บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    รีวิวหนังสือ สปอยหนัง
2.7K
3 นาที
17 มีนาคม 2563
สปอยล์หนัง Chef (เชฟจ๋า)


พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! ภาพยนตร์เรื่อง Chef (เชฟจ๋า) ถือเป็นอีกหนึ่งในภาพยนตร์ที่ใครหลายคนอาจไม่คุ้นหูนัก แต่หารู้ไม่ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่หมดหวังและกำลังจะยอมแพ้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของเชฟฝีมือดีคนหนึ่งที่มีความเป็นอีโก้สูง แต่กลับถูกไล่ออกจากอาชีพที่ตนรัก เขาจึงพยายามลุกขึ้นและกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราลองมาดูกันเลย

ภาพจาก https://imdb.to/33mzlne
เปิดเรื่องมาคาร์ล แคชเปอร์ หัวหน้าเชฟที่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารกำลังลงครัวทำอาหาร เขาไปรับลูกชายเพื่อไปเที่ยว ระหว่างที่คาร์ล พาลูกชายไปเที่ยว คาร์ล ได้บอกกับลูกชายของตนว่า จะมีนักวิจารณ์มารีวิวอาหารของเขา และเขาให้ความสำคัญกับการอาหารของเขาเป็นอย่างมาก 
 
ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
เมื่อเขาได้กลับมาลงครัวอีกครั้ง ผู้จัดการได้มาพูดคุยกับเขาเรื่องการเปลี่ยนเมนูอาหาร ซึ่งคาร์ลเองยังคงยืนกรานที่จะทำเมนูอาหารตามที่เขาอยากทำ อีกทั้งเขาบอกกับผู้จัดการว่า ได้ตกลงพูดคุยกันเรื่องนี้แล้ว แต่ผู้จัดการได้เสนอไอเดียการทำอาหารเพื่อให้นักวิจารณ์ติชมร้านอาหารกับอาหารของเขาเป็นไปในทางบวก ซึ่งเหตุผลที่คาร์ลต้องการเปลี่ยนเมนูอาหารนั้น เป็นเพราะว่าเขาต้องการทำเมนูอาหารใหม่ ๆ ไม่ซ้ำซากจำเจ และดูมีศิลปะ แต่ผู้จัดการแย้งว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการทำอาหารที่เป็นศิลปะเพราะเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจเรื่องความสวยงาม อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ขายไม่ดีอีกด้วย แต่คาร์ลยังคงยืนกรานทำอาหารในแบบของเขา


ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
คาร์ลได้สั่งการให้ลูกมือเตรียมความพร้อม หลังจากที่คาร์ลทำอาหารให้กับนักวิจารณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาร์ลได้ออกไปฉลองกับลูกทีมด้วยความมั่นใจว่า อาหารที่นักวิจารณ์ได้ชิมนั้น จะต้องมีรีวิวไปในทางบวกแน่นอน แต่เมื่อเขาอ่านรีวิวของนักวิจารณ์แล้ว กลับพบว่าเป็นการรีวิวแบบลบ จนทำให้คาร์ลถึงกลับรับไม่ได้เป็นอย่างมาก 
 
คาร์ลยังฉุนกับเรื่องการรีวิวอยู่ เขายังคงพยายามทำอาหารต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน พยายามทำเมนูใหม่ ๆ ที่คิดว่าจะต้องถูกปากนักวิจารณ์ และทำให้นักวิจารณ์ต้องเปลี่ยนใจ คาร์ลได้ให้ผู้ช่วยของเขาชื่อมาร์ตินกับคนอื่น ๆ ลองชิมอาหารที่เขาทำดู ซึ่งทุกคนได้ตอบแบบยกนิ้วโป้งให้


ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
เมื่อคาร์ลได้เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้แล้ว คาร์ลจึงวานให้ลูกชายสมัครสมาชิกทวิตเตอร์ แต่ในขณะที่ลูกชายกำลังค้นหาชื่อที่ใช้ในการสมัครนั้น ลูกชายพบว่า รีวิวอาหารของเขาได้มีการกระจายไปทั่วแล้ว แต่คาร์ลไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไรนัก เมื่อลูกชายได้สมัครสมาชิกทวิตเตอร์ให้แล้ว คาร์ลจึงติดตามข้อมูลข่าวสารที่มีการนำเสนอข่าวตัวเอง แล้วพบว่ามีการนำเสนอมีแต่เป็นไปในทางลบ แล้วจากนั้นเขาได้ตอบโต้นักวิจารณ์ผ่านทวีตเตอร์อย่างเผ็ดร้อน 
 
สิ่งที่เขาได้โพสต์ลงไปเริ่มมีการตอบรับมากขึ้น จนทำให้เริ่มมีผู้คนได้ติดตามเขามากขึ้น แต่กระแสร้อนแรงมากขึ้นเมื่อนักวิจารณ์ได้ตอบกลับหาเขาอย่างเจ็บแสบ คาร์ลหัวร้อนจึงท้าให้นักวิจารณ์เข้ามาชิมที่ร้านอาหารของเขาในคืนนี้ คาร์ลมั่นใจว่า อาหารที่เขาทำจะต้องตบหน้านักวิจารณ์คนนั้นแน่นอน 


ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
เมื่อคาร์ลมาถึงร้านอาหาร เมื่อผู้จัดการได้ทราบข่าวแล้ว ทางผู้จัดการกับคาร์ลเริ่มมีปากเสียงกันในเรื่องการทำอาหาร จนถึงขนาดที่ผู้จัดการจะไล่เขาออกหากไม่ทำอาหารตามที่ผู้จัดการแนะนำ ซึ่งคาร์ลไม่หวั่นกลัวใด ๆ เขาลาออกจากร้านอาหารแต่โดยดี 
 
แต่คาร์ลแอบทำอาหารของตัวเองเพื่อตบหน้านักวิจารณ์คนนั้นต่อไป พอนักวิจารณ์เข้ามาในร้านอาหารซึ่งเป็นร้านที่เขาพึ่งถูกไล่ออกมานั้น เขาไม่เห็นคาร์ลโชว์ตัวตามที่ได้ท้า จึงได้โพสต์ข้อความเยาะเย้ยเขาบนทวิสเตอร์ ในขณะที่คาร์ลแอบทำอาหารอยู่นั้น เขายิ่งเลือดขึ้นหัวเมื่อเห็นโพสต์ของนักวิจารณ์คนนั้น คาร์ลจึงรีบดิ่งเข้ามาในร้านแล้วต่อว่านักวิจารณ์อย่างดุเดือด ในขณะเดียวกันมีคนในร้านแอบถ่ายคลิปที่คาร์ลไปต่อว่านักวิจารณ์จนเป็นที่แพร่สะพัดบนโลกออนไลน์ ซึ่งคลิปที่ได้แพร่สะพัดนั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา


ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
จากนั้นคาร์ลได้ใช้เวลานี้ผ่อนคลายกับการไปเที่ยวกับลูกชายและแฟนเก่า และไปพบกับปู่ของเขา ระหว่างที่กินแซนวิซที่ร้านอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันนั้น คาร์ลได้ไอเดียว่า จะทำแซนวิซออกมาขาย โดยคาร์ลรีบดิ่งไปหามาร์ติน ซึ่งเป็นอดีตสามีเก่าของแฟนคาร์ลเพื่อขอรถเร่เก่า ๆ สำหรับขายแซนวิซ  แต่รถเร่ที่มาร์ตินให้มาต้องใช้เวลาทำความสะอาดและปรับปรุงซ่อมแซมยกใหญ่ ทั้งคาร์ลและลูกชายต่างใช้เวลาทำความสะอาดและหาอุปกรณ์เพื่อใช้ในการประกอบอาหาร 
 
เมื่อมาร์วิน ผู้ช่วยเชพของคาร์ลทราบว่า คาร์ล กำลังจะทำงานเร่ขายอาหาร มาร์วินไม่รอช้า รีบลาออกมาช่วยงานคาร์ลทันที ทั้งสามคนจึงทำแซนวิซสูตรพิเศษเฉพาะ เริ่มจากให้คนงานทดลองชิมก่อน ซึ่งเสียงตอบรับของคนงานก็เป็นไปได้ด้วยดี


ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
เมื่อผลออกมาเป็นบวกเช่นนี้ ทั้งสามคนตระเวนขายอาหารตามเมืองต่าง ๆ โดยคาร์ลจะทำการโพสต์ทวิซเตอร์เพื่อเรียกผู้ติดตามชิมแซนวิซสูตรลับเฉพาะ เมื่อผู้คนได้กินแซนวิซแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างโพสต์วิจารณ์รสชาติแซนวิซของเขาไปในทางบวก จนทำให้แซนวิซของคาร์ลเริ่มติดเทรนบนกระแสโลกออนไลน์ 
 
ด้วยหลักการตลาดอันชาญฉลาดของลูกชายคาร์ลที่คอยโพสต์สถานที่ที่รถเร่คาร์ลจะไปจอดขาย ทำให้กระแสรถเร่ขายแซนวิซของคาร์ลได้รับความนิยมจนถึงขนาดมีคนรอรถเร่ของคาร์ลล่วงหน้าหลายร้อยคนตามบริเวณเมืองต่าง ๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ทั้งสามคนรู้สึกเหนื่อยหรือแท้ กลับกันพวกเขาทั้งสามกลับมีความสุขกับงานที่พวกเขาได้ทำมากขึ้น
 
แต่ความสุขย่อมมีวันจากลาเมื่อคาร์ล ได้บอกลาลูกชาย เนื่องจากลูกชายใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แต่เมื่อคาร์ล เห็นลูกชายโพสต์วิดีโอเรื่องราวของพวกเขานั้น ทำให้คาร์ล เปลี่ยนใจให้ลูกชายกลับมาเป็นลูกมืออีกครั้ง แต่คราวนี้มีแฟนเก่าของคาร์ลมาช่วยด้วย
 

ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
ต่อมาคาร์ลกลับมาเร่ขายแซนวิซที่ลอส แองเจอลิส ในขณะเดียวกันนักวิจารณ์ที่เป็นคู่ปรับของคาร์ลได้เดินเข้ามาที่รถเร่ของคาร์ลเพื่อขอคุยกับคาร์ลเป็นการส่วนตัว  คาร์ลได้ลงมาจากรถและพูดคุยกับนักวิจารณ์ โดยคาร์ลยังคงรู้สึกโกรธกับเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่ แต่นักวิจารณ์ได้ปรับความเข้าใจกับคาร์ลว่า ที่ผ่านมาคาร์ลคิดมากไปเอง เพราะสิ่งที่เขาได้ทำได้โพสต์ไปเป็นแค่การเรียกเรทติ่งเท่านั้น

และที่เขาเขียนวิจารณ์เชิงลบกับเขานั้น เขาให้เหตุผลว่า เขาอยากช่วยเหลือคาร์ล มาตลอด อยากร่วมลงทุนกับคาร์ล เพราะการวิจารณ์เชิงลบจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจมากขึ้น โดยนักวิจารณ์ได้เสนองานเชฟที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ เขาให้คำมั่นว่า คาร์ลสามารถทำอาหารได้อย่างอิสระตามใจชอบ ทำให้คาร์ลลืมความขัดแย้งที่ผ่านมาในอดีตหมดและหันมาจับมือกับนักวิจารณ์ในฐานะหุ้นส่วนคนใหม่
 
ฉากสุดท้ายตัดกลับมาที่ 6 เดือนต่อมา คาร์ลได้จัดงานเฉลิมฉลองส่วนตัวในร้านภัตตาคารใหม่ของเขา ซึ่งเป็นงานแต่งงานใหม่ระหว่างคาร์ลกับแฟนเก่าของเขา
 

ภาพจาก https://bit.ly/3b4YsOm
 
แล้วหนังก็จบลงเพียงเท่านี้ จะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ให้คติสอนใจกับพวกเราได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำในสิ่งที่ตัวเองได้รัก การยอมรับและปรับปรุงความผิดพลาดของตัวเอง และที่สำคัญก็คือ การไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งที่ตัวเองได้รักอย่างสุดหัวใจ สำหรับใครที่กำลังทำในสิ่งที่ตัวเองได้รักและรู้สึกท้อถอย อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ (คะ) แนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้แล้วชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
 
เดอะโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นภาพยนตร์เรื่องราวการก่อตั้งบริษัทเฟสบุ๊คของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก มหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นอีกภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการกวาดรางวัลและได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี หนังเรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของมาร์ค ซั..
63months ago   4,481  8 นาที
พบกับ ไทยแฟรนไชส์สปอย การสปอยหนังที่ไม่อยากให้คุณรอคอย! หนังเรื่อง The Wolf of Wall Street นั้น เป็นหนังที่สร้างจากหนังสืออัตชีวประวัติตามชื่อหนังเลยก็คือ “The Wolf Of Wall Street ซึ่งเขียนโดย จอร์แดน เบลฟอร์ท หนังสือเล่มนี้มีการตีพิมพ์เมื่อปี 2007 จอร์แดน เบลฟอร์ทเป็นอดีตนายหน้าค้าห..
63months ago   5,225  11 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
504
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
362
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
360
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
356
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
345
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
340
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด