิ) มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2558 จากเด็กนักศึกษา 2 คน คือ คุณศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล กับ คุณชนวีร์ หอมเตย ตอนนั้นยังเรียนปี 2 คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 
 
ได้เห็นเพื่อนๆ คนอื่นๆ ทำธุรกิจหลากหลายในช่วงนั้น ทั้งออนไลน์ ร้านอาหาร ต่อมาทั้ง 2 ได้ปรึกษากันอยากทำธุรกิจร้านอาหาร เพราะชอบกินอาหารญี่ปุ่นพวกซูชิ ในหัวทั้ง 2 ถ้าขายซูชิราถูกต้องใช้วัตถุดิบดี 
 
หลังจากนั้นทั้ง 2 ใช้เงินคนละ 1,000 บาท ไปสมัครคอร์สเรียนทำซูชิ ตั้งแต่แล่ปลา ปั้นข้าว ซูซิโรล พอเรียนจบหุ้นกันคนละ 100,000 บาท ทำซูชิขายตามตลาดนัดแถวมหาวิทยาลัย ราคา 10 บาท 
 
ปรากฏว่าช่วง 3-4 เดือน ได้การตอบรับดี พอทำไปได้ 1 ปี ทั้ง 2 เริ่มขยายสาขาแถวๆ มหาวิทยาลัย จับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา เริ่มจาก ม.กรุงเทพ ม.เกษตรศาสตร์ อันดับแรก ทั้งเรียนไปด้วย ขายซูชิไปด้วย


ภาพจาก www.facebook.com/shinkanzensushi
 
ทำไปได้ 2 ปี ทั้ง 2 เรียนจบพอดี แต่อยากทำธุรกิจขายซูชิต่อ แต่ไม่มองทำเลมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะช่วงปิดเทอมอาจขายไม่ดี จึงมองไปที่ศูนย์การค้าที่มีคนเดินพลุกพล่าน ไม่มีวันหยุด 
 
ร้านแรกที่เปิดอยู่ใน "ยูเนี่ยนมอลล์" ได้การตอบรับาลูกค้าดีมาก ทำให้ทั้ง 2 มองทำเลในห้างเป็นกลยุทธ์ขยายสาขาของ Shinkanzen Sushi จากนั้นได้ขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ปัจจุบันมีสาขาถึง 56 สาขา 
 
แตกแบรนด์ กระจายความเสี่ยง
 

ภาพจาก www.facebook.com/shinkanzensushi

มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของ Shinkanzen Sushi คือการที่บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG เข้ามาลงทุนในบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด โดย CRG ถือหุ้น 51% เพื่อขยายสาขาและแตกแบรนด์ร้านอาหารในเครือเพิ่ม
  • ปี 2566 เปิดตัวร้านอาหารปิ้งย่าง "นักล่าหมูกระทะ" ทำเลห้างสรรพสินค้า ติดแอร์ ปัจจุบันมี 12 สาขา
  • ปี 2567 เปิดตัว NAMA Japanese and Seafood Buffet’ ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ราคาสูงกว่าในร้าน Shinkanzen Sushi ปัจจุบันมี 1 สาขา ที่ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราฯ 
  • ปลายปี 2567 เปิดตัว Katsu Midori Thailand ร้านซูชิสายพานที่บริษัทนำลิขสิทธิ์มาจากญี่ปุ่น เปิดให้บริการที่แรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ มีคอนเซ็ปต์คล้ายกับ Shinkanzen Sushiใช้วัตถุดิบดี ราคาคุ้มค่า
  • สาเหตุที่ Shinkanzen Sushi ต้องแตกแบรนด์ใหม่ในเครือ เพราะต้องการกระจายความเสี่ยง เชนร้านอาหารต้องมีหลายแบรนด์ หลายประเภทอาหาร จะสามารถจับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย แต่ถ้ามีร้านเดียวอาจจะไปต่อไม่ได้ เพราะต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งค่าเช่า พนักงานที่เพิ่มทุกปี 
  • ไทม์ไลน์ Shinkanzen Sushi
  • ปี 2558 เปิดสาขาแรกสมัยเป็นนักศึกษาปี 3 เงินลงทุน 200,000 บาท
  • ปี 2560 ขยายสาขาสู่ห้างสรรพสินค้า
  • ปี 2562 ขยายโมเดล Shinkanzen Omakase สู่ร้านพรีเมี่ยม
  • ปี 2565 เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี (CRG) ร่วมลงทุนสัดส่วน 51% 
  • ปี 2566 เปิดตัวร้านอาหารปิ้งย่าง "นักล่าหมูกระทะ" ทำเลห้างสรรพสินค้า 
  • ปี 2567 เปิดตัว NAMA Japanese and Seafood Buffet’ ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นพรีเมียม และ Katsu Midori Thailand ร้านซูชิสายพานที่บริษัทนำลิขสิทธิ์มาจากญี่ปุ่น 
แผนธุรกิจ 2568 
 

ภาพจาก www.facebook.com/shinkanzensushi

ปี 2568 บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป วางแผนเปิดตัวร้านอิซากายะช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โซน Outdoor ของร้าน NAMA Japanese and Seafood Buffet
 
ขยายร้าน Shinkansen Sushi อีก 5 สาขา เน้นทำเลต่างจังหวัดมากขึ้น หลังได้การตอบรับดี ส่วนร้านนักล่าหมูกระทะ เปิดอีก 9 สาขา เน้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะที่ Katsu Midori ขยาย 1-2 สาขา

รายได้ บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด
  • ปี 2565 รายได้ 797 ล้านบาท กำไร 63.6 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,414 ล้านบาท กำไร 116 ล้านบาท
กลยุทธ์ Shinkanzen Sushi 
 

ภาพจาก www.facebook.com/shinkanzensushi
  • ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ขายราคาคุ้มค่า
  • ซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง (Economy of Scale) ทำให้ขายราคาไม่สูงมาก
  • ทำเลเปิดร้านมักจะเลือกเปิดในห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่ที่มีคนเดินเยอะ เพื่อเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและคนทำงานที่ต้องการมาทานอาหารอย่างรวดเร็วและสะดวก
  • ทำระบบครัวกลาง เพื่อควบคุมมาตรฐาน มี QC ตรวจสอบวัตถุดิบต่างๆ ก่อนเข้ามาขายที่ร้าน 
  • มีทีมออดิตคอยตรวจสอบมาตรฐานของหน้าร้านทุกเดือน ทั้งเรื่องบริการ ครัว ความสะอาดของร้าน 
  • รู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จับกลุ่มนักศึกษา คนมีรายได้ปานกลาง คนมีรายได้สูง กลุ่มครอบครัว ทำให้มีลูกค้าครอบคลุม 
  • บริหาร Cash Flow หรือกระแสเงินสดที่มีประสิทธิภาพ ช่วงโควิดทำให้ไม่มีการเลย์ออฟพนักงาน
  • แตกแบรนด์ เพื่อกระจายความเสี่ยง สร้างการเติบโตมั่นคง 
นั่นคือ เรื่องราวของ Shinkanzen Sushi จากซูชิขายตามตลาดคำละ 10 บาท สู่ซูชิขายตามห้างสรรพสินค้าขายคำละ 11 บาทรายได้ทะลุพันล้านบาท ถือเป็นกรณีศึกษาให้กับคนที่อยากทำธุรกิจร้านอาหารได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เป็น ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และบริหารกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภา 
 
แหล่งข้อมูล 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
573
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
472
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
456
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
398
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
394
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
377
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด