23K
20 พฤษภาคม 2554

รายย่อยเจ๊งไก่ห้าดาวลุย 

ต้นทุนพุ่งพ่นพิษร้านไก่ทอด-ย่างรายย่อยเลิกกิจการ20-30% ไก่ย่างห้าดาวสบช่องเร่งขยายแฟรนไชส์ทะลุ 4,600 สาขา
         
นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไก่ย่างห้าดาวไก่ทอดห้าดาว และข้าวมันไก่ห้าดาวกล่าวว่า จากปัญหาต้นทุนสินค้าเช่น เนื้อไก่ น้ำมันปาล์ม ค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารรายย่อย เช่น ร้านขายไก่ทอดไก่ย่าง ตามตลาดสด ตลาดนัด ไม่สามารถแบกรับต้นทุนต่อไปได้จึงเลิกกิจการไปแล้วประมาณ 20-30% ทั่วประเทศ

         
สถานการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นโอกาสของบริษัท เนื่องจากปริมาณคู่แข่งในตลาดเดียวกันลดลง ส่งผลให้จุดขายในแต่ละจุดสามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น และยังเป็นจุดเด่นให้ผู้ที่สนใจหรือคนว่างงานหันมาประกอบธุรกิจของตัวเอง เข้ามาซื้อแฟรนไชส์ของบริษัทมากขึ้นด้วย
  
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าราคาต้นทุนสินค้าที่แพงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนอาหารสัตว์ ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าขึ้น โดยได้ปรับราคาขึ้นแล้วเฉลี่ย 1-5 บาทตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ใน 5 เมนู ได้แก่ ไก่ย่างห้าดาวเพิ่มเป็น115 บาท จากราคาตัวละ 110 บาทไก่จ๊อไม้ละ 25 บาท จาก 24 บาทไก่ทอดชิ้นละ 20 บาท จาก 19 บาทไก่ทอดสูตรต้นตำรับชิ้นละ 15 บาทจาก 14 บาท
         
"การปรับราคาสินค้าของบริษัทจะปรับเฉพาะเมนูที่จำเป็นและแบกรับต้นทุนไม่ได้เท่านั้น และราคาที่ปรับขึ้นก็เป็นไปอย่างยุติธรรมต่อผู้บริโภค ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้น 1 บาทหรือ 5 บาท เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภค" นายสถิตกล่าว
         
ทั้งนี้ เห็นได้จากตัวเลขปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว 5% ตั้งแต่วันที่1 พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าเป้าหมายในการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่อัตราการเติบโต 15% คิดเป็นมูลค่า 4,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่บริษัทมีรายได้ 3,800 ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง
         
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าจำนวนสาขาแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์สินค้าห้าดาวในปีนี้ไว้ที่ 4,600 สาขา เพิ่มจากปัจจุบัน 4,100 สาขา แบ่งเป็น ไก่ย่างห้าดาว 2,400 สาขา ไก่ทอดห้าดาว 1,250 สาขาจาก 1,100 สาขา ข้าวมันไก่ห้าดาว550 สาขา เพิ่มจาก 400 สาขาบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง 250 สาขา จาก 140 สาขา และเรดดี้มีล 100 สาขา จาก60 สาขาในปัจจุบัน
         
ขณะที่รายได้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโตแล้ว 15% คิดเป็นมูลค่า 1,100 ล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ ส่วนในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ คาดว่าจะมีเงินสะพัดมากขึ้น และจะส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาส 2 สามารถเติบโตได้ 25% 

อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,121
PLAY Q by CST bright u..
1,314
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
941
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
790
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด