บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    เรื่องราวความสำเร็จ
2.5K
2 นาที
29 เมษายน 2559
ยุทธศาสตร์ 5 ประการของ Walt Disney สู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของโลกได้ราวกับมีเวทมนต์
 
การเริ่มต้นธุรกิจอาจเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือเมื่อมีธุรกิจแล้วจะบริหารจัดการอย่างไรให้สามารถอยู่รอดปลอดภัยในกระแสการแข่งขันที่สูงเป็นอย่างยิ่ง
 
“Walt Disney” คือแบรนด์ที่เราคุ้นหูคุ้นตาแทบทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี จากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1923 ปัจจุบันกว่า 93 ปีแต่ชื่อของ “Walt Disney” กลับยังติดอันดับความเป็นแบรนด์ระดับโลกถึงขนาดก้าวมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกจากการจัดอันดับของ Cohn & Wolfe generated a ranking 
 
ในฐานะที่เป็นแบรนด์ก่อตั้งมานานเกือบ 1 ศตวรรษ www.ThaiFranchiseCenter.com มีความสนใจในแนวทางและหลักการบริหารจากรุ่นแรกมาถึงรุ่นปัจจุบัน

สิ่งที่ยึดมั่นเหมือนเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้ “Walt Disney” มั่นคงมาโดยตลอดคือยุทธศาสตร์ 5 ประการที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ควรดูเป็นตัวอย่างเพราะนี่คือธุรกิจที่ยืนหยัดระดับโลกได้นานแสนนานราวกับมีเวทมนต์ทีเดียว
 
1.วอลต์ ดิสนีย์ มีหัวใจของผู้ประกอบการเต็มร้อย
 
ในขณะที่สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจยังไม่ดีนักแต่ Walt Disney กล้าลงทุนสร้างดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์เวิลด์แห่งแรกๆ ด้วยเงินส่วนตัวโดยไม่เกรงความล้มเหลว แต่ในขณะที่สวนสนุกทั้งสองนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก Walt Disney ตัดสินใจขายธุรกิจเหล่านั้นให้แก่บริษัทที่สนใจได้อย่างไม่เสียดาย

ซึ่งการได้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลนี้ ก็เอามาลงทุนในธุรกิจสำคัญต่อไป ด้านผู้บริหารกล่าวว่าเป็นการเอาเงินต่อเงินที่น่าสนใจเพราะ Walt Disney ไม่ใช่ธุรกิจสวนสนุกแต่เป็นธุรกิจบริการที่ต้องสร้างความสุขให้ทุกคนโดยไม่ได้จำกัดรูปแบบ
 
2. Walt Disney คืออัจฉริยะทางด้านเทคโนโลยี
 
ความสามารถของ Walt Disney ด้านเทคโนโลยีมีมากพอๆกับการเป็นสุดยอดนักเล่านิทานแบบปรัมปรา นี่คือการผสมผสานการเล่าเรื่องจากจินตนาการที่ผ่านเทคโนโลยีได้อย่างกลมกลืน

ทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจเหมือนเป็นการตราตรึงในความทรงจำตลอดกาล Walt Disney มีสารพัดวิธีในการสื่อสารกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น การทำให้สโนว์ไวท์เป็นแอนนิเมชั่นที่โลดแล่นบนจอภาพยนตร์ เป็นวาไรตี้โชว์บนจอทีวี เป็นตุ๊กตาเด็กเล่น หนังสือการ์ตูน เสื้อผ้า ตุ๊กตา เป็นต้น
 
3.ความสามารถของผู้บริหารในยามที่เกิดปัญหารุมเร้า
 
ยกตัวอย่างในกรณีของ “Toy Story” ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกที่ผลิตจากคอมพิวเตอร์ (Computer-Animated Feature Film) ปรากฏสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก ถือเป็นวิกฤติของ Walt Disney ที่การ์ตูนหลักๆเกิดจากการวาดภาพ แต่ระดับซีอีโอของ Walt Disney เองกลับแปลงจุดด้อยนี้ให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่แม้แต่คอมพิวเตอร์ก็ยังทำไม่ได้

นั้นคือความเป็นตัวตนของการ์ตูนที่มีมิติ มีความเป็นธรรมชาติ การตลาดของ Walt Disney ไม่แปรเปลี่ยนไปตามคู่แข่งแต่ยืนหยัดในจุดยืนที่มีสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กจำนวนมาก

แม้ภาพยนตร์ของ Walt Disney หลายเรื่องจะไม่ได้รับรางวัลระดับโลกเพราะถือว่านี่คือการ์ตูนสำหรับเด็กและเยาวชนแต่นั่นคือเป้าหมายหลักที่ทำให้เรื่องราวกลายเป็นที่จดจำของเด็กที่จะโตมาเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต เรียกว่ามองการณ์ไกลได้อย่างฉลาดมากที่สุด
 
4.การตัดสินใจที่รวดเร็วของการบริหาร
 
หลายคนมองว่าปัญหาใหญ่ของ Walt Disney คือการถูกคุกคามจากเรื่องไอที รวมถึงเรื่องของกลุ่มเป้าหมายที่เน้นแต่เด็กและเยาวชน ทำให้บางช่วงเวลาเกิดปัญหาพอสมควร

สิ่งที่ซีอีโอของ Walt Disney ตัดสินใจทำแบบทันทีเพื่อหยุดปัญหาเหล่านี้ไม่ให้บานปลายนั้นคือการตัดสินใจซื้อกิจการของ Capital Cities/ ABC ทำให้ดิสนีย์เป็นเจ้าของเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ ABC

ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถส่งเสริมธุรกิจหลักของ Walt Disney และช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจได้มากมาย จนทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงระยะเวลาไม่นานนัก
 
5.การตัดสินใจเปิดธุรกิจแฟรนไชส์
 
ในยุทธศาสตร์ที่มีข้อนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนที่สุดซีอีโอของ Walt Disney เชื่อมั่นว่าการเติบโตขององค์กรเกิดขึ้นจาก 2 ส่วนคือ ความคิดสร้างสรรค์ และ ตลาดต่างประเทศ

การปรับพอร์ตธุรกิจไปเน้นธุรกิจแฟรนไชส์ทำให้  Walt Disney มีส่วนแบ่งรายได้จากเสื้อยืดมิคกี้เม้าส์ในห้าง Dolce& Gabbana ที่จำหน่ายถึงตัวละ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต่อยอดจากวงบอยแบนด์อย่าง The Jonas Brothers ซึ่งสามารถสร้างรายได้ทั้งในรูปของเพลงบนแผ่นซีดี และดิจิตอลดาวน์โหลด บัตรคอนเสิร์ตบนเวทีต่างๆ ที่มีฐานแฟนเพลงนับล้านคน
 
ในส่วนของประเทศไทยเอง Walt Disney ยังมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนสูงกว่า 5 พันล้านบาท โดยผู้ประกอบการมักใช้ภาพการ์ตูนจาก Disney มาเป็นส่วนประกอบในการทำธุรกิจเช่นคอตโต้ที่ผลิตกระเบื้องคอลเลคชั่นมิคกี้เม้าส์ , เอสแอนด์พี ผลิตแฮมรูปมิคกี้เม้าส์และบรรจุในกล่องรูปมิคกี้เมาส์อีกเช่นกัน
 
ความสุดยอดของ Walt Disney ที่นอกจากที่มีธุรกิจทั้งเครือข่ายสื่อมวลชน สวนสนุกและรีสอร์ท  ค่าลิขสิทธิ์สินค้าต่างๆทั่วโลก Walt Disney ยังติดอันดับทำเนียบฟอร์จูน 500 ในอันดับที่ 207 มียอดขายมากกว่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

และนี่คือธุรกิจระดับโลกที่มีหลักการทั้ง 5 ข้อเป็นแกนให้ยึดปฏิบัติ สำหรับธุรกิจไทยเองทฤษฏีเหล่านี้ก็เอาไปปรับใช้ได้เพื่อที่สักวันแบรนด์ไทยอาจไปไกลระดับโลกก็เป็นได้
 
ขอบคุณข้อมูลจาก http://goo.gl/RRGPNS , https://goo.gl/tQTQEV 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
614
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
520
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
478
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
439
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
425
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
422
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด