บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
4.8K
2 นาที
10 เมษายน 2561
ลาออกจากงานมาสร้างธุรกิจ ดีกว่าจริงหรือ?

ตั้งหัวข้อเหมือนรายการโต้คารมมัธยมศึกษา (ดังมากสมัยก่อน) อันที่จริงคำตอบที่ได้จากคำถามนี้ไม่มีวันจบสิ้นทุกวันนี้ในโซเชี่ยลความเห็นก็ยังแตกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งคนที่บอกทำงานประจำดีกว่า กับกลุ่มที่บอกว่ามีธุรกิจตัวเองดีกว่า 

สิ่งที่พอจะสรุปได้กับเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าชอบหรืออยากทำแบบไหน ดังนั้นจงเป็นตัวของตัวเองอย่าทำเพราะเลียนแบบใคร อย่าทำเพราะเห็นว่าคนอื่นทำแล้วดี 


ซึ่งหากจะดูในแง่ของเหตุผล www.ThaiFranchiseCenter.com ก็มีมุมมองของทั้ง2 ฝ่ายมานำเสนอเป็นไกด์ไลน์เผื่อว่าตอนนี้ใครสองจิตสองใจไม่รู้จะเลือกเดินทางไหนดีจะได้มีข้อมูลช่วยตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น

เริ่มจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เราขอเรียกว่าการทำงานแบบใช้แรงแลกเงิน แม้บางตำแหน่งจะไม่ต้องทำงานหนักมาก หนำซ้ำใครที่เป็นระดับหัวหน้าอาจได้เงินเดือนที่สูง งานก็ไม่ยุ่งยาก 

แต่สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนต้องเสียแน่ๆ คือ “เวลา” กฎของบริษัททุกที่มีเวลาเข้าออก ต้องทำงาน 8 ชม. เป็นอย่างน้อย ช่วงเที่ยงพักเบรก 1 ชม. บางที่ดีหน่อยอาจมีเบรกกินน้ำชากาแฟให้อีก 10-15 นาที  แลกกับพื้นฐานเงินเดือนที่เริ่มต้นประมาณ 15,000 บาท 

คนที่ทำงานมานานประมาณ 5-10 ปีอาจมีรายได้จากเงินเดือนราวๆ 18,000-20,000 บาทขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรับผิดชอบ ถามว่าเงินเดือนประมาณนี้ชาวออฟฟิศเพียงพอหรือไม่ คำตอบชัดเจนเลยว่า “ไม่” 


ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายของเราในสังคมสูงขึ้นทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทาง  ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ใครที่มีครอบครัวมีลูกเมียพ่อแม่ต้องดูแล ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งสูงขึ้น เบ็ดเสร็จบางคนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนเกินกว่า 25,000 บาท 

เราจึงเห็นโมเม้นต์ของมนุษย์เงินเดือนที่ตามโซเชี่ยลที่มักเอาเรื่องเงินเดือนมาเป็นคอนเซปต์พูดเล่นแซวเล่นเช่นเงินเดือนแต่ใช้ไม่ถึงเดือน , นี่มันเงินเดือนหรือเงิน 7 วัน เป็นต้น 

จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนถึงแสวงหารายได้เสริมในทุกช่องทางเหตุผลเดียวก็คือหวังให้มีเงินมาเสริมสภาพคล่องแบบชักหน้าให้ถึงหลังมีเหลือกินเหลือเก็บบ้างนิดหน่อยก็ยังดี

ลองข้ามฝากมาดูคนที่บอกว่ามีธุรกิจของตัวเองดีกว่า หลายคนที่ลาออกจากงานประจำหันมาลุยธุรกิจของตัวเองแล้วไปรอด แต่ในมุมกลับกันคนที่เจ๊งไม่เป็นท่า ทุนหายกำไรหดก็มีไม่น้อย 


สิ่งสำคัญของคนทำธุรกิจคือต้องมีหัวการค้า บริหารจัดการให้เป็น รู้ตัวเองว่าควรเริ่มต้นจากไหน อย่างไร ผู้รู้ส่วนใหญ่ถึงได้แนะนำว่าหากไม่มั่นใจให้ลองทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ควบคู่กับงานประจำไปก่อน ถ้าทำแล้วดี ทำแล้วรอด ค่อยลาออกมาทำเต็มตัว

แต่หลายคนก็บอกว่าถ้าทำงานประจำมันก็ไม่มีเวลาไปทุ่มเทให้ธุรกิจตัวเอง หลายคนเลยหักดิบเลือกงานประจำ หรือธุรกิจส่วนตัวอย่างใดอย่างหนึ่งกันไปเลย ข้อดีของธุรกิจส่วนตัวคือ รายได้เราจะดีกว่า ไม่ต้องคอยทำงานภายใต้คำสั่งใคร  

มีโอกาสเติบโตและสร้างรากฐานให้ครอบครัวได้มากขึ้น ทั้งนี้เราก็ต้องยอมรับก่อนว่าธุรกิจตัวเองไม่ใช่เรื่องที่จะมีเงินหล่นจากฟ้ามาใส่มือได้ เราต้องสร้าง 

เราต้องบริหาร ช่วงแรกเราต้องเหนื่อยกับธุรกิจของเราจากที่เคยทำงานจันทร์-ศุกร์ เช้าเย็นวันละ 8 ชม. ทำธุรกิจตัวเองอย่างน้อยวันหยุดก็ไม่มี เสาร์อาทิตย์ก็ต้องทำงาน เพื่อสร้างธุรกิจให้อยู่รอด ก้าวแรกเป็นสิ่งที่ยากแต่ถ้าก้าวข้ามไปได้เราจะสบายภายหลัง 


หากจะลองสรุปเปรียบเทียบชัดๆให้คนที่ตัดสินใจได้มีข้อมูลว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างทำงานประจำ Vs มีธุรกิจตัวเองก็พอพูดคร่าวๆให้เห็นภาพดังนี้
  1. ถ้าเงินเดือนมากพออยู่แล้วและคิดว่าทำธุรกิจเองได้เงินพอๆหรือมากกว่ารับเงินเดือนไม่เท่าไหร่ อย่าทำ!
  2. หากมั่นใจว่าแผนธุรกิจที่วางไว้รัดกุมดีพอ จะสร้างรายได้แน่นอนและมากกว่างานประจำชัดเจน อย่ารีรอโอกาสเป็นของคนไม่ทิ้งโอกาส
  3. การเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือทำธุรกิจส่วนตัวล้วนมีความเสี่ยงดังนั้นอย่าหลอกตัวเองว่าทำอันนี้แล้วจะสบายกว่าอันนั้น
  4. ธุรกิจส่วนตัวต้องเหนื่อยก่อนถึงจะสบายก่อน แต่ถ้าทำแล้วเหนื่อยตลอดชีวิต แสดงว่าเราเดินมามาผิดทาง
  5. ทำธุรกิจมีหนี้เยอะไม่มีปัญหาถ้าบริหารเป็น สำคัญคือต้องเลือกเป็นหนี้ให้ถูกทาง ถ้าเลือกเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็ถือว่าเดินมาผิดทางเหมือนกัน
  6. คนทำธุรกิจเก่งคือ คนที่บริหารเวลาเป็น  มีการวางแผนงานที่เป็นระบบ รู้จักการบริหารลูกน้องให้รัก เคารพ และทำงานอย่างเต็มที่ ธุรกิจที่ดีลูกน้องต้องดี แล้วคนเป็นเจ้าของก็จะเหนื่อยน้อยลง
  7. ไม่ว่าเราเลือกทำงานประจำหรือทำธุรกิจตัวเองถ้าเป็นงานที่เรารักเราจะไม่คิดว่ามันคืองาน 
  8. ทำธุรกิจอย่าเอาเงินเป็นเป้าหลัก ควรมองถึงความสามารถตัวเองและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ธุรกิจที่ดีต้องทำให้เรามีรายได้ต่อเนื่องไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม
  9. คนทำธุรกิจช่วงแรกยิ่งทุนไม่มียิ่งต้องใช้สมองเยอะ คิดให้เยอะ ลงแรงให้มาก เหนื่อยก็ต้องยอม ยังไงก็ต้องสร้างรากฐานธุรกิจให้เกิดขึ้นให้ได้
  10. สุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนอยากทำธุรกิจต้องมีคือ vision และ mindset  ไม่งั้นเราอาจจะเหนื่อยแทบขาดใจ 

ดังนั้นบทสรุปว่าอะไรดีกว่ากันเป็นเรื่องที่ยากจะพิสูจน์มันอยู่ที่ความชอบของแต่ละคน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือหากเราเลือกจะทำอะไรก็ต้องตั้งใจเป็นสิ่งนั้นให้ดีที่สุดหากคิดจะเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ดีที่สุด 

หากคิดจะมีธุรกิจส่วนตัวก็ต้องเป็นเจ้าของกิจการที่ดีที่สุดเช่นกัน ทำอะไรก็ทำให้เต็มที่อย่าทิ้งครึ่งๆกลางๆ โอกาสและความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ว่าเราทำอะไรอยู่ที่ว่าเราตั้งใจทำสิ่งนั้นมากแค่ไหนมากกว่า

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
528
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
446
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
435
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
408
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
404
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
392
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด