บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
451
2 นาที
22 สิงหาคม 2568
รวมเทคนิค “Marketing Campaign” ร้านอาหารใช้ได้ผล!
 

ในยุคที่การแข่งขันทางการค้ารุนแรง การใช้ “โปรโมชัน” กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของธุรกิจแทบทุกประเภท มีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้มากที่สุด ยิ่งถ้าไปดูผลสำรวจจะทำให้เห็นว่า “โปรโมชัน” สำคัญแค่ไหน
  • 87% ของผู้บริโภคชาวไทยระบุว่า “โปรโมชัน” มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ
  • 60% ยอมเปลี่ยนแบรนด์ที่เคยซื้อ หากแบรนด์อื่นมีโปรโมชันน่าสนใจกว่า
  • 50% สร้างการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น (Brand Awareness)
  • 30% คือยอดลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลังที่ธุรกิจมีการใช้ Marketing Campaign
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า เมื่อมีแคมเปญเข้ามากระตุ้นจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลได้ 10-15% และเพิ่มโอกาส 15–25% ในการดึงลูกค้าใหม่ให้กลับมาซื้อ (Repeat Rate) หลังจากจบแคมเปญ
 
อย่างไรก็ดีการใช้ Marketing Campaign ก็ไม่ต่างจากดาบสองคมถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้องแทนจะได้ผลดีอาจกลายเป็นผลเสีย เช่นลูกค้าไม่ซื้อสินค้าในช่วงเวลาปกติจะรอซื้อแค่ตอนจัดแคมเปญ หรือแคมเปญที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคก็ไม่อาจเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้เช่นกัน
 
 
 
โดยเฉพาะกับร้านอาหารที่แต่เดิมก็มี “ต้นทุน” ที่สูงจากค่าวัตถุดิบ + บริหารจัดการ ถ้าจะทำแคมเปญเพิ่มด้วยก็ต้องคิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนว่าจะกระตุ้นยอดขายได้จริงไม่ใช่ไปเพิ่มภาระให้ตัวเอง แทนที่จะได้กำไรเพิ่มอาจกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มโดยไม่จำเป็น หรือควรเลือกแคมเปญที่เหมาะสมซึ่งมีหลายแบบเช่น
  • แคมเปญสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness Campaign) เน้นไปที่การสร้างการรับรู้และรู้จักแบรนด์มากขึ้น
  • แคมเปญสะสมคะแนน (Loyalty Program) สำหรับเน้นกระตุ้นยอดขายในทันที
  • แคมเปญส่งเสริมการขาย (Promotion Campaign) เพิ่มโอกาสในการตัดสินใจของลูกค้าในช่วงเวลานั้นได้ทันที
  • แคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (Product Launch Campaign) การสร้างโอกาสเพิ่มการขายได้ในระยะยาว
  • แคมเปญสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Campaign) เน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเพื่อรักษาฐานลูกค้าให้เหนียวแน่น
ในแวดวงธุรกิจปัจจุบันนี้ก็จะมีการเลือกใช้แคมเปญเหล่านี้แตกต่างกันไปยกตัวอย่างที่เห็นภาพง่ายสุดคือการที่โลตัส เปิดแคมเปญ HAPPY MALL STAMP สะสมแสตมป์ล่าไอเท็ม “ความสุขจากทุกใบเสร็จ สะสมง่าย แลกได้จริง ไม่ต้องลุ้น” ที่รวมรางวัลตั้งแต่ iPhone 16 Pro Max ยันตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง หรือการที่ ลัคกี้ สุกี้ ใช้เวลาแค่ 3 ปี ก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท ผ่านการใช้ THEMATIC Campaign" รักเธอไม่มีหมด"  รวมไปถึงศึกเดือดในแวดวงสุกี้ที่ต่อสู้กันด้วยแคมเปญเด็ดๆ ซึ่งก็มีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดให้กับแบรนด์ได้มากที่สุด
 
แต่ถ้าจะให้แยกย่อยและเลือกรูปแบบสำหรับการทำ Marketing Campaign ในร้านอาหารก็มีอีกหลายแบบที่นำมาใช้ได้ผลจริง ได้แก่

1.จับคู่อร่อย คุ้มยิ่งกว่า!
 

การจัดเซตเมนูที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า และเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารได้ส่วนใหญ่เป็นการนำเมนูอาหาร 2 เมนู มารวมกันเป็น 1 เซ็ต มีผลทางจิตวิทยา ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ามากกว่าการสั่งแค่เมนูเดียว

2. เมนูใหม่ ราคาพิเศษ
 
การจัดโปรโมชัน เมนูใหม่ ราคาพิเศษ ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากรู้ อยากลอง ซึ่งหากเมนูนั้นอร่อยถูกใจ ก็จะกลายเป็นเมนูที่ลูกค้าจะสั่งต่อไปในครั้งหน้าได้ด้วย

3.แลกซื้อราคาพิเศษ
 

คือการจูงใจให้ลูกค้าสั่งเมนูอาหารที่เรากำหนดไว้ เพื่อแลกซื้ออีกเมนูในราคาพิเศษ เช่น สั่งข้าวพัดกระเพรา 1 จาน รับสิทธิ์แลกซื้อน้ำอัดลมราคาพิเศษ 15 บาท เป็นต้น

4.ส่วนลดพิเศษตามเทศกาล
 
การจัดเมนูพิเศษหรือมอบส่วนลดให้เหมาะสมกับแต่ละเทศกาล และอาจเป็นการโฆษณาผ่านโซเชี่ยลได้แบบฟรีไม่ต้องเสียเงินจากโพสต์ของลูกค้าเอง

5.ฉลองเปิดร้านหรือครบรอบเปิดร้าน
 

กลยุทธ์ครอบรอบเปิดร้านเช่น ครบรอบ 1 ปี , ครบรอบ 2 ปี การใส่โปรโมชันก็ต้องให้สอดคล้องและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่พิเศษจริงๆ เช่นอาจมีเมนูพิเศษ หรือจัดกิจกรรมแจกของรางวัลสำหรับลูกค้า เป็นต้น

6.จัดเซตอาหารกลางวัน – อาหารเย็น
 
เช่นการจัดเซตอาหารกลางวัน เป็นแฮปปี้มีลด์ที่ควรใส่เมนูให้เหมาะสม + เครื่องดื่ม จำหน่ายในราคาพิเศษ สามารถทำได้ทั้งอาหารกลางวัน และอาหารเย็น 

7.เมนูพิเศษฉลองวันเกิดลูกค้า
 
สำหรับร้านอาหารที่มีระบบสมาชิกจะมีข้อมูลลูกค้า ซึ่งการจัดเมนูพิเศษฉลองวันเกิดให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกคือหนึ่งแคมเปญที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ผลดีคือการที่ลูกค้าจะนำไปบอกต่ออันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ร้านอาหารมีโอกาสที่คนอื่นจะเข้ามาเป็นลูกค้าประจำได้มากขึ้นด้วย
 

และถ้าดูในมุมของรายได้ที่มีข้อมูลว่า Marketing Campaign ช่วยให้มีลูกค้าเพิ่ม 30% เพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลได้ 10-15% นั่นหมายความว่าถ้าแต่เดิมร้านเรามีฐานลูกค้าต่อเดือนที่ 1,000 คน ยอดขาย 300,000 / เดือน หลังจบ Marketing Campaign เราจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 1,000 เป็น 1,300 คน มีบิลเฉลี่ยเพิ่มจาก 300 เป็น 350 และมียอดขายใหม่เท่ากับ 1,300 × 350 = 455,000 หรือมียอดขายเพิ่มมาจากเดิม 51%

แต่ตัวเลขนี้คือประมาณการให้เห็นภาพว่ามีผลต่อยอดขาย ซึ่งถ้าจะให้ได้ผลดีจริงร้านอาหารควรเลือกโปรที่ “เพิ่มยอดโดยไม่ตัดกำไรตรง ๆ” ก็คือการไม่ลดราคาสินค้าหรืออาหารโดยตรง (เช่น ลด 30–40%) เพราะวิธีนั้นจะทำให้กำไรต่อจานหายไปทันทีแต่หันมาใช้วิธีที่ กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อเพิ่ม โดยที่กำไรต่อจานยังปลอดภัย
 
ทั้งนี้เรื่องน่ารู้ก่อนคิดแคมเปญให้กับร้านอาหารมีหลักการสำคัญ 3 ข้อที่ควรรู้คือ
  • กำหนดเป้าหมาย (Goals) ที่ชัดเจนว่าจัดโปรโมชันเพื่ออะไร เช่น เพื่อเพิ่มลูกค้าใหม่ หรือต้องการดึงลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ
  • รู้จักสินค้า และบริการของธุรกิจตนเอง (Context) เพื่อจัดทำ Sales Promotion ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นๆ ได้
  • วิเคราะห์ เลือกไอเดียทำโปรโมชัน (Make it happen) เพื่อให้การทำโปรโมชันนั้นมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ในสิ่งที่ร้านต้องการได้มากที่สุด หากทำโปรที่ผิดวิธีอาจเป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสีย
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
876
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
735
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
563
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
488
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
488
จักรวาลร้านสเต็ก ข้างทาง ใครเจ้าตลาด
480
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด