บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
3.4K
3 นาที
24 กันยายน 2564
“กล้อง – อาริยะ คำภิโล” ราชาโจนส์สลัด จากชานมไข่มุกสู่เส้นทางธุรกิจสุขภาพ 
 
 
“กล้อง – อาริยะ คำภิโล” หนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของร้าน Jones’ Salad ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยจำนวนสาขา 14 แห่งทั่วเมืองกรุง จุดเริ่มต้นของแนวคิดจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจของผู้ชายคนนี้ สู่ก้าวแรกของเส้นทางแห่งความสำเร็จของร้าน Jones’ Salad ไม่เพียงแค่เพียงหน้าร้านบนโลกออฟไลน์เท่านั้น แต่บนโลกออนไลน์เขาก็ยังสร้างเพจเฟซบุ๊กให้ความรู้ด้านสุขภาพ จนมียอดคนติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคนอีกด้วย
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจากการสัมภาษณ์ “คุณกล้อง – อาริยะ คำภิโล” มานำเสนอให้ทราบครับ
 
ก้าวแรกของเส้นทางธุรกิจ...ชานมไข่มุก


 
หลายคนอาจคิดว่าร้าน Jones’ Salad เป็นธุรกิจเริ่มแรกของคุณกล้อง แต่จริงๆ เป็นธุรกิจชานมไข่มุกที่กำลังเฟื่องฟูเมื่อสมัยที่เขาเรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 22 ปี จบออกมาก็ก้าวสู่วงการธุรกิจเลย เพราะเขาเกิดมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาก่อนจึงมีแรงบันดาลใจอยากมีเงินมีรายได้
 
ภาพจาก facebook.com/BuddyBearCafe/
 
บังเอิญว่าในตอนนั้นคุณกล้องมีเพื่อนเป็นชาวไต้หวันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรังสิต ประเทศต้นกำเนิดของชานมไข่มุกพอดี และเขามองว่าธุรกิจชานมไข่มุกจะมาแน่ๆ ในเมืองไทยเพราะกระแสแรงอย่างมาก หลังจากนั้นก็ตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านชานมไข่มุกชื่อ “Buddy Bear” ก่อนขยายเป็น 5 สาขา ด้วยจังหวะถูกที่ถูกเวลา และไม่ค่อยมีคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ทำให้ธุรกิจได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว และเฟื่องฟูในระดับก้าวกระโดด สามารถคืนทุนในไม่กี่เดือน

ภาพจาก facebook.com/BuddyBearCafe
 
เป็นธรรมดาของนักธุรกิจทุกคน เมื่อธุรกิจเติบโตได้รับความนิยม จึงต้องเร่งขยายกิจการอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคุณกล้องหลังจากที่ธุรกิจชานมไข่มุกได้รับความนิยมและผลตอบรับดี ทำให้เขาเร่งขยายสาขามากขึ้น ผลสุดท้ายไม่เป็นดั่งที่เขาคิด เพราะสาขาหลังๆ เริ่มจะไม่มีกำไรและคืนทุนได้เหมือนกับสาขาแรกๆ สุดท้ายคุณกล้องก็ต้องถอนหุ้นและเดินออกจากธุรกิจชานมไข่มุก นำเอาบทเรียนการทำธุรกิจชานมไข่มุกมาเป็นจุดย้ำเตือนใจให้กับเขาทุกครั้งก่อนจะคิดทำธุรกิจ 
 
วิกฤติชีวิตนำพาสู่ธุรกิจสุขภาพ Jones’ Salad
 

ภาพจาก https://jonessalad.com/

หลังจากคุณกล้องเดินออกจากธุรกิจชานมไข่มุกไม่กี่ปี ก็พบว่าตัวเองเป็นเนื้องอกที่ขา หาสาเหตุไม่ได้ คุณหมอได้แนะนำให้ผ่าออกโดยเร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นเนื้องอกก้อนนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมาอีก มีเพียงปัจจัยเดียวเท่านั้นที่จะช่วยคุณคุณกล้องได้ คือ การดูแลสุขภาพ ซึ่งในตอนนั้นนับว่าเป็นความโชคดีของคุณกล้อง เพราะแฟนสาวได้มีโอกาสไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย และได้ไปอยู่บ้านญาติที่มีน้าเขยเป็นคนที่นั่น ระหว่างนั้นแฟนสาวของเขาก็คอยบอกเล่าวัฒนธรรมการกินของคนออสเตรเลียที่ชื่นชอบการกินสลัดจนมีร้านสลัดเปิดขึ้นมาหลายแห่ง รวมไปถึงฝีมือทำสลัดของน้าเขยที่แสนอร่อย ขณะนั้นคุณกล้องก็เกิดแนวคิดขึ้นมาได้ว่า “ร้านสลัด” นับเป็นตัวเลือกของธุรกิจที่น่าสนใจ
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/
 
ด้วยข้อดีของการเรียนเศรษฐศาสตร์ คุณกล้องได้ใช้ประโยชน์ของวิชาที่ร่ำเรียนมาวางแผน หากจะเปิดร้านสลัดก็ต้องใช้ผักสดที่ดีต่อสุขภาพและทำได้ที่ครัวกลาง แล้วส่งให้แต่ละสาขาโดยไม่ต้องดูแลกระบวนการทั้งหมดด้วยตัวเอง อย่างเรื่องการจัดเตรียมวัตถุดิบ ก็ให้เชฟมาช่วยดูแลในส่วนนี้แทน ส่วนตัวเขาก็ทำในสิ่งที่ถนัดอย่างการวางแผน และการวางระบบ
 
เมื่อความคิดตกผลึก เขาจึงเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อลิ้มลองรสชาติสลัดที่ “น้าโจนส์” น้าเขยของแฟนสาวเป็นคนทำ เมื่อได้ชิมก็รู้สึกว่าอร่อย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของสูตรสลัดร้าน Jones’ Salad โดยเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าจามจุรีสแควร์ 
 
โปรโมชั่น...คัมภีร์หน้าแรกของการเปิดร้าน
 

ภาพจาก https://jonessalad.com/

ช่วงการเปิดร้านใหม่ๆ คุณกล้องอยากทำให้ร้านสลัดเป็นที่รู้จัก จึงจัดโปรโมชั่นสุดโต่ง คือ กล่อง 1 ใบ บรรจุด้วยลูกปิงปองจำนวน 10 ลูก 5 ลูกเขียนว่า “จ่าย” อีก 5 ลูกที่เหลือเขียนว่า “ฟรี” โดยลูกค้าต้องจ่ายเงินก่อน แต่ถ้าจับได้ลูกปิงปองที่เขียนว่าฟรี ทางร้านก็จะคืนเงินให้ ถือเป็นโปรโมชั่นที่เพิ่มความวุ่นวายให้กับทางร้าน แต่กระแสตอบรับค่อนข้างดี 
 
หลังโปรโมชั่นหมดทำให้ร้าน Jones’ Salad ต้องมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพ จนกระทั่งมีฐานลูกค้าประจำมาอุดหนุนใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าธุรกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่อีกไม่นานก็ต้องปิดสาขาแรกจามจุรีฯ เพราะเจ้าของพื้นที่ขึ้นค่าเช่าจากราคาเดิมเป็นสิบเท่า อีกทั้งยังต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้เจ้าของพื้นที่ด้วย 
 
ถึงเวลา...ก้าวสู่การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/

หลังจากคุณกล้องได้อีกหนึ่งบทเรียนจากการเปิดร้านสาขาแรก ก้างต่อไปของการทำธุรกิจ ก็คือ การสร้างแบรนด์ร้าน Jones’ Salad ให้แข็งแกร่งเหมือนกับแฟรนไชส์ร้านฟาสต์ฟู้ดหลายๆ แบรนด์ในเมืองไทย โดยหลังจากปิดสาขาแรกคุณกล้องได้ย้ายไปเปิดที่เอสพลานาด รัชดาฯ หลังจากนั้นวางแผนเปิดเพิ่มอีก 3-5 สาขา และปรับรูปแบบธุรกิจใช้ระบบครัวกลางเพื่อดูแลเรื่องวัตถุดิบ ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างเชฟ และหันมาเน้นครัวกลางแทน ทำให้มีค่าใช้จ่ายพอที่จะใช้หมุนเวียนให้กับทุกสาขา และยังทำให้คุณกล้องสามารถควบคุมมาตรฐาน และคุณภาพของวัตถุดิบทุกสาขาได้ด้วย
 
จากออฟไลน์ก้าวสู่โลกออนไลน์
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/

คุณกล้องได้สร้างเพจเฟซบุ๊กเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ โดยเริ่มตั้งแต่ DNA ของ Jones’ Salad ลุงโจนส์ที่จะมาเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ (Influencer) คอยตอบคำถามให้กับทุกคนในเพจ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปฟังสัมมนาซึ่งมีประโยคหนึ่งที่จำขึ้นใจเลยคือ การที่ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนนั้น ธุรกิจจะต้องสร้างประโยชน์ให้แก่คนอื่นด้วย จึงเริ่มทำคอนเท้นต์ที่ทำให้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของเพจ Jones’ Salad เมื่อปี 2016 
 
กลยุทธ์ปรับตัวรอดยุคโควิด...Jones’ Salad
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/

คุณกล้องให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ก่อนการระบาดโควิด-19 ร้านโจนส์สลัดมียอดขายเป็นอย่างดี เตรียมขยายสาขาไปหลายๆ ที่ มีการลงทุนทำครัวกลาง รับพนักงานเพิ่มในแต่ละตำแหน่ง รองรับการขยายธุรกิจ
 
พอเกิดการระบาดโควิด-19 ช่วงแรกๆ ส่งผลกระทบต่อยอดขายลดลงบ้างเล็กน้อย คุณกล้องคิดว่าน่าจะสามารถบริการจัดการธุรกิจผ่านไปได้ แต่กลับทำให้ยอดขายลดลงไปกว่า 80% ก่อนที่ภาครัฐจะประกาศล็อกดาวน์ เมื่อรัฐออกมาตรการปิดห้างสรรพสินค้าทำให้หลายร้านๆ รู้สึกตกใจ ประกาศแค่ชั่วค่ำคืน ไม่ทันได้ตั้งตัว 
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/
 
ในตอนนั้นคุณกล้องทำการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน บริหารจัดการสต็อกวัตถุดิบที่เหลือ แบ่งหน้าที่พนักงานให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 เพื่อความอยู่รอด วัตถุดิบในช่วงปิดห้างเน้นการขายออนไลน์เพราะมีเพจเป็นของตัวเอง มีฐานกลุ่มลูกคาที่คอยติดตามแฟนเพจให้การสนับสนุน จึงทำให้ร้านโจนส์สลัดโดยรวมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ระบายวัตถุดิบไปได้บ้าง จึงหาช่องทางเดลิเวอรี่ และให้ลูกค้าซื้อกลับบ้าน
 
เพราะข้อดีคือสินค้าสลัดของร้านสามารถเดลิเวอรี่ได้ดี เพราะทำมาก่อนการระบาดโควิด-19 จึงไม่ต้องทำการปรับตัวอะไรมากนัก ลูกค้าที่ไม่ได้ออกจากบ้านก็สามารถสั่งเดลิเวรี่จากร้านได้ 
 
“ช่วงแรกตกใจ แต่พอทำเดลิเวรี่ก็ปรับตัวได้ง่าย เพราะมีประสบการณ์ด้านเดลิเวอรี่มาก่อน ยอดขายค่อยๆ ดีขึ้นมา ช่วงกลางปี เริ่มวางแผนขยายสาขาจาก 9 สาขา เพิ่มเป็น 15 สาขา ถือเป็นการทำตามแผนที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก หากยอดขายเพิ่มขึ้น แม้การระบาดโควิด-19 จะไม่คลี่คลาย ระลอกแรกขยายสาขาไม่ได้รับกระทบมากนัก”
 

ภาพจาก facebook.com/JonesSaladThailand/
 
อย่างไรก็ตาม โควิดระลอก 3 ไม่ใช่คู่แข่งในตลาดเดียวกันของโจนส์สลัด แต่เป็นนโยบายภาครัฐที่ต้องการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 สั่งปิดห้างสรรพสินค้าจนทำธุรกิจแทบไม่ได้ เดลิเวอรี่ไม่ได้ ร้านกว่า 80% ก็ปิดหมด เปิดได้เฉพาะร้านนอกห้าง หลังจากร้านปิดในห้างคุณกล้องรีบลงมือทำคลาวด์คิดทเช่น 2 แห่งในวันเดียว เช่าพื้นที่ตึกแถวนอกห้าง เพื่อระบายวัตถุดิบ รวมถึงต้องการให้พนักงานได้กลับมาทำงานอีกครั้ง พูดง่ายๆ คือ คุณกล้องอยู่ได้ พนักงานก็ต้องอยู่รอด 
 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

 
ข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
515
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
433
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
421
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
403
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
383
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
381
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด