คนที่ทำธุรกิจ มีร้านค้า มีกิจการของตัวเอง คงจะคุ้นเคยกับการแชทคุยกับลูกค้าด้วย LINE แต่เมื่อธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น การคุยกับลูกค้าด้วย LINE กลับกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัว เพราะลูกค้าที่ทัก Inbox เข้ามามาก  บางทีก็ตอบไม่ทัน บางทีก็ต้องตอบซ้ำๆกับคำถามเดิมๆ รวมถึงบางทีก็ดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง ดีไม่ดีใช้งานมากๆ ไลน์ถึงกับค้างไปเลยก็มี แต่จะให้ทิ้งไลน์ไปหาทางอื่นก็ไม่สะดวกยิ่งกว่าเพราะคนส่วนใหญ่ใช้ไลน์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว

 

และอย่างที่ทราบว่าทาง Line ได้พัฒนานวัตกรรมตัวใหม่มาได้ระยะหนึ่งแล้วนั่นก็คือ Line @ ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดข้อดีของ Line @ คือ

ภาพจาก goo.gl/tM1CCR

นี่คือข้อดีเบื้องต้นของ Line @ ที่แนะนำว่าคนทำธุรกิจ “ทุกร้าน” ควรใช้ แต่ปัญหาก็คือบางคนไม่รู้จักนวัตกรรมตัวนี้รวมถึงบางคนไม่รู้ว่าจะเข้าถึง Line @ ได้อย่างไร ลองมาดูขั้นตอนแบบ Step By Step พร้อมทำตามกันตรงนี้ได้เลย

 

ภาพจาก goo.gl/images/V1BGef

เบื้องต้นต้องเริ่มจากมีแอพพลิเคชั่น Line และสร้าง account ของตัวเองขึ้นมาให้มีข้อมูลปรากฏในฐานข้อมูลของ Line ซึ่งการสมัคร Line ก็ไม่ใช่เรื่องยากสามารถค้นหาจาก Playstore ในโทรศัพท์แล้วทำการสมัครได้ทันที

 

ภาพจาก goo.gl/images/9E995h

เมื่อมี account ของตัวเองในโปรแกรม Line แล้ว ขั้นต่อมาคือการสมัคร Line @ โดยหากโทรศัพท์มือถือเราเป็น IOS คลิ๊กเข้าไปสมัครได้ที่ App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS แต่หากเป็นระบบ Android ให้คลิ๊กเข้าไปที่ Play Store 

ภาพจาก goo.gl/tM1CCR

ซึ่งมีขั้นตอนสำคัญในการสมัครดังนี้

ภาพจาก goo.gl/t9pmez

สังเกตว่า Line ID ที่ปรากฏจะเป็นชื่อแบบจำยากซึ่งเราสามารถเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อ Line ID ที่ต้องการได้ เรียกว่า Premium ID  ซึ่งการที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ต้องการนั้น ต้องชำระเงินผ่านทาง Line Pay จำนวน 5.99$ หรือประมาณเกือบ 200 บาท ถึงสามารถเปลี่ยนชื่อได้ และเปลี่ยนชื่อเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อใหม่ได้อีก

ซึ่งมีขั้นตอนในการเปลี่ยนชื่อ เริ่มจากเข้าไปที่ Business Store > Premium ID แล้วจ่ายเงิน 5.99$ ผ่านทาง Line Pay  หากยังไม่ได้สมัคร Line Pay ต้องสมัคร Line Pay เพื่อผูกกับบัตรเครดิตของเราก่อน

 

ใน Line@ จะมีบัญชี 2 ประเภทคือ

ภาพจาก goo.gl/jc7ZEK
 

เป็นบัญชีที่บุคคลทั่วไปสร้างขึ้น สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐาน ที่ LINE@  มี เช่น ส่งข้อความ Broadcast message, ส่งคูปอง และโปรโมชั่น , Chat แบบ 1 ต่อ 1 ไม่สามารถ search เพื่อหาแบรนด์ได้ ต้องใช้วิธีแชร์ชื่อ Line ID แบบเป๊ะๆ หรือใช้วิธี แชร์ QR CODE แปะตามเว็บไซต์ , Social Network และนามบัตร

 

บัญชีที่ผ่านการรับรอง (สัญลักษณ์โล่สีเทาเข้ม)

เป็นบัญชีที่รับรองจากทาง LINE แล้ว สามารถปรากฏในผลการค้นหาใน LINE ได้ ง่าย เพียงแค่ใส่ชื่อแบรนด์ร้านค้าเท่านั้น เหมือนกับ Line Official Account

 

ซึ่งหากต้องการให้ LINE รับรองบัญชีของเราต้องทำเรื่อง Approve รับรองร้านค้า ก็สามารถทำได้ โดยการเข้าที่ Manage Admin > Account Approval  > แล้วเลือกรูปแบบธุรกิจของเรา แต่ถ้ากรณี “หมวดนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้” แสดงว่าธุรกิจประเภทนั้นๆยังไม่รองรับการ Approve เพื่อรับรองบัญชี

ภาพจาก goo.gl/images/rvtAF5

 

หากเจ้าของธุรกิจทั้งหลายศึกษาวิธีการใช้ LINE@ ให้ดีๆจะพบว่ามีเทคนิคมากมายที่ช่วยให้เราทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการตั้ง “Keyword” ไว้ใน LINE@  เพื่อช่วยตอบคำถามแบบอัตโนมัติ ทำให้เราไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา หรือจะเป็น ลูกเล่น Boardcast ของ LINE@ ที่ใช้ส่งข้อความโฆษณาสินค้าตัวใหม่ๆ โปรโมชั่นเด็ดๆประจำเดือน หรือกิจกรรมร่วมสนุกชิงรางวัล ส่งไลน์ไปหาลูกค้าได้ทีละเป็นพันคน

 

เรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในยุคนี้ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแต่เป็นปลาเร็วชนะปลาช้า ใครเร็วกว่าก็ได้เปรียบ เทคโนโลยีจึงมีส่วนสำคัญในการทำธุรกิจมาก

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/DyHP2r

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)