ภาพจาก goo.gl/mq0ovd

 

ในภาวะที่เศรษฐกิจนั้นยังถือว่าไม่ฟื้นตัวมากนัก ไม่ใช่แค่ประเทศไทยแต่หลายประเทศก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน ดังนั้นในทิศทางการลงทุนแล้วย่อมหลีกไม่พ้นที่จะเจอกับภาวะการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

อย่างเช่นกรณีของแฟมิลี่มาร์ทที่ตามข่าวนั้นกำลังเจอกับปัญหาการลงทุนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อรวมถึงการมีทีมผู้บริหารที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ

www.ThaiFranchiseCenter.com จึงเอาวิธีการที่ผู้บริหารของแฟมิลี่มาร์ทได้นำมาใช้แก้ไขวิกฤติดังกล่าวเพื่อให้ทิศทางของธุรกิจพร้อมเดินหน้าต่อไปได้และสำหรับนักธุรกิจหน้าใหม่อาจใช้เรื่องนี้เป็นแนวทางศึกษาการทำตลาดที่เรียกว่าเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

 

 

ภาพจาก goo.gl/ZA5w0n

แฟมิลี่มาร์ทเองก็ถือเป็นแฟรนไชน์ร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้ออันดับ 2 ของประเทศ แต่จากการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านมากลับเจอกับภาวะขาดทุนต่อเนื่อง นายโคจิ ทาคายานากิ กรรมการผู้จัดการและเจ้าหน้าที่บริหารของแฟมิลี่มาร์ท ยูนี โฮลดิ้ง จึงมีแนวคิดหันกลับไปพัฒนาตลาดในญี่ปุ่นที่คุ้นเคยมากกว่า

แม้ว่าการลงทุนในเอเชียบางประเทศอย่างไต้หวันและจีนจะเติบโตได้ดีแต่ที่น่าเป็นห่วงคือการลงทุนในเวียดนามและอินโดนีเซียที่มีปัญหาอย่างหนัก บริษัทจึงไม่เน้นการทุ่มทรัพยากรลงไปและหันไปเพิ่มมูลค่าการตลาดในญี่ปุ่นเพื่อเอามาชดเชยยอดขายในส่วนนี้

 

2.เน้นการปรับโครงสร้างลดรายจ่ายให้น้อยลง
 

ในส่วนของสาขาที่เปิดดำเนินการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้จับมือร่วมกับร้านสะดวกซื้อ Circle K และ Sunkus นั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในด้านการลงทุนจากภาวะตลาดที่ฝืดเคืองอย่างหนัก ทางแฟมิลี่มาร์ทจึงปรับโครงสร้างใหม่ด้วยการปิดสาขาที่มีพื้นที่ทับซ้อนกันอย่างน้อย 400 สาขา

แต่ในภาพรวมบริษัทก็จะยังรักษาการเป็นธุรกิจร้านสะดวกซื้ออันดับ 2 ของญี่ปุ่นที่จำนวนสาขากว่า 18,000 แห่ง และคาดว่าจากการปรับโครงสร้างนี้จะทำให้บริษัทนั้นมีกำไรเพิ่มเติมจาก 3.61 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 8.79 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในเวลา 4 ปีตามกลยุทธ์ของการบริหารที่ได้กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า

3.แฟมิลี่มาร์ทในประเทศไทยยังโตได้แต่ต้องเพิ่มสินค้าให้หลากหลายขึ้น
 

 

ภาพจาก goo.gl/wxbeMg

สาขาแฟมิลี่มาร์ทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเฉพาะเวียดนามมีประมาณ 130 แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในโฮจิมินห์และเมืองข้างเคียงแต่ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องยอดขายแต่แฟมิลี่มาร์ทก็ยังตั้งเป้าเติบโตไว้โดยต้องการเพิ่มสัดส่วนสาขาให้เป็น150 แห่งภายในปี 2017  สำหรับในประเทศไทยเองนั้นแฟมิลี่มาร์ทยังถือว่าเติบโตได้ในระดับที่น่าพอใจรวมกับที่ร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่งอย่าง 7-eleven เองเน้นการสร้างตลาดในต่างประเทศเป็นหลัก

แฟมิลี่มาร์ทก็พร้อมเดินเกมการขายในประเทศไทยด้วยการเพิ่มเติมสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มให้มากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคโดยหวังกระตุ้นยอดขายให้ดีกว่าเดิมจากการทุ่มงบประมาณกว่า 600-700ล้านบาทและตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่อีกกว่า 100 แห่งจากเดิมที่มีอยู่กว่า 1,130 สาขาทั่วประเทศ

 

4.มีแผนจับมือเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ในเอเชียสร้างธุรกิจใหม่ๆขึ้นมา
 

 

ภาพจาก goo.gl/zemR9y

แม้ว่าเทรนด์ธุรกิจอย่างร้านสะดวกซื้อจะยังมีทิศทางเติบโตได้ดีในระดับหนึ่งแต่ทั้งนี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนักในบางประเทศก็ส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านการลงทุน

ซึ่งสิ่งสำคัญที่แฟมิลี่มาร์ทได้มองไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแก้ไขปัญหาในอนาคตนั้นคือการจับมือกับกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างเช่นเครือเจริญโภคภัณฑ์ของไทยและ ซิติก กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งมีกิจการที่หลากหลายทั้งในด้านการเงิน เหมืองแร่ อสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นลู่ทางในการสร้างธุรกิจใหม่ๆที่พร้อมตอบโจทย์ให้กับคนยุคใหม่ในอนาคตมากขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้การเดินกลยุทธ์และแก้ปัญหาของแฟมิลี่มาร์ทนี้ก็เป็นกรณีศึกษาให้กับนักธุรกิจได้มองเห็นแนวทางในการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจพร้อมเดินหน้าในทิศทางที่ควรจะเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับสถาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทักษะของผู้บริหารและประสบการณ์ที่ดีของนักธุรกิจจะมีประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างมากใครที่เดินเกมได้ถูกต้องถูกทางนอกจากแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นได้ดียังมีโอกาสสร้างกำไรให้กับธุรกิจในระยะยาวได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

 

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/mq0ovd