บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
261
2 นาที
24 พฤศจิกายน 2568
เทรนด์ร้านอาหาร “Talent Retention” สูตรคนเก่ง “สร้างเงินล้าน”
 
 

ปี 2568 เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ในด้านการลงทุนที่ทุกคนบอกว่าปีนี้คือเผาจริง สะท้อนด้วยตัวเลขที่น่าตกใจในทุกมิติไม่ว่าจะค่าครองชีพที่เพิ่มสูง , ต้นทุนวัตถุดิบที่มากขึ้น , คู่แข่งที่เยอะขึ้น , พฤติกรรมลูกค้าที่จับจ่ายน้อยลง ฯลฯ ทุกตัวแปรมีผลต่อการทำธุรกิจมาก ในด้านการบริหารจัดการก็คือส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา 
 
แต่เทรนด์ที่ธุรกิจหลายแห่งใช้ในตอนนี้คือ “Talent Retention” หรือ การรักษาผู้มีความสามารถ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Talent Management (การบริหารจัดการผู้มีความสามารถ) ที่เน้นเฉพาะกิจกรรมและกลยุทธ์เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานที่มีความสามารถสูงลาออก
 
ร้านอาหารที่รักษาพนักงานเก่งๆ ไว้ มีโอกาสอยู่รอดสูง?
 

ถ้าไม่นับเรื่องการบริหารจัดการในฐานะเจ้าของกิจการที่ต้องมีแผนธุรกิจใช้ในภาวะฉุกเฉิน การรักษาพนักงานเก่งๆ (Talent Retention) ก็เป็นเคล็ดลับที่รักษาองค์กรให้ยั่งยืน มองดูในตัวเลขในภาคค้าปลีกและร้านอาหารที่มีอัตราการลาออก (turnover rate) สูงเฉลี่ย 30–50% ต่อปี การรักษาพนักงานเก่งไว้ยาวนานช่วยสร้างความได้เปรียบชัดเจน 
 
ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนการสรรหา เพิ่มประสิทธิภาพบริการ หรือสร้างความภักดีจากลูกค้า ส่วนร้านอาหารที่เปลี่ยนคนบ่อยมักเผชิญกับ productivity loss สูงถึง 20–30% ในช่วงปรับตัวใหม่ ในขณะเดียวกันร้านที่เน้น retention มีกำไรสุทธิ สูงกว่า 15–25% 
 
ถ้าดูในเชิงตัวเลขจะพบว่า Talent Retention มีผลต่อการสร้างยอดขายให้ร้านได้มาก
  • ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการแทนที่พนักงานร้านค้าหรือร้านอาหารอยู่ที่ 50,000–100,000 บาทต่อคน
  • พนักงานที่อยู่มายาวนานช่วยลดข้อผิดพลาดในบริการได้ 40–50%
  • 60% ของลูกค้าจะเลือกใช้บริการจากพนักงานที่รู้จักหน้า
  • 30% ของพนักงานเก่ามักมีไอเดียในการแก้ไขปัญหาธุรกิจได้อย่างตรงเป้าหมาย
ทั้งนี้ Talent Retention ยังไปสัมผัสกับคำว่า “Respect” ซึ่งเป็นนโยบายการเคารพตนเองและผู้อื่นกำลังถูกนำมาปรับใช้ในธุรกิจหลายแห่ง โดยผ่านนโยบาย DEI (Diversity, Equity, Inclusion) ที่ส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน ลดอัตราการลาออก และเสริมสร้างนวัตกรรมให้ดียิ่งกว่าเดิม
 
กระแสของ Talent Retention กับธุรกิจในยุคปัจจุบัน?
 
ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ เน้นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยเคารพความแตกต่างของแต่ละบุคคล เพื่อหลีกเลี่ยงอคติและส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังโฟกัสในมุมที่เจ้าของธุรกิจหรือพนักงานกล้าปฏิเสธงานที่เกินขีดจำกัด เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟ 
 
ซึ่งมีตัวอย่างของหลายธุรกิจที่นำเอา Talent Retention มาใช้อย่างได้ผลยกตัวอย่าง เช่น
 
1.Sizzler Thailand

ภาพจาก https://citly.me/f4wcl

แบรนด์สเต๊กและบุฟเฟต์ชื่อดังที่เน้นวัฒนธรรมองค์กรแบบ "ครอบครัว" จ่ายเงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 20% และมีโปรแกรมพัฒนาพนักงาน ทำให้ turnover rate ต่ำเพียง 15–20% ต่อปี (เทียบกับอุตสาหกรรมร้านอาหารที่ 40–60%) ส่งผลให้ประหยัดต้นทุน HR กว่า 100 ล้านบาทต่อปี
 
2.7-Eleven (CP All)


เครือร้านสะดวกซื้อที่มีพนักงานประจำสาขายาวนานเฉลี่ย 3–5 ปี ผ่านนโยบายสวัสดิการเช่น โบนัสตามผลงานและการฝึกอบรมออนไลน์ Turnover rate ราว 25% (ต่ำกว่าอุตสาหกรรมค้าปลีก 40%) ทำให้ลดค่าใช้จ่ายฝึกพนักงานใหม่ลง 15% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ยอดขายรวมปี 2025 พุ่งสูงถึง 350,000 ล้านบาท
 
3.Jay Fai (ร้านกุ้งเผาตำนาน)

ร้านมิชลินสตาร์ในกรุงเทพฯ ที่เชฟหลักและทีมงานหลักอยู่ยาวกว่า 15 ปี รู้จักสูตรอาหารและจัดการวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำ ทำให้ productivity สูงกว่าคู่แข่ง 30% ส่งผลให้ยอดขายต่อวันเฉลี่ย 1–2 ล้านบาท แม้ราคาอาหารสูง แต่ฐานลูกค้ายังมีมากราวๆ 70% เนื่องจากพอใจในคุณภาพที่สม่ำเสมอ เทียบกับร้านที่เปลี่ยนเชฟบ่อยซึ่งยอดขายผันผวนประมาณ 20%
 
4. Tops (Central Retail)

ภาพจาก www.centralretail.com

ในโมเดล Tops Club (คล้าย Costco) พนักงานที่ผ่านการฝึกยาวนานช่วยจัดการสินค้าขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว ลด waste สินค้าลง 25% Turnover ต่ำที่ 18%  ทำให้ยอดขายต่อสาขาเพิ่ม 12% เป็น 500 ล้านบาทต่อปี สูงกว่าสาขาที่ turnover สูงจากคู่แข่ง
 
5.Big C


หลังการปรับโครงสร้างใหม่มีพนักงานชำนาญสินค้าอยู่ยาว 3–4 ปี ช่วยแนะนำโปรโมชันตรงจุด ลดอัตราการคืนสินค้าลง 10% Turnover 22% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์-ออฟไลน์เพิ่ม 18% เป็น 200,000 ล้านบาทในปี 2025 
 
เหล่านี้คือตัวอย่างและข้อมูลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า Talent Retention เป็นสูตรสำเร็จในการสร้างเงินล้านให้กับธุรกิจโดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และเทรนด์นี้เป็นมากกว่าจริยธรรมทั่วไป 
 
แต่เป็น "กลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดและการเติบโต" ในโลกธุรกิจยุคใหม่ องค์กรที่บูรณาการความเคารพนี้ไว้ในทุกมิติของการดำเนินงาน จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน ดึงดูดลูกค้าที่มีคุณภาพ และสร้างความไว้วางใจในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในที่สุด

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อวสาน E-commerce ไทย? ต่างชาติรุกหนัก ตลาดไทยกำล..
867
อวสานร้านอาหาร! คนทำทยอยเซ้ง คนเจ๊งทยอยขาย
685
เศรษฐกิจยังทรุด! 9 แบรนด์ดังไทย-เทศ “ปิดกิจการ-ล..
563
ระเบิดเวลา! ประชากรไทย ตายมากกว่าเกิด
492
จิตวิทยาตั้งราคา! Psychological Pricing ทำให้ลูก..
491
Ediya Coffee (이디야커피) แฟรนไชส์ร้านกาแฟที่มีชื่อเส..
437
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด