บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.4K
3 นาที
15 ธันวาคม 2563
ทำเลทาง 3 แพร่ง! ลงทุนทำธุรกิจดีหรือไม่ดี?


 
การลงทุนไม่ว่าจะธุรกิจใด เล็กใหญ่แค่ไหน ต้องเริ่มจาก “สบายใจ” “มั่นใจ” นำมาสู่เรื่องของ “ฤกษ์ยาม” ต่างๆ ที่ต้องให้ผู้ลงทุนรู้สึกสบายใจ มั่นใจว่าธุรกิจเราจะเดินหน้าต่อได้ ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่รอดหรือไม่รอดขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเป็นสำคัญแต่หากกำลังใจในวันเริ่มต้นเป็นไปด้วยดีก็ถือว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
 
ซึ่งเรื่องของ “ฮวงจุ้ย” www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าหลายคนสนใจในเรื่องนี้และอยากให้ทำเลเปิดร้านค้า นั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีอันเป็นพื้นฐานที่จะสร้างความมั่นใจเบื้องต้นว่าธุรกิจจะมีกำไรได้  คำว่า “ทาง3แพร่ง” จึงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากจะหลีกเลี่ยงเพราะถูกปลูกฝังมาว่า “ ทาง3แพร่ง” ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีในการทำธุรกิจ แต่ก็มีข้อมูลย้อนแย้งว่าธุรกิจบางอย่างก็ตั้งอยู่บน “ทาง3 แพร่ง” แต่ทำไมขายดีไม่เห็นเป็นอะไร เราลองมาวิเคราะห์เรื่องนี้ดูข้อมูลในภาพรวมว่าทาง 3 แพร่ง มีผลดีหรือผลเสียจริงหรือเปล่า
 
เปิดร้านค้าตามตำรา “ฮวงจุ้ย”


ภาพจาก bit.ly/2LtHilI
 
1. ทำเลที่ตั้ง
 
ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ไม่ควรสร้างบ้านหรือร้านค้าบนสันเขา หน้าผา พื้นที่แคบ บนทางระบายน้ำ ใกล้สะพาน ทางด่วน สามแยก คุก สุสาน และแหล่งทิ้งขยะ รวมถึงไม่ควรสร้างบนถนนที่เป็นทางตันและบริเวณท้ายซอย สำหรับสถานที่ที่เคยเกิดภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุมาก่อนก็ไม่ควรนำมาเป็นทำเลที่ตั้งในการสร้างเช่นเดียวกัน เพราะสถานที่เหล่านี้เสี่ยงจะเกิดภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุซ้ำได้มากกว่าที่อื่น ๆ ในทางตรงกันข้ามหากเป็นที่ดินใกล้แม่น้ำ มีแม่น้ำล้อมรอบ หากไม่ติดแม่น้ำแต่มีสระว่ายน้ำก็จะช่วยเสริมเรื่องความมั่นคงมั่งคั่งและโชคลาภเงินทองได้
 
2. ทิศทาง
 
ตามฮวงจุ้ยของจีนเชื่อว่าการสร้างบ้านหันหน้าเข้าหาทิศใต้เป็นทิศทางที่ดีที่สุด เพราะเปรียบเสมือนเป็นการเปิดรับแสงแดดและกระแสลมดี ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางทิศนี้ตลอดทั้งปี ช่วยเพิ่มพลังงานชีวิต โชคลาภ สิริมงคล อีกทั้งยังช่วยสร้างความสามัคคี อยู่แล้วดีมีความสุข เปิดร้านค้าก็จะช่วยให้ค้าขายร่ำรวย
 
แต่ในเมืองไทยทิศใต้อาจจะไม่ใช่ทิศที่ดีเสมอไป เราอาจจะเจอปัญหาเรื่องความร้อน เรื่องแสงอาทิตย์ ดังนั้นทิศเหนือและทิศตะวันออกจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากปกติแล้ว แสงอาทิตย์ที่ขึ้นในตอนเช้าจะไม่ค่อยร้อน ไม่เหมือนแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน 
 
ตำราซินแส ทำเลแบบไหนที่ร้านค้า ควรหลีกเลี่ยง


ภาพจาก bit.ly/3a8pGpX
 
  1. ต้องรู้ที่มาก่อนเซ้งหรือเช่าให้ได้ ว่าเพราะอะไรเขาถึงปล่อยให้เซ้ง แต่หากอยากรู้ความจริงให้สอบถามจากข้างๆ ร้านว่าร้านนี้ทำไมถึงปิดกิจการ หากปิดกิจการโดยเจ๊งหรือขาดทุน ก็ต้องระมัดระวัง อาถรรพ์แห่งความล้มเหลว
     
  2. ทำเล ทางโค้งคดเคี้ยว ต้องระวัง ทำอะไรก็จะติดขัดไปหมด
     
  3. พื้นที่ของร้านเป็นรูปสามเหลี่ยม ต้องระวัง ทำอะไรก็มักจะมีปัญหา
     
  4. เลขที่ของร้านค้า หากมีผลรวมเป็น 4,6,7 ต้องระวัง ตัวอย่าง เลขที่ 103 ผลรวมเท่ากับ 4 เป็นต้น
     
  5. หันหน้าเข้าตัวร้าน ถ้าซิ้งค์น้ำ อยู่ขวามือ ถือว่าไม่ดีต้องเปลี่ยนทันที
     
  6. สีของร้าน ต้องดึงดูดลูกค้า ไม่ใช่ดึงดูดเจ้าของร้านเพียงอย่างเดียว คนโดยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เวลาคำนวณสีของร้านมักจะคำนวณจากเจ้าของร้านถือว่า ผิด
     
  7. ชื่อร้านและโลโก้ ร้านค้าควรจะมีชื่อร้านและโลโก้ที่เสริมศาสตร์ฮวงจุ้ยกับเจ้าของธุรกิจและสถานที่ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ กระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้า เป็นต้น ดังนั้นใครจะลงทุนร้านหรือทำธุรกิจควรจะหาข้อมูลให้ดี
ข้อดี – ข้อเสียของ “ทาง 3 แพร่ง” ในการทำธุรกิจ
 
เริ่มจากข้อดีของร้านที่อยู่ทางสามแพร่ง ก็คือร้านจะกลายเป็น “จุดเด่น” ที่มองเห็นได้ง่าย ไม่ว่าลูกค้าจะมาทางใด กระแสที่วิ่งจากสามด้านจะมาหยุดอยู่ตรงทางแยก ตรงกับหน้าร้านค้าพอดี ทำให้คนจดจำร้านได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ร้านค้าในตำแหน่งนี้ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกธุรกิจ ร้านค้าที่เน้นลูกค้าที่ขับรถมาใช้บริการจะไม่เหมาะเลย เพราะตรงทางสามแพร่งไม่สามารถจอดรถได้ กลายเป็นตำแหน่งเสียทันที 
 
ส่วนข้อเสียสำหรับร้านที่อยู่ตรงทางสามแพร่งก็คือ เป็น “จุดเสี่ยงภัย” ถ้าร้านตั้งอยู่บนถนนใหญ่ที่มีรถสัญจรไปมามาก รถอาจเสียหลักพุ่งชนร้าน ก่อให้เกิดความเสียหายในแบบไม่คาดคิด
 
ซึ่งในฮ่องกง ร้านบริเวณทางสามแพร่งจะมีราคาแพงมาก เพราะถือเป็นตำแหน่งที่ได้ประโยชน์ทางการค้า แต่ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยตำแหน่งนี้จะไม่มีราคาเลย ตำแหน่งทางสามแพร่งถือเป็นตำแหน่งที่แรงที่ต้องรับแรงปะทะมากกว่าตำแหน่งอื่น ถ้ารู้จักนำความแรงมาใช้ให้ถูกทางย่อมได้ประโยชน์ มีคำกล่าวไว้ว่า ตำแหน่งทางสามแพร่งถ้าให้คุณก็ให้มาก ถ้าเสียก็เสียมาก จึงมักพบเห็นเสมอว่า บางคนไปอยู่ตรงทางสามแพร่งเจริญรุ่งเรืองมากกว่าคนอื่น 2-3 เท่า แต่บางคนไปอยู่ไม่ถึง 6 เดือน กลับล่มจมสิ้นเนื้อประดาตัวก็มี
 
วิธีแก้ถ้าอยากลงทุนบน “ทาง 3แพร่ง” (ตามหลักซินแส)


ภาพจาก bit.ly/2WmLWnH
 
ตามหลักเรียกว่าเป็นการแก้ “ฮวงจุ้ย” ซึ่งซินแสมักจะแนะนำให้ผู้ประกอบการที่มีทำเลบนทาง 3 แพร่งควรจะมี
 
1. เสือคาบดาบ
 
ติดไว้หน้าบ้านตรงทางสามแพร่ง เชื่อว่าเสือจะช่วยขจัดพลังชั่วร้ายที่จะเข้ามาปะทะกับบ้านให้หมดไป การติดเสือคาบดาบต้องมีการทำพิธีประกอบโดยซินแสเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การซื้อมาติดเองโดยไม่มีความหมาย เท่ากับไม่ช่วยอะไร 
 
2. กระจก 8 เหลี่ยมหรือยันต์ 8 ทิศ

ใช้สะท้อนสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ โดยให้ออกไปในทิศอื่นๆ แทน 
 
3. ลูกบอลคริสตัล
 
หลักการเช่นเดียวกับกระจก คือสะท้อนสิ่งชั่วร้ายออกไปด้วยความกลมและมีกระจกรอบด้าน ทำให้ลูกบอลคริสตัลมีความคล่องตัวในการสะท้อนพลังมากกว่า และสามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อกระทบกับไฟหน้ารถได้ง่าย ทำให้ป้องกันอุบัติเหตุได้ 
 
4. แนวบังตาจากต้นไผ่
 
เพื่อลดแรงปะทะของลมและพลังงานที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งจะพุ่งเข้ามาหาบ้าน การปลูกบ้านหรือร้านค้าบนทางสามแพร่ง จึงมักไม่เป็นที่นิยมแต่หลักฮวงจุ้ยก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่นทางสามแพร่งในหมู่บ้านจัดสรรจะมีพลังงานที่น้อยกว่าทางสามแพร่งบนถนนใหญ่ๆ
 
ทำเลบนถนนแบบไหนที่ตามตำราบอกว่า “อันตรายในการลงทุน”


ภาพจาก bit.ly/34baVyY
 
1. ถนนโค้ง
 
ทางโค้ง นับเป็นฮวงจุ้ยที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะโค้งด้านในหรือโค้งด้านนอก ก็เสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นที่ธุรกิจอาจจะย่ำแย่ หรือเจ๊งโดยไม่รู้ตัว  สำหรับโค้งในรถส่วนใหญ่ที่ขับผ่านมักจะมองไม่เห็น หรือขับเลยร้าน ส่วนโค้งนอกนั้นเสี่ยงมากสำหรับอุบัติเหตุ รถเลี้ยวเข้ามายาก ทางฮวงจุ้ยนับเป็นจุดบอด จอดรถยาก ขับรถก็ต้องระวังเป็นพิเศษ ทางแก้ไขคือ ควรติดป้ายไว้ล่วงหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามามากขึ้น
 
2. ถนนตัว Y
 
ทางสามแพร่งที่ว่าแน่ ก็ยังแพ้ถนนรูปตัว Y เพราะในทางฮวงจุ้ยถือว่า ถนนตัว Y อันตรายที่สุด! เป็นจุดอับ ทำให้รถจอดยาก เลี้ยวลำบาก ซึ่งนอกจากจะไม่เอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ถ้ายิ่งไม่มีสัญญาณไฟยิ่งอันตรายมากกว่าเดิม ไม่ควรตั้งร้านบริเวณนี้อย่างยิ่ง
 
3. ถนนวันเวย์
 
เปรียบเหมือนถูกตัดขาไป 1 ข้างถ้าตั้งร้านอยู่ในถนนสายวันเวย์ เพราะได้ลูกค้าเพียงทางเดียว แทนที่จะได้ลูกค้า 2 ทางเหมือนถนนปกติ นอกจากนี้ ถนนวันเวย์ มีเส้นทางแคบ จอดรถลำบาก เสียโอกาสเพราะลูกค้าส่วนใหญ่คงไม่เลี้ยวรถกลับมา
 
4. ถนนคู่ขนาน
 
ร้านบนทางคู่ขนานพบปัญหาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้ามักจะขับรถเลยร้าน มองเห็นร้านแต่เข้าไม่ได้จึงเลยตามเลย โอกาสที่จะไปกลับรถมาที่ร้านอีกรอบคงจะยาก เสียโอกาสเพราะคนคงไม่ชอบเสียเวลา ทางที่ดีควรทำป้ายบอกทางล่วงหน้าแบบย้ำๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้
 
5. ถนนยูเทิร์น
 
“ทางเลี้ยวยูเทิร์น” “ทางกลับรถ” ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่เหมาะที่จะเลือกตั้งร้านค้าบริเวณนี้ เพราะกระแสรถที่เลี้ยวไม่สามารถเข้าไปจอดหน้าร้านได้ หรือเข้ายากเพราะต้องเบี่ยงเข้าซ้ายสุด ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้ลูกค้ามองเห็นร้านยาก เพราะคนขับต้องคอยระวังทางตรง เลี้ยวแล้วก็ต้องรีบขับออกไป หลักฮวงจุ้ยเรียกว่า “กระแสตีจาก” หรือวิ่งหนี ร้านค้ามีแต่เสียประโยชน์
 
ทั้งนี้รูปแบบร้าน รูปแบบสินค้าและบริการก็มีส่วนสำคัญว่าทำเล “ทาง3 แพร่ง” เหมาะกับธุรกิจหรือไม่ อย่างร้านขายยาน่าจะเป็นทำเลที่เหมาะกับทาง3 แพร่งเพราะสามารถรับลูกค้าได้จากทุกทิศทาง แต่อย่างไรก็ดี หลักเบื้องต้นของการทำธุรกิจคือต้องเริ่มจาก “ความมั่นใจ” “สบายใจ” หากไม่มั่นใจว่าทาง 3 แพร่งจะดีกับธุรกิจก็ให้เลือกทำเลที่เราพอใจและสบายใจ จะช่วยให้เริ่มต้นธุรกิจได้ดีแบบที่เราไม่ต้องกังวลใจด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
496
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
418
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด