บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.9K
3 นาที
4 มีนาคม 2562
กิจการขายใบไม้เพื่อประดับอาหารญี่ปุ่น ที่สร้างมูลค่าสูงทั้งทางเงินและทางใจ
 

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน ดิฉันคิดว่าคุณผู้อ่านคงจะเคยเห็นอาหารญี่ปุ่นที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยใบไม้ชนิดต่างๆ คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่าใบไม้เหล่านั้นนอกจากจะสร้างมูลค่าสูงทางตัวเงินให้กับนักเก็บใบไม้ทั้งหลายแล้วยังมีมูลค่ามากทางจิตใจด้วย เรื่องที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ดิฉันอ่านและรู้สึกประทับใจมากเพราะมันสื่อได้อย่างชัดเจนว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” 
 
Kamikatsu เมืองเล็กๆที่ขายใบไม้ไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
 
เมือง Kamikatsu เป็นเมืองเล็กๆ ที่แวดล้อมด้วยภูเขาในจังหวัด Tokushima ประชากรเกินครึ่งของเมืองนี้เป็นผู้สูงอายุ  และประกอบกิจการขายใบไม้ตกแต่งอาหารญี่ปุ่นมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โครงการขายใบไม้นี้ถูกริเริ่มโดยคุณ Tomoji Yokoishi ซึ่งเป็นชาว Tokushima โดยกำเนิด เขาเรียนจบด้านการเกษตรและทำงานที่สหกรณ์การเกษตรในเมือง Kamikatsu

ในช่วงที่เขาเข้าทำงานใหม่ๆเป็นช่วงที่ทั้งนายกเทศมนตรีและผู้นำชุมชนต่างกุมขมับกับปัญหาของเมืองนี้เพราะประชากรลดลงเรื่อยๆ ประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ การปลูกส้มแมนดารินซึ่งเป็นอาชีพหลักก็ดูเหมือนจะแย่ลงทุกวันๆ เพราะสวนส่วนใหญ่ขาดทุนย่อยยับจากลมหนาวรุนแรง
 

Tomoji Yokoishi
 
ไอเดียการทำธุรกิจขายใบไม้เกิดขึ้นในปี 1986 ในระหว่างที่คุณ Yokoishi กำลังรับประทานอาหารที่ร้านซูชิแห่งหนึ่งในโอซาก้า สายตาเขาได้เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูจะประทับใจในความสวยงามของใบเมเปิ้ลที่ประดับอยู่ในจานซูชิซะเหลือเกิน จนเธอคนนั้นต้องเอาผ้าเช็ดหน้าห่อใบไม้และนำกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก ภาพๆนั้นได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เขาคิดในใจว่า “ใบไม้เป็นอะไรที่หาได้จากสวนหลังบ้านที่ดูไม่มีคุณค่าอะไรเลย

แต่ถ้ามีคนเห็นความงามในใบไม้นั้น เขาก็น่าจะทำธุรกิจจากใบไม้ได้” เขาเริ่มเห็นความหวังอยู่ปลายทางเพราะใบไม้เป็นสิ่งที่หาง่ายในเมือง Kamikatsu นอกจากนั้นผู้สูงอายุในเมืองก็จะมีรายได้ด้วยซึ่งเป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากกว่ากิจกรรมที่ทำกันส่วนใหญ่คือการนินทาเกี่ยวกับแม่ผัวลูกสะใภ้ไปวันๆ
เริ่มต้นจากศูนย์
 
แต่ความสำเร็จก็ไม่ได้มาง่ายๆ เพราะหลังจากที่มีไอเดียการขายใบไม้แล้ว คุณ Yokoishi ก็ได้พยายามนำเสนอไอเดียการทำธุรกิจขายใบไม้กับชาวเมือง Kamikatsu แต่ชาวบ้านต่างก็ไม่เชื่อว่าจะสามารถทำรายได้จากการขายใบไม้ได้ “ใครจะจ่ายเงินซื้อใบไม้” พวกเขาคิด และมันยังเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี พวกเขาเชื่อกันว่าใบไม้เป็นของถูกๆและสำหรับคนจนๆ “เราไม่ได้สิ้นหวังขนาดต้องขายใบไม้ประทังชีพ”

สุดท้ายมีชาวบ้านผู้หญิงเพียงสี่คนที่ตอบตกลงที่จะขายใบไม้ที่ใช้ในการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นแต่ก็ขายไม่ดีเท่าไร ในตอนแรกราคาที่ขายนั้นต่ำมากเพียง 5-10 เยนต่อหนึ่งห่อ เพราะชาวบ้านไม่รู้วิธีบรรจุห่อใบไม้ให้สวยงามและไม่รู้ว่าใบไม้จะถูกนำไปขายเพื่อใช้ในร้านอาหารได้อย่างไร 
 
ความพยายามอย่างไม่ย่อท้อจนประสบผลสำเร็จ
 

ภาพจาก https://goo.gl/PVhBFT

ในตอนเริ่มกิจการ คุณ Yokoishi ไม่รู้ว่าใบไม้เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในร้านอาหารใหญ่ๆกันอย่างไรและแบบไหน แต่เขาไม่ลดละที่จะหาคำตอบ เขาได้ใช้เวลากว่า 2 ปีเดินทางไปรับประทานอาหารตามร้านหรูๆทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยยอมควักกระเป๋าตัวเองจ่ายค่าอาหารที่แสนแพงครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบหมดตัว

จุดมุ่งหมายก็เพื่อตระเวนถามพ่อครัวในร้านใหญ่ๆเกี่ยวกับใบไม้ที่ใช้ประดับอาหาร พ่อครัวส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพราะกลัวโดนขโมยสูตรอาหาร คุณ Yokoishi เลยแอบเข้าไปดูในครัว บางครั้งโดนด่า เอามีดไล่เฉาะหัว หรือถูกน้ำสาดก็ยังเคย จนกระทั่งมีพ่อครัวคนหนึ่งให้ความช่วยเหลือและได้ให้ข้อมูลที่สำคัญว่าเทศกาลไหนที่ใบไม้แบบใดมีความหมาย เช่น ใบ Yuzuriha เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่จะใช้ประดับอาหารช่วงปีใหม่ เขายังเรียนรู้ว่าใบไม้ที่นำมาใช้ไม่ควรจะมีรอยด่างใดๆและควรจะบรรจุด้วยใบขนาดเท่าๆกัน

เขาไม่หยุดแต่เพียงแค่นั้นเพราะเขาได้เดินทางไปพบตัวแทนขายส่งทั่วประเทศเพื่อเสนอขายใบไม้ของเขา ต่อมาร้านขายส่งก็เริ่มได้ออร์เดอร์จากร้านอาหาร ยอดขายในปีแรกเพียง 1.17 ล้านเยนเพิ่มเป็น 21.61 ล้านเยนในปี 1988 และมากกว่า 260 ล้านเยนในปัจจุบัน สินค้าที่ขายดีก็ได้แก่ ใบนันเตง (Nandina) ใบเมเปิ้ลและใบไผ่ เมื่อเริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆชาวบ้านก็เริ่มสนใจจะเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ในช่วงแรกเขาส่งออร์เดอร์ให้ชาวบ้านโดยแฟกซ์และในบางครั้งเขายังเขียนข้อความให้กำลังใจไปกับออร์เดอร์นั้นด้วย 
บริษัท Irodori เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุในเมือง
 
คุณ Yokoishi ได้ตัดสินใจทำกิจการขายใบไม้ต่อและได้จดทะเบียนบริษัท Irodori ในปี 1999  ในปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการประมาณ 195 คน โดยมีใบไม้ที่ปลูกจาก 200 สวน มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 320 รายการ อายุเฉลี่ยของเกษตรกรที่เข้าร่วมคือ 70 ปี และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง! ชาวบ้านมีความได้เปรียบอยู่แล้วเพราะรู้จักพื้นที่ของตัวเองเป็นอย่างดี รู้ว่าลมพัดทางไหน และควรจะปลูกอะไรเมื่อไรอย่างไร รายได้เฉลี่ยของนักปลูกใบไม้เหล่านี้อยู่ที่คนละประมาณ 1.5 ล้านเยนต่อปีบางคนมีรายได้มากถึง 10 ล้านเยนต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากในชนบทแบบนี้ 
 
ชาวบ้านบอกว่าใบไม้มีน้ำหนักเบา และง่ายต่อการเก็บเมื่อเทียบกับส้มแมนดารินที่เคยปลูก การเก็บใบไม้ยังทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเวลาดูแลครอบครัว คุณ Takehiro Toyota ผู้เข้าร่วมโครงการกล่าวว่า “สิ่งสำคัญของการเป็นมนุษย์ก็คือ การได้มีบทบาทในสังคม รู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าโดยเฉพาะในสังคมผู้สูงอายุแบบญี่ปุ่น” คุณ Yukiko Nishikage อายุ 75 ปีกล่าวว่า “ฉันได้เข้าร่วมโครงการนี้ตั้งแต่ 18 ปีก่อน

ธุรกิจนี้เป็นแหล่งพลังงานชีวิตที่ดีของฉัน ฉันอยากจะทำงานไปจนอายุร้อยปี”  Kamikatsu มีประชากรสูงอายุอยู่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด แต่กลับมีเพียง 8% หรือเพียง 14 คนจากทั้งหมดในจำนวนนี้ที่เป็นผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแล และยังมีรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลต่ำมากๆเมื่อเทียบกับเมืองอื่น เห็นได้ชัดว่าการรู้สึกว่าตัวเองมีค่านั้นทำให้ผู้สูงอายุทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ธุรกิจนี้ยังทำให้คนรุ่นใหม่หวนกลับสู่บ้านเกิด
 
ใช้เทคโนโลยีในการบริหารงานและการปรับปรุงคุณภาพสินค้าอยู่เสมอ
 

ภาพจาก https://goo.gl/PVhBFT

คุณ Yokoishi ปัจจุบันอายุ 60 กว่า ยังแนะนำผู้สูงอายุให้ใช้แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ในการรับออเดอร์และใช้ระบบ POS ชาวบ้านจึงสามารถคำนวณยอดขาย ควบคุมปริมาณสินค้าในสต็อก เปรียบเทียบยอดขายกับปีก่อน และประมาณการปลูกล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเขายังพาเกษตรกรที่ปลูกใบไม้เหล่านี้แต่งตัวสวยงามเพื่อลองไปรับประทานอาหารในร้านที่ซื้อใบไม้จากพวกเขา

โดยเขาคิดว่าหากนักปลูกใบไม้เหล่านั้นรู้ว่าใบไม้ที่เขาขายถูกนำมาใช้อย่างไรก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มแรงผลักดันในการปลูก อีกจุดประสงค์คือถึงแม้ว่าจะเป็นเกษตรกรก็ควรจะมีรสนิยมเหมือนชาวเมืองเพื่อที่จะปลูกใบไม้ที่เหมาะสมกับผู้บริโภคมากที่สุด
 
มีคนมากกว่า 4,000 คนจากกว่า 37 ประเทศทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเรียนรู้งานที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ที่มีประชากรเพียง 2,000 คนในแต่ละปี บริษัท Irodori ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆได้มาฝึกงาน เพราะเขาเชื่อว่าผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้จากคนหนุ่มสาว และคนหนุ่มสาวก็เรียนรู้จากประสบการณ์ของเกษตรกรผู้สูงอายุได้เช่นกัน

คุณ Yokoishi กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดของธุรกิจขายใบไม้ก็คือ ทำให้ชาวบ้านทุกคน “มีเหตุผลที่จะตื่นนอนในตอนเช้า” แน่นอนว่านักเก็บใบไม้เหล่านี้เชื่อว่า “พวกเขาไม่ได้แค่ผลิตใบไม้ขาย แต่เขายังทำหน้าที่ให้ความสุข ความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค”
 
 
life inspired by พิชชารัศมิ์ และ marumura
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
637
หมดยุคทอง อพาร์ตเมนต์-หอพัก จากเสือนอนกิน สู่แมว..
622
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
583
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
550
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
514
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
503
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด