บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
2 นาที
20 มีนาคม 2562
ญี่ปุ่นในมุมที่คุณไม่รู้!


ภาพจาก goo.gl/images/vzw4a2

แม้เราจะคุ้นเคยกับคนญี่ปุ่น แต่อาจมีหลายมุมที่เราอาจไม่รู้จักญี่ปุ่นดี เราจะไปลงทุนที่นั่นหรือร่วมกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่น ก็ควรเข้าใจเรื่องราวที่น่ารู้ของญี่ปุ่น
 
ผมมีพันธมิตรทางธุรกิจเป็นชาวญี่ปุ่นมาช้านาน พาคณะบุคคลไปดูงานปีละหลายครั้ง เคยไปสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียวตั้งแต่ปี 2529 และยังเคยส่งคณะไปประเมินค่าทรัพย์สินถึงเกาะฮอกไกโด ในวันนี้จึงขอแบ่งปันประสบการณ์ที่พึงรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น ผมเชื่อว่ามุมมองเหล่านี้ เราจะได้ประโยชน์ตามสมควร
 
ในญี่ปุ่นมีบริษัทพัฒนาที่ดิน 4 แห่ง ครองส่วนแบ่งตลาดอาคารชุดถึง 30% ในกรุงโตเกียวได้แก่ บริษัท Mitsui Sumitomo Mitsubishi และ Nomura กรณีนี้แสดงถึงอิทธิพลของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามในกรณีบ้านแนวรายไม่มีบริษัทใดครองส่วนแบ่งตลาดเด่นชัด ตลาดยังเป็นของรายย่อย


ภาพจาก goo.gl/images/TVhU3W
 
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนต่างชาติควรไปซื้อบ้านหรือไม่ ประเทศนี้มีความสงบสุข เป็นระเบียบเรียบร้อย มลพิษน้อย แม้จะมีภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวหรือสึนามิก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะชาวญี่ปุ่นเองก็ไม่อพยพหนี จึงถือว่าญี่ปุ่นน่าอยู่อาศัย แต่ในอีกแง่หนึ่งคนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษ ป้ายต่างๆ ก็มักใช้ภาษาญี่ปุ่น จึงสื่อสารกับคนต่างชาติได้ยาก และอาจเป็นอุปสรรคในการอยู่อาศัยบ้าง อีกอย่างหนึ่งกรณีทรัพย์สินที่ขายให้กับคนต่างชาติบอกขายในราคาสูงกว่าราคาที่ขายแก่คนท้องถิ่น
 
ในกรุงโตเกียว มีย่านที่คนต่างชาติมาขายแรงงานโดยเป็นชาวจีน ชาวเคอร์ช ชาวปากีสถาน รวมกันประมาณ 5,000 คน เนื่องจากแรงงานภายในประเทศหาได้ยาก แม้จะพยายามใช้คนท้องถิ่นที่เป็นผู้สูงวัยแล้วก็ตาม คนต่างชาติเหล่านี้บ้างก็มาศึกษาในญี่ปุ่นแล้วพยายามอยู่ยาวเพื่อหางานทำ อย่างไรก็ตามย่านที่อยู่อาศัยของคนเกล้านี้ ได้แก่ Warabe Kawaguchi และ Saitama จะมีสัดส่วนคนญี่ปุ่นน้อยกว่า เพราะคนญี่ปุ่นไม่อยากอยู่ร่วมกับคนต่างชาติ ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในย่านนั้นลดลง พวกเรานี้มีส่วนในการก่ออาชญากรรมในญี่ปุ่นด้วย
 
สำหรับบริเวณที่เกิดสึนามิ และการแผ่รังสีที่เกิดผลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี 2554 ปรากฏว่า

1.บริเวณโดยรอบโรงงานไฟฟ้ายังไม่เปิดให้ผู้คนเข้าพักอาศัย รวมทั้งแนวแผ่รังสี ซึ่งแม้จะลดความเข้มข้นลงตามกาลเวลา แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นก็ยังไม่เข้าไปอยู่อาศัยมากนัก


ภาพจาก goo.gl/images/bb8Xgh

2.บริเวณที่เกิดสึนามิโดยมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ประชาชนก็ไม่นิยมกลับไปอยู่อาศัยนัก ประกอบกับประชากรผู้สูงวัยมีมากขึ้นจึงยิ่งทำให้บริเวณเหล่านั้นถูกทิ้งร้างไว้เป็นจำนวนมาก


ภาพจาก goo.gl/images/wDrBDT

3.บริเวณที่ไม่ได้รับผลกระทบใดอยู่ใกล้ชายฝั่ง ก็กลับมีประชาชนย้ายเข้าไปอยู่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาบ้านและที่ดินเพิ่มขึ้นตามลำดับ


ภาพจาก goo.gl/images/rBCWNY

ต่อปัญหาประชากรสูงวัย ปรากฏว่ามีที่อยู่อาศัยจำนวนมากถูกทิ้งร้าง เมื่อประชากรสูงวัยเสียชีวิตลง บุตรหลานก็ไม่นิยมกลับไปอยู่หรือใช้บ้านเหล่านั้น โดยที่ประชากรญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีบ้านร้างเพิ่มขึ้นทุกปี  ปัญหานี้จึงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะโครงสร้างราคาของค่าก่อสร้างบ้านแพงมาก
 
บ้านหลังหนึ่งราคา 20 ล้านเยน เป็นตัวบ้าน 15 ล้านเยน และเป็นตัวที่ดิน 5 ล้านเยน  ในกรณีหรือถอนอาคารเก่าจะมีค่าหรือถอนประมาณ 2 ล้านบาท (15,000 เยนต่อตารางเมตร) หรือเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของค่าที่ดิน  เจ้าของบ้านจึงปล่อยทิ้งร้างไว้เช่นนั้นโดยไม่ใช้ประโยชน์  ยังปรากฏว่าราคาบ้านในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาแทบไม่เปลี่ยนแปลง จึงขาดแรงจูงใจในการสร้างบ้านใหม่ในที่ดินเดิมซึ่งอาจมีระบบสาธารณูปโภคไม่ดีนัก
 
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือมีความเป็นไปได้เพียงใดในการนำประชากรผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่น เข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยเช่นเดียวกับกรณีผู้สูงวัยชาวตะวันตก ที่ผ่านมาก็มีความพยายามดำเนินการหลายโครงการในประเทศไทย แต่ข้อนี้ค่อนข้างยาก เพราะผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นไม่ชอบการให้ออกไปใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศ ไม่ชอบปรับตัวเช่นชาวตะวันตก และคุ้นชินกับสังคมแบบญี่ปุ่นมากกว่า


ภาพจาก goo.gl/images/1Z4vmT
 
เป็นไปไม่ได้ที่จะหวังว่าชาวญี่ปุ่นเป็นผู้มีรายได้สูงหรือคนสูงวัยย้ายออกจากประเทศเพราะภัยธรรมชาติ (สึนามิ แผ่นดินไหว) หรือมลพิษในอดีตในสมัยอุตสาหกรรมหนักเมื่อ 40 ปีก่อน  อันที่จริงญี่ปุ่นยังมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ยังเปิดใช้อยู่อีกเป็นจำนวนมากถึง 54 แห่ง แต่เขาก็ไม่หวั่นจนเกิดอาการขี้ขึ้นสมองเหมือนในประเทศไทย การย้ายถิ่นถึงไม่เกิดขึ้นอย่างที่คาดคิด
 
อันที่จริงหากกล่าวได้ว่าความกลัวภัยธรรมชาติจนเกินเหตุของคนไทยเป็นสิ่งที่เกินความจริงไป ดูอย่างกรณีแผ่นดินไหวที่เชียงรายเมื่อสองสามปีก่อนก็กลายเป็นข่าวใหญ่ หรือกรณีสึนามิที่ภูเก็ตเมื่อปี 2547 ก็เป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินแต่อย่างใด ดังนั้นธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ แม้บางครั้งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่งก็ตาม
 
ยิ่งในกรณีน้ำท่วมโลกซึ่งมีเค้าน่าหนักใจในกรณีกรุงเทพมหานคร ที่มีคนกล่าวว่าอาจจะจมทะเลในไม่ช้า กรณีนี้ก็เป็นแค่ข่าวลือ เพราะหากน้ำจะท่วมโลกจริงป่านนี้ประเทศที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มะนิลา จาการ์ตา หรือเมืองใหญ่ในยุโรป คงต่างพากันสร้างกำแพงกั้นน้ำท่วมกันยกใหญ่แล้ว ปรากฏว่ากลับมีแต่ประเทศไทยที่ถูกปลุกปั่นให้ตกใจเท่านั้น


ภาพจาก goo.gl/images/QUZoPK
 
ในด้านนักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นมีผู้ประเมินค่าทรัพย์สินประมาณ 8,000 คน แต่มีนายหน้าประมาณ 1,000,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 127 ล้านคน ค่านายหน้ามักคิด 3% จากฝั่งคนซื้อ และให้อีก 3% จากฝั่งคนขาย ทำให้ธุรกิจนายหน้าในประเทศญี่ปุ่นเฟื่องฟู ส่วนค่าจ้างประเมินค่าบ้านหลังหนึ่งเป็นเงินประมาณ 50,000 เยน หรือประมาณ 0.25% ของราคาบ้านเฉลี่ยประมาณ 20 ล้านเยน แต่สำหรับในประเทศไทยค่าบริการประเมินค่าทรัพย์สินเป็นเพียง 0.1% ของราคาบ้านเท่านั้น
 
คิดจะทำธุรกิจ (อสังหาริมทรัพย์) กับชาวญี่ปุ่นรวมถึงพึงมีความเข้าใจต่อคนญี่ปุ่นและประเทศญี่ปุ่นให้ชัดเจน
 

ผู้แถลง

ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th)

ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

อ้างอิงจาก
goo.gl/qdBS3e
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
529
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
452
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
448
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
412
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
404
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
393
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด