บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
470
2 นาที
28 พฤศจิกายน 2567
เปิดสูตร “เงินทุนหมุนเวียน” คำนวณให้ดี ร้านจะได้ไม่เจ๊ง!
 

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้ ถึงขนาดเจ๊งต้องเลิกกิจการ ในแต่ละธุรกิจก็มีเหตุผลต่างๆ กันไปถ้าหากเทียบเป็นสัดส่วนพบว่า
  • 42% เจ๊งเพราะสินค้าไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
  • 29% เจ๊งเพราะเงินไม่พอหรือขาดเงินทุนทำธุรกิจ
  • 19% เจ๊งเพราะสู้แบรนด์คู่แข่งไม่ได้
  • 14% เจ๊งเพราะการตลาดยังไม่ดีพอ
แต่ใช่ว่าธุรกิจจะอยู่ดีๆ ก็เจ๊งไปในทันที มันต้องมีสัญญาณบอกล่วงหน้า ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจขาดแคลนกระแสเงินสด , เงินทุนหมุนเวียนน้อยกว่าต้นทุนคงที่ , ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา เป็นต้น
 
บางคนมีคำถามในใจว่า “เงินทุนหมุนเวียน” มีผลทำให้ธุรกิจเจ๊งได้จริงๆใช่ไหม?
 
 
คำตอบก็คือ “ใช่” และเป็นปัญหาที่ต้องเกิดร่วมด้วยกับอีกหลายปัจจัย ที่ส่งผลต่อการทำธุรกิจได้อย่างชัดเจน
 
ในความหมายของคำว่า “เงินทุนหมุนเวียน” คือเงินที่ “ต้องกันเอาไว้” สำหรับใช้จ่ายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อวัตถุดิบ , ค่าจ้าง , ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ รวมไปถึงเงินที่ใช้สำหรับชำระหนี้ซึ่งเป็นรายจ่ายที่ต้องจ่ายต่อเนื่องก่อนที่ธุรกิจจะมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ หรือรับชำระเงินจากลูกหนี้การค้า (โดยไม่นับรวมถึงการซื้อสินทรัพย์ เช่น อาคาร เครื่องจักร ยานพาหนะ อุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น) โดยมีสูตรในการคำนวณคือ
 
เงินทุนหมุนเวียน = ลูกหนี้การค้า + (สต๊อกวัตถุดิบ + งานระหว่างทำ + สต๊อกสินค้าสำเร็จรูป) – เจ้าหนี้การค้า
 
การบริหารเงินทุนหมุนเวียน ในกิจการ จะเกี่ยวข้องกับการจัดการสัดส่วนของ สินทรัพย์หมุนเวียน และหนี้สินหมุนเวียนของกิจการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
 
สินทรัพย์หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ของกิจการที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น หรือภายใน 1 ปี ได้แก่ เงินสด เงินฝากธนาคาร สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้การค้า เป็นต้น มักเรียกสินทรัพย์เหล่านี้ว่า เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง 
 
หนี้สินหมุนเวียน คือ หนี้สินที่มีระยะเวลาในการชำระคืนภายใน 1 ปี เช่น เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร หรือ OD และเงินกู้ยืมระยะสั้น เป็นต้น
 
 
เพื่อให้เห็นภาพลองยกตัวอย่างร้านขายลูกชิ้นมีวัตถุดิบ เช่น ลูกชิ้น, ไม้, เครื่องปรุง เป็นต้น โดยต้องเตรียมซื้อวัตถุดิบไว้ก่อนแล้วรอขายในวันถัดไป หรือใช้เวลาประมาณ 1 วันจึงได้รับเงินจากการขายสินค้า
 
หากกิจการมียอดขายจำนวน 3,000 บาท/วัน มีต้นทุนวัตถุดิบประมาณการร้อยละ 50 ของยอดขาย
 
แสดงว่า กิจการต้องซื้อวัตถุดิบจำนวน 1,500 บาท/วัน แต่กว่ากิจการจะได้รับเงินสดเป็นค่าหมูปิ้งทั้งหมดก็อีก 1 วัน
 
เงินทุนหมุนเวียน = 0 (ลูกหนี้การค้า) + 1,500 (สต็อคสินค้า) – 0 (เจ้าหนี้การค้า) = 1,500 บาท
 
จะเห็นได้ว่า เมื่อพิจารณาเฉพาะวัตถุดิบ ร้านค้าจะมีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อยที่สุดจำนวน 1,500 บาท
 
ดังนั้น หากเจ้าของร้านมีเงินทุนของตัวเองจำนวน 1,500 บาท แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น เช่น เจ้าหนี้นอกระบบ สถาบันการเงิน ธนาคาร เป็นต้น
 
ยิ่งเป็นกิจการที่ใหญ่ขึ้น สัดส่วนในการคำนวณก็จะยุ่งยากมากขึ้นเพราะมีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย แต่การหา “เงินทุนหมุนเวียน” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนลงทุนรู้ว่าจะต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเท่าไหร่ หากทราบดีแล้วการบริหารเงินด้านอื่นๆ ก็จะง่ายขึ้น มองเห็นต้นทุน กำไร ได้ง่ายขึ้น
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
496
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด