บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.6K
3 นาที
5 มิถุนายน 2562
5 ธุรกิจสุดแปลก! เอาใจคนขี้เหงา กำไรเอาๆ
 

มีคนบอกว่า “ถ้าเหงาให้จับ เหามาหงาย” เหาหงาย ก็ หายเหงา แฮร่!!!! แต่ชีวิตจริงหากเกิดอาการเหงา ให้จับเหามาสักกี่ตัวก็คงไม่หาย ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้เปิดเผยในงานวิจัยเรื่อง การตลาด Lonely in the Deep : เจาะลึกตลาดคนเหงา ว่า ประเทศไทยมีคนเหงาสูงมาก คนไทย 26.75 ล้านคนเป็นคนเหงา หรือเทียบเท่ากับ 40.4% ของประชากรทั้งประเทศ หรือตัวอย่างผลสำรวจภาวะความเหงาของประชากรในสหรัฐอเมริกาที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส พบว่า กลุ่มเยาวชน Gen Z อายุระหว่าง 18 – 22 ปี เป็นกลุ่มที่ประสบภาวะเหงาสูงสุด
 
โดยช่วงอายุที่มีแนวโน้มความเหงาสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มวัยทำงาน อายุระหว่าง 23 – 40 ปี ครองอันดับสูงสุด 49.3% เยาวชนวัยเรียน อายุระหว่าง 18 – 22 ปี 41.8% และ วัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 41 – 60 ปี 33.6% ในขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยอายุมากกว่า 60 ปี กลับประสบภาวะความเหงาเพียง 24.5% เนื่องจากมีความพร้อมด้านการจัดการอารมณ์ และรายได้เพื่อใช้ในการประกอบกิจกรรมแก้เหงาเพิ่มสูงขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้น
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่า “Lonely Marketing” คือตลาดใหญ่ที่กำลังน่าสนใจ และอย่ามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะจากสถิติและข้อมูลที่กล่าวไป เชื่อว่าตัวเลขจะสูงยิ่งกว่านี้ในอนาคต หากใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นกับธุรกิจอะไรลองมาจับ “กลุ่มคนเหงา” แล้วหาโมเดลธุรกิจที่แก้ปัญหาเหล่านี้ก็น่าจะเวิร์คไม่เบา
 
อารมณ์แบบไหนที่เรียกว่า “เหงา”
 

ภาพจาก  family-romance.com

ถ้าจะให้นิยามคำว่าคนเหงาคงจะยากพอสมควร เพราะแต่ละบุคคลมีระดับความเหงาที่แตกต่างกัน แต่ภาพรวมๆ คงจะหมายถึงคนที่รู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว ความเหงาเป็นหนึ่งในปัจจัยด้านอารมณ์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ในหลายๆ ด้าน ผู้สูงอายุวัยเกษียณที่คาดว่าจะเหงามากที่สุด กลับมีความเหงาน้อยที่สุด

ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่วัยมีครอบครัวก็ไม่ค่อยเหงาเช่นกัน กลับกลายเป็นว่า วันเรียนและวัยทำงานเป็นวัยที่เหงามากที่สุด โดยงานวิจัยยังชี้อีกว่า ยิ่งรายได้น้อย หรือ มีภาระทางการเงินมาก จะยิ่งเหงามาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิต ไม่สามารถไปเที่ยวนอกบ้าน ใช้ของที่อยากต้อง ต้องเก็บเงินไว้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ อยู่แต่บ้าน เหล่านี้นำไปซึ่งความเหงาทั้งสิ้น
 
3 วิธีกำจัดความเหงา
 

ภาพจาก  family-romance.com

เมื่อคนเรามีความเหงา ส่วนใหญ่ก็ต้องหาวิธีผ่อนคลาย ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่ในยุคปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโซเชี่ยลมีเดียก็เป็นหนึ่งในวิธีคลายเหงาที่ฮิตมาก
  1. เข้าถึงโซเชียลมีเดีย เป็นวิธีช่วยคลายเหงา ที่เข้าถึงง่าย  สามารถสร้างความรู้สึกร่วมกับสังคมเสมือนบนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงยังเป็นหนึ่งในวิธีการแก้เหงาที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด 
  2. รับประทานอาหารในร้านอาหารหรือคาเฟ่ หนึ่งกิจกรรมที่มอบความสุขให้กับตัวเอง ไปพร้อมกับการมีผู้คนอยู่รอบตัว ซึ่งช่วยลดทอนบรรยากาศ และความรู้สึกโดดเดี่ยว
  3. การช้อปปิ้ง ซึ่งนอกจากจะช่วยหลบหนีความรู้สึกด้านลบในจิตใจแล้ว ยังตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ได้เช่นเดียวกับการไปร้านอาหารหรือคาเฟ่ รวมถึงใช้ความพยายาม และค่าใช้จ่าย ในการทำกิจกรรมน้อยที่สุด
อย่างไรก็ดีการบำบัดความเหงาด้วยโซเชี่ยลมีเดีย เบื้องต้นแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ตัวคนเดียว อาจจะมีเรื่องให้สนใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับร่างกายซ้ำร้ายการอยู่กับโซเชี่ยลเพื่อแก้เหงานานๆ เข้าอาจกลายเป็น “โรคซึมเศร้า” ด้วยเหตุนี้จึงมีนักลงทุนที่พยายามสร้างธุรกิจคลายเหงาขึ้นมาเช่นธุรกิจด้านคอมมิวนิตี้ อย่าง ร้านอาหาร คาเฟ่ บอร์ดเกมส์ ฯลฯ หรือในสหรัฐอเมริกาที่อพาร์ทเม้นบางแห่งมีพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้พักอาศัยได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน
 
อย่างไรก็ดีในคำว่า “ธุรกิจคลายเหงา” ก็มี 5 ธุรกิจที่ออกตัวชัดเจนในเรื่องนี้โดยมีธุรกิจที่อยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
 
1.YOUEX
 
ภาพจาก www.facebook.com/youexapp/

เป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการสำหรับคนเหงาและผู้ที่ต้องการหาเพื่อนทานข้าว ดูหนัง หรือช้อปปิ้ง ถ่ายแบบ MC หรือพริตตี้ ในรูปแบบของการจ้างงานเพื่อนหน้าตาดีทั้งคนปกติธรรมดาทั่วๆ ไป หรือระดับ MC หรือพริตตี้ชายและหญิง เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2560 ผู้พัฒนาแอปฯ ประกาศจุดยืนชัดเจน ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการและผู้รับจ้างงานแฝงการค้าประเวณี หากฝ่าฝืนจะลบบัญชีผู้ใช้ออกจากระบบและดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย
 
2.Oh My Oppas (เกาหลี)
 
ภาพจาก www.facebook.com/ohmyoppakorea/

“โอ้ มาย โอปป้า” (Oh My Oppas) ของเกาหลีธุรกิจนี้จับเอา “โอปป้า” ซึ่งเป็นคำฮิตในซีรีส์ที่บรรดาสาวๆ ใช้เรียกผู้ชายที่อายุมากกว่า หรือหนุ่มๆ ที่พวกเธอปลาบปลื้ม มาเป็นจุดขายในการทำทัวร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ บริการโอปป้าพาทัวร์นี้ไม่มีความสัมพันธ์แบบเกินเลย สนนราคาอยู่ที่ 40,000 วอน ต่อการเที่ยว 2 ชั่วโมง หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,200 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอาหาร เล่นเกม ลูกค้าจะต้องเป็นคนจ่าย ส่วนคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ในฤดูหนาว ทริปเล่นสกีจะใช้เวลา 10 ชั่วโมง ค่าบริการอยู่ที่ 200,000 วอน
 
3.เพื่อนเดินคลายเหงา (อเมริกา)
 
ภาพจาก bit.ly/2QPGOFd

ในอเมริกา มีรายงานว่าในยุค 70 และ 80 ประชากร 11- 20% มีความรู้สึกโดดเดี่ยว และตัวเลขดังกล่าวก็ได้พุ่งสูงขึ้นเป็น 40-45% ในทศวรรษนี้ ซึ่งมีหนุ่มหัวใสคือนาย Chuck McCarthy คิดไอเดียทำอาชีพเป็น “เพื่อนเดิน” ให้กับชาวลอสแองเจลิส ค่าบริการจะอยู่ที่ราวๆ 250 บาทต่อไมล์ หน้าที่ของเขาก็คือ การเดิน พูดคุย และรับฟังในสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากจะพูด โดยที่บทสนทนาทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ ซึ่งเป็นจรรยาบรรณของคนทำอาชีพ “เพื่อนเดิน”
 
4.เช่าครอบครัว (ญี่ปุ่น)
 
ภาพจาก  family-romance.com

ธุรกิจนี้เกิดมาจากมีนักธุรกิจมองเห็นว่าญี่ปุ่นมีคนแก่เยอะมาก และคนเหล่านี้ก็เหงาสุดๆเลยทำให้เกิดธุรกิจนี้ขึ้น ธุรกิจนี้จึงเน้นการให้เช่าลูกเช่าเมียเสมือนจริงเพื่อไปอยู่บ้าน กินข้าวเย็นด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้คนแก่ไม่รู้สึกเหงา ส่วนราคาเช่าครอบครัวจะอยู่ที่ Session ละ 40,000 เยน (12,000 บาท) ซึ่งแต่ละ Session ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ 2 - 4 ชั่วโมงต่อคน
 
5.เช่าสัตว์เลี้ยง (ญี่ปุ่น)
 
ภาพจาก  bit.ly/31cMpKr

สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคนอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะเหตุนี้เลยทำให้เกิด "ธุรกิจเช่าสัตว์เลี้ยง" ขึ้น เพราะสมัยนี้คนเอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์มากขึ้น ทำให้คนเลี้ยงสัตว์กันน้อยลง แต่ความอยากเลี้ยงสัตว์ของคนไม่ได้ลดลงเลย แถมยังยิ่งทวีความต้องการมากขึ้นโดยราคาสำหรับการเล่นกับสุนัขครึ่งชั่วโมงอยู่ที่ 950 เยน (280 บาท) และการพาสุนัขไปเดินเล่น 1 ชม. ก็อยู่ที่ 3,600 เยน (1,080 บาท) อีกทั้งเราสามารถต่อเวลาเพิ่มได้หากต้องการ
 
หลายคนอาจจะมองว่า “ความเหงา” เป็นเรื่องเล็ก แต่ในความเป็นจริงเรื่องเล็กนี่แหละที่จะเป็นจุดต่างในการสร้างรายได้ ยิ่งยุคที่โซเชี่ยลมีผลกับเรามากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดคนเหงาก็มีมากขึ้นเท่านั้น ใครที่มีไอเดียดีๆ ลองคิดโปรเจคพิฆาตความเหงา และเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้ดีไม่ดีอาจสร้างรายได้ดี ๆชนิดที่ไม่ต้องกลัวเหงาอีกต่อไป
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่  www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
614
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
520
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
478
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
439
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
425
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
422
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด