ขายลูกชิ้นให้มี 2,500 สาขา แฟรนไชส์ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด 
 

ถ้าให้นึกถึงแบรนด์แฟรนไชส์ขนาดเล็ก หรือแฟรนไชส์สร้างอาชีพ ร้านเป็นรูปแบบของซุ้ม เคาน์เตอร์ คีออส ที่เป็นที่รู้จักของคนไทย เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงกันได้ไม่กี่แบรนด์ เช่น ไก่ย่างห้าดาว ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว 

แต่รู้หรือไม่ว่า ทำไมแฟรนไชส์ขนาดเล็ก หรือแฟรนไชส์สร้างอาชีพของไทย ถึงมีจำนวนน้อย และไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างยั่งยืน และหากพูดถึงแฟรนไชส์สร้างอาชีพที่มีอายุเกิน 10 ปี เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกกันแทบไม่ออก 
 

แต่มีแฟรนไชส์ไทยขนาดเล็กที่เป็นแฟรนไชส์สร้างอาชีพแบรนด์หนึ่ง ถ้าหากพูดถึงชื่อแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก และเคยได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยกันมาบ้างแล้ว นั่นก็คือ “ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด” 
 

ทำไม ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด ถึงสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงมาตลอด 16 ปี 
 

TF Today จะมาวิเคราะห์ให้ฟังกัน
 

 

ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด เกิดจาก “คุณอนพ วัฒนกูล” ที่รู้สึกอิ่มตัวในการเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำมายาวนานกว่า 20 ปี จนมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการวางแผนการตลาด จึงมีแนวคิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง 
 

คุณอนพใช้เวลาช่วงปีสุดท้ายของการทำงานที่บริษัท ออกตระเวนตามตลาดต่างๆ เพื่อศึกษาดูว่ามีสินค้าหรือธุรกิจอะไรที่พอทำได้ยั่งยืนบ้าง ตอนแรกคุณอนพคิดจะขายกล้วยทอด แต่มาดูข้อดี-ข้อเสียแล้ว พบว่ากระบวนการทำค่อนข้างยุ่งยาก 
 

บังเอิญว่าตอนนั้นเห็นร้านลูกชิ้นทอดเจ้าหนึ่งขายข้างๆ ร้านกล้วยทอดพอดี ขายดีมากๆ มีคนมายืนต่อแถวซื้อทุกวัน และเห็นว่าขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน จึงตัดสินใจเลือก "ลูกชิ้นทอด" มาทำตลาด อีกทั้งสินค้ามีความโดดเด่น ขายง่ายได้ทุกทำเล
 

แต่ตอนนั้นคุณอนพมองว่า หากจะขายลูกชิ้นทอดเลย จะทำได้ยาก จึงตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาทอดเจ้าหนึ่งมาทดลองขาย เพื่อดูกระบวนการจัดการต่างๆ เช่น การทอด การขาย การจัดส่ง การจัดเก็บ โดยเริ่มจากการขายตามตลาดนัดแถวบ้าน
 

ปรากฏว่าขายดีตั้งแต่วันแรก มีลูกค้ามาต่อแถวซื้อทุกวัน พอขายไปได้สักพัก คุณอนพเห็นว่าขายลูกชิ้นทอดไปได้ดีแน่นอน ที่สำคัญรู้วิธีการทำและขายทุกอย่างหมดแล้ว แต่ก็คิดไปอีกว่าถ้าขายลูกชิ้นทอดสาขาเดียว ก็จะมีรายได้แค่สาขาเดียว ไม่พอเลี้ยงครอบครัวได้
 

 

คุณอนพจึงมีไอเดียกระฉูดไปอีก คิดจะสร้างธุรกิจให้ใหญ่และโตเร็วหลายสาขา ตัดสินใจเขียนแผนการตลาดทางธุรกิจ โดยใช้ประสบการณ์ที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี เพื่อนำไปสนอให้กับโรงงานผลิตลูกชิ้นที่มหาชัย แต่ก็ไม่มีโรงงานไหนสนใจแผนการตลาดในการทำธุรกิจลูกชิ้นปลาระเบิดของคุณอนพเลย ไปนำเสนอแผนการตลาดมากกว่า 10 โรงงานด้วยซ้ำ บางโรงงานถึงกับไล่ตะเพิดออกมาก็มี โดยให้คำตอบเหมือนๆ กันว่า ไม่มีเวลามาผลิตลูกชิ้นปลาระเบิดตามสเปกที่คุณอนพต้องการให้ได้ 
 

ตอนนั้นดูเหมือนว่า คุณอนพท้อแท้ เริ่มที่จะถอดใจไปแล้ว แต่สุดท้ายเหมือนฟ้าจะลิขิตให้คุณอนพเป็นเจ้าของธุรกิจลูกชิ้นปลาระเบิด ในตอนนั้นคุณอนพกำลังจะเดินออกจากโรงงานสุดท้ายด้วยซ้ำ หลังจากแม่เจ้าของโรงงานไม่เอาด้วย 
 

แต่พอดีได้เจอกับเจ้าของโรงงานที่กลับมาจากข้างนอก คุณอนพจึงเล่าแผนการตลาดลูกชิ้นปลาระเบิดให้ฟัง พอเจ้าของโรงงานได้ฟังแล้ว เกิดความสนใจขึ้นมาทันที ตอบตกลงรับผลิตลูกชิ้นปลาตามสเปกที่คุณอนพต้องการ คือ กรอบนอก นุ่มใน อ้วนใหญ่ ทอดขึ้นมาแล้วมีสีเหลืองทอง ไม่เหนียว ไม่เหี่ยว และไม่คาว 
 

นับจากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้น....ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด แฟรนไชส์สร้างอาชีพให้คนไทยได้มีงานทำ มีรายได้ที่ยั่งยืน
 

ไจแอ้นฯ โตเร็วด้วยแฟรนไชส์ 
 

ในช่างเริ่มต้นของธุรกิจไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด คุณอนพต้องการขยายตลาดให้โตเร็วๆ จึงใช้กลยุทธ์ขายแฟรนไชส์ ตอนแรกทำการตลาดแบบ "แจกรถเข็น 20 สาขาแรก" คันหนึ่งตกประมาณ 10,000 บาท เพื่อดึงดูดคนมาซื้อแฟรนไชส์ และสร้างชื่อเสียงให้กับไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ได้ทุนคืนทั้งหมด ทำได้ปีกว่าๆ มีสาขาเกือบ 500 แห่งทั่วประเทศ 
 

ปัจจุบัน “ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด” ก้าวขึ้นมาเป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้นทอดอันดับ 1 ของเมืองไทยไปแล้ว เป็นแฟรนไชส์สร้างอาชีพที่มีสาขามากกว่า 2,500 สาขาทั่วประเทศ แบบว่าไปที่ไหนก็จะมีเกือบทุกที่เหมือนกับ...ไก่ย่างห้าดาว ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
 

ไจแอ้นฯ ขายสินค้าอะไรบ้าง 
 

 

ภาพจาก www.giantfishbomb.com

 

ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด มีชุดแฟรนไชส์ที่หลากหลาย เริ่มต้นเพียง 3,900 ส่วนชุดยอดนิยมในขณะนี้เป็นชุดที่ขายในปั๊มน้ำมัน หรือตามตลาดทั่วไป คือ ชุดซุ้มมาตรฐาน ราคาเพียง 54,900 บาท ได้รับอุปกรณ์การขายครบครัน กันแดดกันฝน พร้อมสินค้าแถมมูลค่ากว่า 10,000 บาท
 

หรือถ้าทุนน้อย ไจแอ้นฯ ยังมีชุดยืมขาย ไม่ต้องลงทุนเอง เพียงมัดจำ 15,000 บาท สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เลย ลองเข้าไปศึกษาที่เว็บไซต์ของไจแอ้นดูได้ครับ
 

สุดท้าย แม้ว่าธุรกิจอาหาร จะเป็นอีกธุรกิจที่ผันผวนไปตามฤดูกาลและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นธุรกิจที่ “เปิดง่าย-เจ๊งง่าย” ใครสายป่านยาวก็ได้ไปต่อ แต่ถ้ามีทุนไม่พอ ก็ต้องยกธงขาวโบกมือลา 
 

แต่อย่าลืมว่า ข้อดีของ “ธุรกิจอาหาร” ที่ทำให้คนไทยนิยมเปิดร้านกันมากที่สุด แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี ต้นทุนสูง มีคู่แข่งเยอะ กำลังซื้อหายหายไป เพราะอาหารน่าจะเป็นของที่ขายง่ายที่สุด อย่าลืมว่ายังไงคนก็ต้องกินต้องใช้
 

ถ้ารสชาติไม่แย่ ไม่สกปรกจนเกินไป เปิดร้านได้ในทุกๆ ทำเล ค่าเช่าไม่ได้แพงมาก ราคาอาหารไม่สูงเวอร์จนเกินไป ที่สำคัญธุรกิจอาหารประเภทนั้นต้องเริ่มได้ง่าย สินค้าไม่เป็นกระแส ใช้เงินทุนไม่เยอะ มี know how ที่ไม่ยุ่งยาก...ยังไงก็ไม่เจ๊งครับ 

 

แหล่งข้อมูล 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)