บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.9K
2 นาที
6 กันยายน 2562
หมดยุคเสือนอนกิน! ธุรกิจโทรทัศน์


ในยุคหนึ่งสื่อโทรทัศน์เคยมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก สมัยก่อนบ้านไหนมีโทรทัศน์เรียกว่ารวย คนไหนที่บ้านไม่มีโทรทัศน์ก็ต้องไปอาศัยดูกับคนอื่น ร้านค้าร้านโชห่วยบางทีก็เอาโทรทัศน์มาเป็นจุดขายมาเปิดรายการต่างๆให้คนเข้ามานั่งดู จนถึงยุคที่โทรทัศน์เข้าถึงได้ง่ายขึ้นพฤติกรรมเหล่านี้ก็เปลี่ยนไปแต่อิทธิพลของโทรทัศน์ก็ยังมีอยู่เพราะยุคนั้น ยังไม่มี “โซเชี่ยล” ไม่น่าแปลกใจที่เราจะเรียกธุรกิจโทรทัศน์ในยุคนั้นว่าเป็น “เสือนอนกิน” คือผลิตคอนเทนต์อะไรออกมายังไงคนก็ต้องดู เม็ดเงินโฆษณาเรียกว่าเข้ามาอย่างมหาศาล
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะที่เริ่มมีโซเชี่ยลเข้ามาแย่งเวลาคนดู ประกอบกับการเข้ามาของทีวีดิจิทัลที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้ “เสือนอนกิน” ในอดีตต้องแปรสภาพมาดิ้นรนเพื่อดึงคนเข้ามาดูให้ได้เรตติ้งเพิ่มมากขึ้น
 
ธุรกิจทีวียุคยังบูม ใครๆก็อยากเข้ามาทำงานด้านนี้


ภาพจาก bit.ly/2lFO4rC
 
หากจำได้มหาวิทยาลัยสมัยก่อนแทบทุกที่เอาจริงเอาจังกับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ผลิตคนออกมาแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 2,000 อัตรา แบ่งสายงานง่ายๆตามสื่อคือ TV, printing, Radio, Advertising ด้วยมองว่าวงการสื่อในยุครุ่งเรืองค่าตัวสูง รายได้ดี โบนัสดี แถมมีการซื้อตัวย้ายค่ายกันอย่างสนุก ทีวี 1 ช่อง มีคนทำงานเหยียบ 1,000 หรือบางที่มากกว่านั้น ตีเฉลี่ยก่อนประมูล ทีวีหลักมี 6 ช่อง มีคนทำงาน 6 ช่องนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ยังไม่นับรวมทีวีดาวเทียมอีกมหาศาล


ภาพจาก bit.ly/2lVo5N0
 
เรตติ้งละครหลังข่าวสมัยก่อนคือจุดชี้วัดว่าช่องไหนเจ๋งกว่าช่องไหน ในยุคที่ช่อง 3 กับช่อง 7 ยังมีแต่ระบบอนาล็อค กำไรของแต่ละช่องแตะระดับ 5,000 ล้านต่อปี เกิดการจ้างงาน จ้างผู้ผลิต จ้างบริษัทหนัง อย่างมหาศาล เรียกว่ายุคนั้นใครอยากดังก็ต้องไปออกรายการช่อง 3 หรือชอ่ง 7 เรตติ้งพุ่งกระฉูดด้วยดาราระดับแม่เหล็กและบทละครเข้มข้นหลังข่าว ที่หลายบ้านติดกันงอมแงม
 
อิทธิพลของโซเชี่ยลและทีวีดิจิทัลคือจุดเปลี่ยนสำคัญ


ภาพจาก bit.ly/2lYxELa

อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลเริ่มต้นในปี 2557 กับความหวังของผู้ประกอบการที่มองเห็นเม็ดเงินโฆษณาทีวีปีละ 60,000 - 70 ,000 ล้านบาท ในยุคทีวีที่ยังเป็นอนาล็อค ช่อง 3 กับ ช่อง 7 ทำกำไรระดับ 5,000 ล้านบาทต่อปี แต่ในความเป็นจริงนับแต่ปีแรกที่ออกอากาศรูปแบบใหม่ ด้วยจำนวนช่องที่เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าตัว ผู้ชมกระจายตัวในดิจิทัลสารพัดช่อง รวมทั้งยังมีสื่อออนไลน์โซเชี่ยลมีเดีย เข้ามาแย่งตลาด และเวลาของผู้ชม ไม่น่าแปลกที่ “เรตติ้ง” ของทีวีจะลดลงต่อเนื่อง แม้แต่ผู้นำอย่างช่อง 3 ช่อง 7 เม็ดเงินค่าโฆษณาก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่การลงทุนทีวีดิจิทัลแต่ละช่องอยู่ที่หลักร้อยถึงพันล้านต่อปี สิ่งที่ตามมาคือภาวะ “ขาดทุนอย่างหนัก


ภาพจาก bit.ly/2lC5WUm
 
กลุ่มที่มีกำไรอยู่บ้างเช่น ช่อง 7HD แม้ยังกำไรแต่ตัวเลขก็ลดลงโดยในปี 2557 รายได้ 10,428 ล้านบาท กำไร 5,510 ล้านบาท แต่ในปี 2561 รายได้ 5,750 ล้านบาท กำไร 1,633 ล้านบาท หรือช่อง โมโน 29 ที่เริ่มต้น 3 ปีแรกขาดทุนเรื่องเนื่องแต่จากการปรับคอนเทนต์ที่นำภาพยนตร์และซีรี่ย์ต่างประเทศมาเป็นจุดขาย พลิกมาทำกำไรตั้งแต่ปี 2560 รายได้ 1,582 ล้านบาท กำไร 90 ล้านบาท และในปี 2561 รายได้ 3,806 ล้านบาท กำไร 32 ล้านบาท


ภาพจาก bit.ly/2klHVRo
 
ในกลุ่มช่องที่ขาดทุนหนึ่งในนั้นก็มี PPTV ที่ลงทุนทั้งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลต่างประเทศและกีฬาต่างๆ แม้จะขาดทุนต่อเนื่องมาในระยะ5ปี แต่ตัวเลขในปี2561 รายได้ก็พอจะดีขึ้นขาดทุนน้อยลง โดยรายได้ปี 2561 อยู่ที่ 495 ล้านบาท ขาดทุน 1,837 ล้านบาท หรือจะเป็นช่อง ONE 31 รายได้ปี 2561  2,033 ล้านบาท ขาดทุน 9.3 ล้านบาท
 
ซึ่งการประกาศคืนใบอนุญาตของทีวีดิจิทัล 7 ช่อง มีการประเมินว่าจะต้องเลิกจ้างพนักงานไปด้วยรวมกันไม่ต่ำกว่า 500 คนหรืออาจจะมากกว่านี้ ไม่นับรวมวิชาเรียนในสมัยนี้ที่ทุกมหาวิทยาลัยแทบจะไม่ได้เน้นการผลิตคนทำสื่อออกสู่ตลาด คณะนิเทศศาสตร์ที่เคยเป็นเป้าหมายของใครหลายคนก็เริ่มถูกลืมเลือน บางมหาวิทยาลัยต้องเพิ่มหลักสูตรด้านการตลาดออนไลน์ การผลิตสื่อออนไลน์ออกมา เพราะมองว่าเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคตมากกว่า


ภาพจาก bit.ly/2kxIvvb

ตามการคาดการณ์วงการโทรทัศน์ในยุคต่อจากนี้ บทบาทของทีวีจะลดน้อยลง คนจะเสพข่าวและคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ทีวีก็จะกลายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของบ้านที่ยังไงก็ต้องมีแต่คนจะไม่จมปลัก ไม่จำเป็นต้องรีบกลับเพื่อไปดูละคร เพราะเดี๋ยวนี้ดูย้อนหลังก็ยังได้ 
 
เม็ดเงินโฆษณาก็จะเปลี่ยนทิศทางจากทีวีสู่ออนไลน์มากขึ้น การคงอยู่ของสื่อโทรทัศน์ก็ต้องปรับคอนเทนต์ให้คนดูรู้สึกอยากติดตามดังที่เราจะเห็นรายการรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงหมดยุคเสือนอนกินของสื่อโทรทัศน์เพราะยุคนี้คนดูไม่ต้องง้อโทรทัศน์อีกต่อไปแล้ว
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
430
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
408
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด