บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    การวางแผนธุรกิจแฟรนไชส์
405
2 นาที
22 กรกฎาคม 2568
เปิดร้านเองรุ่ง แต่แฟรนไชส์ร่วง! จุดพลาดที่เจ้าของมองข้าม
 

บางธุรกิจเปิดแล้วขายดีมาก มีลูกค้าสนใจใช้บริการเยอะยอดขายต่อวันหักลบต้นทุนแล้วมีกำไรชัดเจน ซึ่งถ้าดูเคล็ดลับของร้านที่ขายดีจะมีองค์ประกอบสำคัญคือ
  • ทำเลที่ตั้งดีมีกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
  • สินค้าคุณภาพดี / บริการดี
  • การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ / การบริหารจัดการในร้านทำได้ดี
  • แยกบัญชีธุรกิจกับบัญชีส่วนตัวอย่างชัดเจน
  • เน้นการทำตลาด / ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
  • มีบุคลากรและทีมงานที่มีคุณภาพ

และพอเห็นร้านไหนขายดี บางทีลูกค้าก็อยากลงทุนบ้าง หลายครั้งที่เราถามว่าขายแฟรนไชส์ไหม? คำตอบก็คือ “ไม่” ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่ามีหลายเหตุผล ได้แก่
  1. ต้องการควบคุมคุณภาพแบบ 100% 
  2. ได้กำไรต่อสาขาที่สูงกว่า ไม่จำเป็นต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ใคร 
  3. สามารถรักษาแบรนด์ให้แข็งแรง ค่อยๆเติบโตและสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีกว่า
  4. มีเงินทุนมากพอไม่ต้องรีบร้อน เพราะร้านที่ขายดีส่วนใหญ่มีกำไรสะสมเยอะ ไม่จำเป็นต้องรีบขยายสาขา
มาดูกันอีกด้านว่าทำไมร้านที่ขายดีก็ไม่ได้การันตีว่าพอเป็นแฟรนไชส์แล้วจะต้องขายดี เนื่องจากสูตรสำเร็จของการเปิดร้านด้วยตัวเอง กับการขยับมาเป็นแฟรนไชส์นั้นมีรายละเอียดที่ต่างกัน ถ้าอยากเปลี่ยนธุรกิจตัวเองให้เป็นแฟรนไชส์ก็ต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี โดยมีขั้นตอนเบื้องต้นได้แก่
  1. ศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนแฟรนไชส์ว่ามีระบบและขั้นตอนอย่างไร
  2. การสร้างร้านต้นแบบ หรือมีการขยายสาขาอย่างน้อย 2-3 แห่ง
  3. การจดทะเบียนแฟรนไชส์ทั้งเรื่องเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการ เป็นต้น
  4. การจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน (Operation Manual) ที่เป็นเหมือนพิมพ์เขียวของระบบงานทั้งหมด
  5. พัฒนาระบบจัดส่งสินค้าและวัตถุดิบอย่างมีคุณภาพ
ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ได้แล้วก็จะนำไปสู่ขั้นตอนอื่น เช่น การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ , การนำเสนอขายแฟรนไชส์ , วิธีการส่งเสริมด้านการตลาดแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ เป็นต้น
 
 
แต่ทุกเรื่องที่พูดมาจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าธุรกิจของเรา “ยังมีกำไรไม่มากพอ” ยกตัวอย่างถ้าเปิดร้านขายอาหารกำไรสุทธิก่อนจะเป็นแฟรนไชส์ควรอยู่ที่ 25% เพราะระบบแฟรนไชส์ที่ถูกต้องและได้มาตรฐาน แฟรนไชส์ซีจำเป็นต้องจ่ายค่า Marketing Fee และ Royalty Fees ให้กับแฟรนไชส์ซอ หมายความว่ารายได้ของแฟรนไชส์ซีเองต้องหักออกในส่วนนี้ออกด้วยรวมแล้วประมาณ 7%
 
ถ้าแฟรนไชส์ซอมีกำไร 25% เมื่อเราลงทุน (แฟรนไชส์ซี) ต้องหัก Marketing Fee + Royalty Fees อีก 7% จะมีกำไรแท้จริงอยู่ที่ 18% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถือว่าเพียงพอให้การลงทุนมีกำไรได้ เพราะตัวเลขนี้คือกำไรสุทธิที่แฟรนไชส์ซีจะได้รับ ซึ่งระยะเวลาคืนทุนของแฟรนไชส์ซีจะเป็นเท่าใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับ “งบลงทุน” ในเบื้องต้น
 
เช่น แฟรนไชส์ซีใช้งบในการลงทุนรวม 360,000 บาท สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือวิธีการบริหารจัดการร้าน , การฝึกอบรม , การพัฒนาบุคลากร , การส่งเสริมด้านการตลาด , การสอนสูตรเมนู และถ้าร้านมียอดขายอยู่ที่ 200,000 บาท กำไรของแฟรนไชส์ซีจะได้อยู่ที่ 18% ต่อเดือนหรือประมาณ 36,000 บาท จึงมีระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 10 เดือน 
 
อย่างไรก็ดีตัวเลขต้นทุนอาจผันแปรได้เช่นถ้าเราไม่มีต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ก็สามารถตัดรายจ่ายนี้ออกไป หรือถ้าบริหารจัดการสต็อคได้ดีลดการสูญเสียวัตถุดิบ (food waste) ได้มากต้นทุนวัตถุดิบเราอาจลดลง ก็จะไปเพิ่มที่ผลกำไรได้มากขึ้นด้วย
 
ถ้าดูจากข้อมูลเหล่านี้สำหรับธุรกิจไหนที่มั่นใจว่าตัวเองขายดี และต้องการขยายธุรกิจให้เติบโต และเลือกระบบแฟรนไชส์มาช่วยขยายกิจการ ก็จำเป็นต้องมีการปรับรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องกับระบบแฟรนไชส์ ซึ่งถ้าเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง จากร้านขายดีก็จะกลายเป็นแฟรนไชส์ที่ขายดีและขยายสาขาได้เร็วมากด้วย
 

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
828
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
573
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
494
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
470
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
463
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
436
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด