บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
373
2 นาที
27 มกราคม 2568
กลยุทธ์ “Lovemarks” ร้านเล็กแค่ไหน! ก็รวยได้ในปี 2025
 

บางทีก็สงสัยว่าสินค้าก็ดี ภาพลักษณ์แบรนด์ก็ไม่ได้แย่ แต่ทำไมลูกค้าไม่ติดใจ ไม่สามารถดึงดูดให้สนใจมาซื้อหรือใช้บริการได้เรื่อยๆ 
 
คำตอบของเรื่องนี้คือ ““Lovemarks” มาจาก 2 ส่วนรวมกันคือ Respect + Love
  • Respect = ความน่าเชื่อถือ
  • Love = ความรัก

เท่ากับว่าการสร้าง Lovemarks คือการสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าภักดีด้วยหัวใจ  แต่ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าการสร้างแบรนด์ที่แท้จริงมันมีถึง 5 ระดับ
  1. I don’t  know  you. ลูกค้าไม่รู้จักเราเลย
  2. I’ve heard about you. ลูกค้าพอจะเคยได้ยินแบรนด์ของเรามาบ้าง
  3. I remember you. ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้แล้ว
  4. I’ve tried before. ลูกค้าเคยลองใช้สินค้าหรือบริการแล้ว
  5. I’ll be with you forever. ลูกค้ากลายมาเป็นลูกค้าประจำ
พูดถึงการสร้าง Lovemarks Theory เป็นทฤษฎีที่พัฒนาขึ้นในปี 2004 หัวใจสำคัญของทฤษฏีนี้ นอกจากจะวัดจากระดับความรัก (Love) ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์แล้ว การที่แบรนด์ต้องมีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับการยอมรับหรือความเคารพ (Respect) จากลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย
 
แล้วอะไรคือคีเวิร์ดสำคัญในการสร้าง Lovemarks ถือเป็นเรื่องที่คนทำธุรกิจในปี 2025 นี้ต้องสนใจให้มาก เพราะเป็นยุคที่มีการแข่งขันสูง ปัจจัยเสี่ยงก็มีรอบด้าน การดันตัวเองขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารักและภักดี หมายถึงโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งก็มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ประการได้แก่
 
การสร้างความลึกลับ (Mystery)
 

ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ช่วยเสริมเสน่ห์ให้แบรนด์ดูน่าค้นหา ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีการเช่น การสร้างสตอรี (Storytelling) ให้แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ หรือแรงบันดาลใจในการสร้างสินค้าและบริการ ยกตัวอย่างน้ำจิ้มสุกี้ MK ที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หรือสูตรไก่ทอดของ KFC ที่มีความลึกลับ รวมถึงอีกหลายแบรนด์ที่มี Story เป็นตัวนำพาไปสู่ความสนใจ
 
การสร้างสัมผัสทั้ง 5 (Sensuality)
 

หมายถึง การกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น การมองเห็น, การได้ยิน, การสัมผัส, การรับรส, การได้กลิ่น ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้แล้ว ยังช่วยสร้างประสบการณ์ดี ๆ หรือสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อีกด้วย
เช่นร้านคาเฟ่ที่ใช้กลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นหอมในร้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ให้คนจำได้ว่านี่คือกลิ่นที่เป็นแบบเฉพาะ
 
การสร้างความใกล้ชิด (Intimacy)
 

คือ การสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และลูกค้า เพื่อทำให้แบรนด์เป็นเหมือน “เพื่อน” หรือ “เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต” ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ก็มีหลากหลายวิธีเช่นการสร้างชุมชนบนโซเชียลมีเดียอย่าง บน Groups ใน Facebook เพื่อเป็นพื้นที่พูดคุย แจ้งปัญหา ทั้งระหว่างแบรนด์กับลูกค้า รวมถึงระหว่างลูกค้าด้วยกันเอง เป็นต้น
 
หรือถ้ายังไม่เห็นภาพชัดเจนในปัจจุบันก็มีอีกหลายธุรกิจที่นำ Lovemarks มาใช้อย่างได้ผลเช่น
  • โค้ก คือตัวอย่างของการทำในเรื่องนี้ การสื่อสารแบรนด์ผ่านในเรื่องของ Passion & Inspiration ทำให้ภาพของ “โค้ก” ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นมากกว่าเพียงเครื่องดื่ม เช่น สร้างความสดชื่น สร้างช่วงเวลาแห่งความสุขสนุกสนาน การคิดบวก และการสร้างคุณค่าให้กับสังคม
  • น้ำดื่มสิงห์ ที่เน้นความเป็น Best Quality ร่วมกับการสร้างแบรนด์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีการออกแคมเปญที่เกี่ยวข้อง และคงคอนเซปต์นี้ไว้อย่างมั่นคงตลอดมา
  • บาร์บีคิวพลาซ่า ที่ใช้มาสคอตอย่างบาบีก้อนเป็นสื่อกลางระหว่างแบรนด์กับลูกค้าต่อมาคือการต่อยอดโปรเจ็กต์ให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือ Personalized Benefits ของลูกค้าที่เป็นสมาชิก ผ่านการบอกต่อโปรโมชั่นหรือแคมเปญการตลาดที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มสนใจ ถือเป็นการพลิกโฉมการทำการตลาดแบบ Mass Marketing
ในปี 2025 การแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก และมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน การทำธุรกิจจึงต้องวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จคืออีกวิธีสู่การสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ  ดังนั้นเรื่องความรู้หรือการก้าวทันตามเทรนด์ในโลกยุคใหม่เป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องปรับตัวและพัฒนาให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
535
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
484
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
389
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
383
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
370
ทุนจีน! รุกหนักย่านการค้า 40% เป็นของคนจีน
366
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด