บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.2K
2 นาที
9 มีนาคม 2563
รวม 7 เทคโนโลยี จัดหนัก! แก้วิกฤติ “โควิด-19”


 
ตอนนี้การแก้ปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน ไม่เว้นแม้แต่ในส่วนของเทคโนโลยีต่างๆ ที่ตอนนี้มีความพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกภาคส่วนพยายามช่วยเหลือกันอย่างเต็มกำลังและเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงได้ในเวลาอีกไม่นาน ลองมาดูเทคโนโลยีที่เขาจัดหนักมาเพื่อการณ์นี้มีอะไรกันบ้าง
 
1. Health Tech โดย Alibaba


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
Alibaba บริษัทด้าน Tech รายใหญ่จากจีน เปิดให้มีฟังก์ชั่นใหม่ช่วยให้ผู้คนสามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ผ่านทุกแพลตฟอร์มในเครือ Alibaba รวมถึงบริการจัดส่งยาสำหรับผู้ที่ต้องการยารักษาโรคทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่ COVID-19 นอกจากนี้ Alibaba ยังได้พัฒนาระบบ AI เพื่อให้สามารถระบุความแตกต่างโรคปอดอื่นๆ และ COVID-19 ซึ่งมีอัตราความแม่นยำสูงถึง 96%
 
โดยระบบ AI นี้เตรียมจัดส่งให้กับโรงพยาบาล 26 แห่งใน 16 จังหวัดและจะขยายเป็น 100 แห่งในเร็วๆ นี้ ที่สำคัญ Alibaba เตรียมนำข้อมูลของ Coronavirus ที่มีจำนวนมากมายมหาศาลขึ้นสู่ระบบ Public Cloud ที่เปิดให้สถาบันด้านการแพทย์ทั่วโลกเข้าถึงได้ เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกนำข้อมูลไปศึกษาและหาวิธีรักษา COVID-19
 
2. Baidu พัฒนา AI สู้ COVID-19


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
Baidu พัฒนาแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาทางการแพทย์ รวมถึงการพัฒนาระบบ AI ภายใต้ชื่อ “LinerFold” ที่สำคัญยังให้หน่วยงานทดสอบยีน, ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดและสถาบันการวิจัยทั่วโลก นำระบบดังกล่าวไปใช้เพื่อช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจพันธุกรรมของ Coronavirus และสามารถช่วยพัฒนาวัคซีนได้
 
และในฐานะที่ Baidu เป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นของจีนรายใหญ่จึงเตรียมนำข้อมูลทางการแพทย์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ COVID-19 มานำเสนอ เพื่อให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตได้เข้าใจและรับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบการดูแลสุขภาพ โดยเป็นความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขของจีน
 
3. Tencent ส่ง Chatbot ช่วยให้ความรู้


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
Tencent อีกหนึ่งบริษัทด้าน Tech รายใหญ่ของจีน เตรียมเปิดบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพออนไลน์ฟรีผ่านแอปฯ WeChat นอกจากนี้ยังนำระบบ Chatbot ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถสอบถาม รวมไปถึงการได้รับการวินิจฉัยขั้นพื้นฐานจาก Chatbot ซึ่งจะอยู่ในรูปของข้อความอัตโนมัติ ทั้งนี้ Tencent ยังได้เปิดศูนย์ประมวลผลซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้นักวิจัยค้นหาวิธีรักษา COVID-19
 
4. Huawei เปิดบริษัทใหม่รวมข้อมูลเชื้อไวรัส


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
แม้ Huawei จะยังประสบปัญหาในเรื่องทางด้านเศรษฐกิจอยู่ แต่ Huawei ก็เข้าร่วมในการต้อสู้ Covid-19 นี้ด้วย โดยมีการจัดตั้งบริษัทย่อยเฉพาะกิจ พร้อมระบบคลาวด์ภายใต้ชื่อ GrandOmics Biosciences ที่ได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อทำความเข้าใจพันธุกรรมของ Coronavirus นอกจากนี้ยังถูกใช้ในการวิเคราะห์เพื่อระบุผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส
 
5. DIDI เปิดระบบคลาวด์ทำแบบจำลอง


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
DiDi บริการรถเช่าที่ใหญ่ที่สุดของจีน เปิดพื้นที่บริการ Public Cloud เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงการสร้างแบบจำลองการระบาดในระดับชาติ รวมถึงในระดับระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในสถานการณ์ที่การระบาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


ภาพจาก bit.ly/3cJI0Vi
 
6. หุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ ของคนไทย


ภาพจาก bit.ly/2xohPmT
 
ที่ประเทศไทยสถานการณ์แพร่ระบาดแม้จะยังไม่หนักเหมือนประเทศจีนแต่ก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน ซึ่งเอไอเอสร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเทคโนโลยี 5G และ 4G มาช่วยเสริมขีดความสามารถการทำงานของหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ซึ่งคิดค้นและพัฒนาจากฝีมือคนไทยเบื้องต้นหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ เริ่มถูกนำไปใช้งานเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 3 แห่ง ได้แก่
  1. โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 2 ชุดเป็นแบบตั้งโต๊ะ
  2. โรงพยาบาลทรวงอก จำนวน 1 ชุด เป็นแบบ Mobile Robot
  3. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จำนวน 1 ชุด เป็นแบบตั้งโต๊ะ

ภาพจาก bit.ly/2xpLgoJ
 
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสร้างจำนวนมากขึ้นและการพัฒนาโปรแกรมใหม่โดยเฉพาะ และยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านเครือข่ายสัญญาณ 5G ไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติมอีกด้วย
 
7. สื่อโซเชี่ยลทั่วโลก ระดมช่วยเหลือทั้งเงินทุนและอุปกรณ์


ภาพจาก bit.ly/2TNFfJT
 
นอกจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลายบริษัทพยายามคิดค้นกันออกมา บรรดาสื่อโซเชียลทั่วโลกก็พร้อมใจช่วยเหลือเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้ ยกตัวอย่าง Facebook ได้เพิ่มฟังก์ชั่น กรองข่าวปลอมออก เพื่อให้มีแต่ข่าวที่น่าเชื่อถือบนฟีด และยังเปิดทางให้ WHO ได้เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ผ่านทางสื่อได้อีกด้วย


ภาพจาก bit.ly/3cLQ4F8
 
รวมไปถึง Google ที่มีการเพิ่มแถบ SOS Alert คัดกรองข่าวสารน่าเชื่อถือและข้อมูลเป็นประโยชน์ และได้บริจาคเงินกว่า 250,000 เหรียญให้แก่จีน หรือแม้แต่ TCL ก็ยังสนับสนุนจอ LCD เครื่องปรับอากาศ  เครื่องซักผ้า ตู้เย็นให้แก่โรงพยาบาลในอู่ฮั่น และยังมีอีกหลายธุรกิจที่ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของให้แก่ทางการจีนเพื่อช่วยในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้ให้ได้
 
จากสถานการณ์แพร่ระบาดนี้จะเห็นว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ สำคัญคือมาตรการป้องกันของแต่ละประเทศเองก็ต้องมีคุณภาพที่ดีเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งบางประเทศถือว่ามีมาตรการที่น่ายกย่องในขณะที่บางประเทศกลับยังดูอ่อนด้อยในการป้องกัน ทั้งนี้ก็คงต้องส่งกำลังใจให้กับตัวเองและคนทั่วโลกในการฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้พร้อมกัน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด