บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.3K
3 นาที
20 ธันวาคม 2565
พยากรณ์อนาคต ปี 2576 โลกนี้จะเป็นอย่างไร?

 
อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้! อาศัยเพียงการใช้ข้อมูลที่มีในปัจจุบันคำนวณถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ และจากกระแสการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างมากก็ทำให้คาดการณ์ว่าโลกของเราในอีกไม่เกิน 10 ปีจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร www.ThaiFranchiseCenter.com ก็สนใจในเรื่องนี้แต่จะให้ฟันธง 100% ก็คงไม่ได้เพราะมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ข้อมูลที่เรานำเสนอจึงเป็นแนวคิดในภาพรวมถึงสิ่งที่อาจจะเกิดได้จริง อ้างอิงจากเหตุผลข้อมูลปัจจุบันเป็นหลัก
 
โลกยุคอนาคตจะมีหลายอย่างจากปัจจุบันที่หายไปอย่างสิ้นเชิง
 

ถ้าอ้างอิงข้อมูลจาก ณ ตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีหลายสิ่งที่เริ่มทยอยหายไปจากการมีเทคโนโลยีเข้ามาทดแทน และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะยิ่งทยอยหายไปอย่างสิ้นเชิงในอนาคต เริ่มกันตั้งแต่หนังสือพิมพ์ที่ปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ปริมาณก็น้อยเต็มที่แถมความนิยมก็ไม่สูงเหมือนสมัยก่อน และคาดว่าในอนาคตก็จะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือที่เข้าถึงได้รวดเร็วกว่า

ไม่เว้นแม้แต่วารสาร , นิตยสารที่ในอนาคตก็จะถูกทดแทนด้วยข้อมูลในอินเทอร์เนตมากขึ้นเช่นกัน และที่หายไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้อย่างแผ่นCD หรือDVDที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมสูงมากจนกระทั่งอินเทอร์เนตมีการพัฒนาอย่างสุดโต่งทำให้สิ่งเหล่านี้ถูกลืมในทันที และการเข้ามาของสมาร์ทโฟน ก็จะยิ่งทำให้อีกหลายอย่างหายไปในอนาคตเช่น เครื่องคิดเลข , ตู้โทรศัพท์สาธารณะ , การรับส่งแฟกส์ , นาฬิกาปลุกตั้ง , กล้องดิจิตอล , ป็นต้น
 
ในส่วนของอาชีพเองก็คาดการณ์ว่าอนาคตอันใกล้จะมีอีกหลายอาชีพกลายเป็นเพียงความทรงจำ เช่นบุรุษไปรษณีย์ , แคชเชียร์ , พนักงานธนาคาร , ไกด์/คนนำเที่ยว , พนักงานโรงงาน (บางส่วน) ซึ่งแน่นอนในตอนนี้ยังไม่ถึงกับหายไปอย่างสิ้นเชิงแต่อาชีพเหล่านี้ก็เริ่มถูกลดบทบาทลงอย่างมาก ด้วยเหตุผลสำคัญคือการใช้เทคโนโลยีได้ประสิทธิภาพมากกว่าและอาชีพเหล่านี้จะหายไปอย่างสิ้นเชิงในอนาคตแน่
 
คาดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในโลกอนาคต
1.มหานครจะเพิ่มมากขึ้น
 

ถ้าดูจากขนาดของเมืองที่โลกอนาคตจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ข้อมูลจาก UN ระบุว่าในปี 1975 มีเพียง 4 เมืองในโลกเท่านั้นที่จัดว่าเป็นมหานคร (Megacity) และปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็น 18 เมือง ขณะที่ปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 22 เมืองและมีแนวโน้มจะมีมากขึ้นในอนาคต 
 
2.ประชากรโลกอาจสูงถึง 1.1 หมื่นล้าน 
 

ข้อมูลระบุว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050 และอาจเพิ่มสูงเกือบ 1.1 หมื่นล้านคนในช่วงปี 2100 ปัจจัยที่ทำให้สัดส่วนประชากรโลกขยายตัว คือจำนวนประชากรที่อายุยืนยาวมีมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและประเทศในเครือสหภาพยุโรป ซึ่งต่างประสบภาวะอัตราการเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ แต่มีอัตราของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น
 
3.ภาวะโลกร้อนปัญหาในอนาคต
 

นับถึงตอนนี้มีความพยายามในการลดโลกร้อนเพราะตระหนักแล้วว่าจะส่งผลเสียในอนาคตอย่างมาก ซึ่งในที่ประชุมระดับโลกมีเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิของโลกจนถึงปี 2100 ไม่ให้เพิ่มเกินไปกว่า 1.5 องศาเซลเซียส แต่ก็ดูเหมือนจะแก้ปัญหานี้ได้ยากเพราะแค่ในปี 2021 ก็นับว่าอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจากช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรมแล้ว 1.2 เซลเซียส
 
4.บริษัทที่ปิดกั้นเทคโนโลยีจะหายไป
 

ในอนาคตโลกแห่งธุรกิจจะขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ส่งผลในปี 2030 บริษัทที่ไม่ปรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะหายไป 40% เลยทีเดียว ในขณะที่บริษัทใหม่ๆ ที่เป็น Tech Company กลับมีมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจะมีต้นทุนที่ถูกลงมาก ในขณะที่บริษัทที่ไม่ปรับตัวตามกลับต้องใช้ต้นทุนการผลิตในราคาที่สูง และมีแนวโน้มที่จะหายไปจากตลาดในอนาคตด้วยเช่นกัน
 
5.ทักษะสำคัญที่สุดของคนทำงานคือ AQ
 

คาดการณ์ว่า ในปี 2030 IQ และ EQ จะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป แต่คือ AQ (Adversity Quotient) หรือความฉลาดในการรับมือกับปัญหาต่างๆ เพราะธุรกิจหรือองค์กรอาจเจอกับปัญหาที่ไม่อาจคาดคิดได้ ดังนั้น AQ จึงจำเป็นสำหรับคนทำงานในโลกอนาคต
 
6.มนุษย์จะเจ็บป่วยและชราช้าลง
 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแน่ๆ คือการแพทย์เจริญก้าวหน้ามาก จึงคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า มันมีโอกาสที่เราจะ “ไม่แก่หรือแก่ช้าลง” จากเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Biohacking ที่เปรียบเสมือนกับการแฮกร่างกายให้ทำงานได้ตามที่เราต้องการ หรือจะเป็นเทคโนโลยี Bioengineering วิศวกรรมชีวเวช ที่เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมมาใช้กับทางการแพทย์ เช่น การสร้างอวัยวะเทียม เป็นต้น ยังไม่นับรวมการนำ DNA ของเราไปฝากไว้ใน Biobank ที่เมื่อเราเจ็บป่วยเมื่อไร ก็จะมีการนำข้อมูลตรงนี้มาปลูกใส่สเต็มเซลล์ใหม่ของอวัยวะในร่างกายของเรา ทำให้สามารถเปลี่ยนอวัยวะได้เลยไม่ต้องรอการบริจาคอีกต่อไป 
 
7.AI จะไม่ทุ่นแค่แรง แต่ทุ่นความคิดด้วย
 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาของเทคโนโลยีและ AI เริ่มเข้ามา “ทุ่นแรง” มากขึ้น และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้ที่ต่อเนื่องจะได้ AI ที่ “ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ” จนเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในหลายด้านเช่น “รถที่ขับเองได้” และ AI ที่ว่านี้ก็ยังจะแทรกซึมเข้าไปในอีกหลายธุรกิจที่จะทำให้การจ้างคนทำงานลดน้อยลงอย่างมาก
 
8.รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car)
 

เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด แม้เราจะได้ยินมานานมากแล้วก็ตาม Uber ได้ทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนน ส่วน Tesla ก็ไม่น้อยหน้า มีการบรรจุฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อน Model 3 ด้วยระบบกลไกอัจฉริยะ ที่จะทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ตอนนี้เมืองใหญ่ และคนขับเตรียมตัวเก็บเงินเพื่อเป็นเจอของยานยนต์ไร้คนขับได้เลย เพราะเทคโนโลยีนี้มาแน่
 
9.รถยนต์ไฟฟ้า
 

มีประเด็นน่าสนใจเคยมีประกาศว่าไทยเตรียมยกเลิกการขายรถยนต์น้ำมันภายในปี 2035 หลังจากที่มีหลายประเทศประกาศนำร่องไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อกระตุ้นการพัฒนาภายในประเทศเตรียมพร้อมดันไทยเป็นฐานการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่สำคัญของโลกในอีก 14 ปีข้างหน้าเราอาจจะแทบไม่ได้เห็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือปั๊มน้ำมันในประเทศไทยอาจกลายเป็นศูนย์ชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับรถ EV ไปหมดแล้วก็เป็นได้
 
10. Metaverse จะมีบทบาทมากขึ้น
 

แม้ตอนนี้จะยังเป็นแค่แนวคิดหรือเป็นแค่แนวทางที่ยังไม่ชัดเจนและไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่เป็นแค่การทดลองแต่คาดว่า Metaverse จะมีบทบาทในอนาคตมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีหากทำให้เกิดได้จริงจะพลิกโฉมธุรกิจและเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคมได้อย่างมาก นับถึงตอนนี้ก็มีตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น อปพลิเคชันของ IKEA ให้ลูกค้าสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจาก AR (โลกเสมือน) ไปทดลองวางในห้องจริงของผู้ใช้งาน (โลกจริง) แล้วแสดงผลเป็นโมเดลสามมิติให้เห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้เข้ากันกับห้องของตนเองมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น
 
ภาพรวมที่ชัดเจนในโลกอนาคตหลังจากนี้อีกไม่เกิน 10 ปียังไม่มีใครฟันธงได้ว่าสิ่งที่คิดไว้จะเกิดขึ้นจริง มีแต่คาดการณ์ คาดว่าจะเกิด แต่เชื่อได้ว่าไม่ช้าหรือเร็วเทคโนโลยีเหล่านี้ และดีกว่านี้ต้องถูกนำมาใช้มากขึ้น ในโลกอนาคตเราอาจเห็นหุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์หรืออาจมีเทคโนโลยีที่เราเคยเห็นจากในหนังสามารถเอามาใช้จริงได้ ซึ่งทุกความเปลี่ยนแปลงก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การพัฒนาใดๆจึงต้องมองปัญหาและผลกระทบที่จะตามมาอย่างรอบด้านด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
419
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด