บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
2.9K
2 นาที
6 มิถุนายน 2559
แฟรนไชส์ การลงทุนที่ต้องคิด!

 
 
ทุกวันนี้คำว่า “แฟรนไชส์” หลายคนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ด้วยเห็นตัวอย่างของธุรกิจประเภทนี้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วบางคนเป็นนายของตัวเอง ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งและแรงกดดัน

หลายคนเห็นกำไรจากการขายของในธุรกิจนี้คิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แค่เสียเงินและซื้อระบบแฟรนไชส์มาที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกโดยที่ตัวเองไม่ต้องทำอะไรมาก เรียกว่าแค่จ่ายเงินแล้วก็รอแบบเสือนอนกิน 
 
ซึ่งถ้าทั้งหมดนี้เป็นความคิดของคุณที่เกิดขึ้นจริง www.ThaiFranchiseCenter.com ขอบอกว่า “นี่คือความคิดที่ผิดอย่างสิ้นเชิง” แม้การเลือกซื้อแฟรนไชส์จะเป็นเส้นทางอาชีพที่ดีแต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางเดินของคุณจะราบรื่นเหมือนอยู่บนถนนคอนกรีตเสมอไป
  
3 สิ่งต่อไปนี้จะเป็นการยืนยันให้คุณรู้ว่าแฟรนไชส์ต่อให้ดีแสนดีแค่ไหนสิ่งสำคัญก็ยังอยู่ที่ตัวของคุณเสมอ

1. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของแฟรนไชส์ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คุณขายของได้ดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไร


 
เป็นรายละเอียดของแฟรนไชส์เกือบทุกที่ซึ่งจะระบุไว้ว่ามีการโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือแฟรนไชส์บางอย่างเป็นสินค้าที่ผู้คนรู้จักกันดีแทบจะไม่ต้องมีการโฆษณาก็สามารถเป็นที่รู้จักเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์นั้นๆขึ้นมา ซึ่งผู้ลงทุนทั้งหลายก่อนซื้อแฟรนไชส์ใดๆก็มักจะมองที่ภาพลักษณ์ส่วนนี้เป็นอันดับแรก 
 
นักเศรษฐศาสตร์ทางธุรกิจได้กล่าวมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจในการซื้อแฟรนไชส์ว่า“To popularize the product , it does not mean that you will always be profitable” (การที่สินค้าติดตลาดก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องได้กำไรเสมอไป)

นั้นเพราะว่าสิ่งที่คุณต้องทำหลังจากซื้อแฟรนไชส์มาต่อให้ภาพลักษณ์ดีแค่ไหนก็ตาม จะต้องไม่ลืมว่า “คนที่ขายสินค้าชนิดนั้นคือตัวเราไม่ใช่บริษัท” ดังนั้นในหลักการตลาดหากขาดความเชื่อถือต่อกันย่อมไม่เกิดการซื้อขาย 
 
 
เมื่อสินค้าดีมีภาพลักษณ์น่าจดจำสิ่งที่เราต้องทำคือ “สร้างภาพให้คนรู้จักเรา” เพื่อให้เขารู้ว่าเราขายสินค้าประเภทนี้ สิ่งที่ทุกคนรู้คือ “สินค้าดี” แต่ที่คนยังไม่รู้คือ “ทัศนคติของคนขาย(The attitude of the salesman)”

ดังนั้นยิ่งแฟรนไชส์มีการโหมโฆษณาเพื่อสร้างภาพให้คนรู้จักมากเท่าไหร่ผู้ลงทุนก็ต้องยิ่งประชาสัมพันธ์ตัวเองให้คนทั่วไปรู้จักมากขึ้นคำว่า แฟรนไชส์ที่ดีและมีประสิทธิภาพจึงจะเริ่มต้นขึ้นได้อย่างแท้จริง

2. แฟรนไชส์ที่ดีก็ต้องอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

 
คำว่าแฟรนไชส์เป็นแบรนด์ที่ทุกคนยอมรับแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะคิดแบบนี้ได้โดยไม่คำนึงถึงพื้นที่การขาย ด้วยเหตุนี้ก่อนที่จะเลือกซื้อแฟรนไชส์ใดๆก็ตามคุณต้องมีทำเลการขายอยู่ในใจและดูความเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับธุรกิจแฟรนไชส์ที่คุณต้องการลงทุนหรือไม่
 
ยกตัวอย่างของ Jimmy John’s นักลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์เปิดร้านขายของบนเกาะสแตเทน (Staten Island) ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ในอ่าวนิวยอร์คตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองที่นี่มีคนมากมายหลายภาษามีกลุ่มเศรษฐีและนักท่องเที่ยวในระดับหนึ่ง

แต่ในภาพรวมนี่คือเกาะที่เหมาะกับการท่องเที่ยวการเปิดร้านขายของแบบทั่วไปไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนต้องการในแฟรนไชส์เดียวกันนี้ถ้าไปเปิดในเมืองอื่นที่วิถีชีวิตถูกโยงให้มาเข้ากับสินค้าจะกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วมากแต่ไม่ใช่ที่ Staten Island แห่งนี้ สุดท้าย Jimmy ต้องปิดร้านแฟรนไชส์บนเกาะนี้  
 
นั่นเพราะคำว่า “ความไม่เหมาะสม” ยังมีพลังที่ทำให้ธุรกิจไม่เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จได้

3. ถ้าคิดจะยกเลิกแฟรนไชส์ก็ต้องศึกษาสัญญาให้ถี่ถ้วน

 
หลายคนบอกว่าแฟรนไชส์เข้าง่ายออกง่ายขายดีก็ทำต่อไปถ้าขายไม่ดีจะเลิกขายเมื่อไหร่ก็ได้ ในแง่ของการลงทุนสิ่งเหล่านี้ถือเป็นความคิดที่ผิดมหันต์นอกจากจะทำให้ธุรกิจเดินหน้าไม่เต็มที่เพราะคิดว่าเข้าง่ายออกง่ายยังเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่รู้จักทำอะไรอย่างเต็มที่

ดังนั้นต่อให้มีแฟรนไชส์ที่ดีแสนดีขนาดไหนถ้าการทำงานยังลุ่มๆดอนๆทุกอย่างไม่จริงจัง โอกาสสำเร็จนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
 
และอย่าคิดว่าการเลิกแฟรนไชส์นั้นคือทางออกที่ดีที่สุด สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ให้ถ่องแท้คือ “สัญญาในแฟรนไชส์” แฟรนไชส์ที่ดีย่อมไม่ร่างสัญญามาเอาเปรียบผู้ลงทุน

แต่สัญญาของแฟรนไชส์มีไว้สำหรับคนที่อยากลงทุนจริงๆเท่านั้น (The franchise agreement is for people who really want to invest only) นี่คือการสกรีนคนในเบื้องต้นใครไม่แน่ใจ ใครคิดว่าไม่ใช่แนะนำว่าอย่าเพิ่งเข้ามาในธุรกิจแฟรนไชส์เด็ดขาด
 
การยกเลิกการขายไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะยุติบางครั้งการละเมิดสัญญาด้วยตัวคุณเองก็ยังต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ต่อไปจนกว่าจะครบกำหนด รวมถึงค่าผูกพันต่างๆ ที่ระบุไว้ตามสัญญา
 

เหมือนกรณีของแฟรนไชส์หนึ่งในเมืองเดลีที่ผู้ลงทุนยกเลิกสัญญาด้วยตัวเองและไม่ยอมจ่ายในส่วนที่เป็นภาระผูกพันตามสัญญานำไปสู่การต่อสู้กันทางกฏหมายแน่นอนว่าผู้ลงทุนต้องเป็นฝ่ายแพ้เพราะนี่คือการยกเลิกสัญญาแบบที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิด
 
ก่อนการลงทุนทุกครั้งเราจึงต้องมั่นใจหรือถ้าลงทุนไปแล้วเกิดปัญหาระหว่างทางสิ่งที่ดีคือการปรึกษาเพื่อนำไปสู่การเจรจาหาข้อยุติที่ลงตัวและเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย
 
อย่างไรก็ดีการซื้อแฟรนไชส์ไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะวิตกกังวลเพราะระบบของแฟรนไชส์แต่ละแห่งผ่านการคัดกรองและสร้างสรรค์มาอย่างมีคุณภาพ คนที่ซื้อแฟรนไชส์แล้วประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วนั้นมีมาก

แต่จุดเริ่มคือตัวผู้ลงทุนต้องมีวิสัยทัศน์ มีความขยัน และทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างแท้จริง เมื่อระบบดี คนลงทุนดี สิ่งที่ตอบแทนคือผลกำไรงดงาม  ทุกอย่างเริ่มต้นจากตัวคุณเองล้วนๆ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก https://goo.gl/FNvYQg 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
849
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
592
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
510
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
484
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด