บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
1.5K
2 นาที
20 มกราคม 2565
การตลาด Cute Marketing มาแรง ขายแพง แถมขายได้เยอะ!
 

ประมาณกลางเดือนมกราคมของปี 2565 #แพงทั้งแผ่นดิน พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ อันเป็นผลมาจากการขึ้นราคาสินค้าหลายชนิดส่งผลให้ค่าครองชีพของคนไทยสูงปรี๊ดทันที ในมุมของผู้ประกอบการมองว่าเมื่อต้นทุนวัตถุดิบทุกอย่างมันแพง ราคาสินค้าก็ต้องปรับตาม แต่ในมุมของลูกค้าจะเรียกว่าซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง บางอย่างเป็นสินค้าจำเป็นต่อให้แพงแค่ไหนก็ต้องซื้อ

แต่เชื่อ www.ThaiFranchiseCenter.com หรือไม่ว่ามีการตลาดประเภทหนึ่งที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงมากเรียกว่า Cute Marketing ซึ่งแปลกแต่จริงเพราะการตลาดที่ว่านี้สามารถตั้งราคาขายสินค้าแพงๆ แถมยังมีลูกค้าพอใจซื้อเป็นจำนวนมากซะด้วย
 
Cute Marketing คืออะไร?
 

ภาพจาก https://bit.ly/3KrsjTk

Cute Marketing แปลตรงตัวคือ กลยุทธ์การตลาดที่อาศัยความน่ารักเป็นจุดขาย คำถามคือ “น่ารักแล้วทำไม ถึงขายดี?” มีข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เวลาที่เราจ้องมองอะไรที่ “น่ารัก” สมองของเราจะจับสัญญาณนั้นแล้วหลั่งสาร “โดปามีน” และ “ออกซิโทซิน” ออกมา ซึ่งสารทั้ง 2 อย่างนี้มีผลทำให้ร่างกายรู้สึกดี รู้สึกสดชื่น รู้สึกอยากได้สิ่งนั้นมาไว้เป็นของตัวเอง มีผลสำรวจตอกย้ำลงไปอีกว่าแบรนด์เครื่องสำอางในเกาหลีโดยเฉพาะบรรดายี่ห้อใหม่ๆ เขาจะเน้นการออกแบบ “แพคเกจ” ที่ดูน่ารัก เพราะลูกค้ากว่า 65% ดูแพคเกจก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะดูว่ามีคุณสมบัติสินค้าอย่างไร 
 
ทั้งนี้นักวิชาการด้านการตลาดมองว่าสินค้าที่สร้างความน่ารัก ยังช่วยกำหนดให้สินค้ามีราคาแพงขึ้นได้อีกด้วย เพราะนอกจากคนซื้อจะใช้เองแล้ว ส่วนใหญ่ถ้าสินค้าที่แพคเกจจิ้งดีมากๆ ก็จะถูกซื้อไปเป็นของขวัญ หรือของฝาก เพราะว่าโดยธรรมชาติแล้วมองว่าของเหล่านี้ต้องเป็นของที่แพง ดังนั้นหลักการของ Cute Marketing คือไม่ว่าจะออกแบบสินค้าหรือแคมเปญอะไร ต้องให้น่ารักไว้ก่อน ซึ่งแน่นอนอีกว่าแนวคิดการตลาดแบบนี้มาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นต้นแบบแพคเกจจิ้งสวย น่ารัก แปลกใหม่ 
 
และที่สำคัญกว่านั้นการตลาดแบบ Cute Marketing ง่ายมากในการทำให้เกิดการตลาดแบบปากต่อปาก ให้บอกต่อกันไปเรื่อยๆ เป็นกลยุทธ์ทางอ้อมที่เจ้าของธุรกิจไม่ต้องเปลืองงบในการโฆษณา แต่คนรู้จักสินค้ามากขึ้น และมีโอกาสขายได้มากขึ้นจากผลการสำรวจของนีลเส็น

บริษัทที่ให้ข้อมูลและการประเมินผลชั้นนำของโลก บอกว่า ผู้ซื้อกว่า 92% เชื่อคำแนะนำจากเพื่อน หรือคนในครอบครัวมากกว่าโฆษณา ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงแบบนี้ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับ Cute Marketing มากขึ้นเพราะการตลาดแบบนี้ไม่มีวันตกยุค ยิ่งแปลก ยิ่งสวย ยิ่งขายง่าย สินค้าใดก็ตามที่ปรับตัวได้ตามความต้องการของผู้บริโภคดึงดูดสายตาได้ ย่อมขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเช่นกัน
 
ตัวอย่างของสินค้าที่ใช้การตลาดแบบ Cute Marketing
 
ถ้าการอธิบายว่า Cute Marketing คืออะไร ดียังไง ยังเห็นภาพไม่ชัดเจนลองไปดูสินค้าที่เขานำการตลาดแบบนี้มาใช้ ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนติดใจกันงอมแงมทีเดียวยกตัวอย่างเช่น
 
1. Gucci
 
ภาพจาก https://bit.ly/3tJNRoA

โดยแบรนด์แฟชั่นจากฝั่งอิตาลีได้ผสมผสานแบรนด์ตัวเองเข้ากับตัวการ์ตูนอย่างโดราเอมอน ออกแบบสินค้าที่กลายเป็น Talk of the Town ไม่ใช่เฉพาะวงการแฟชั่น แต่รวมไปถึงแฟนคลับของโดราเอมอนทั่วโลกที่หลงใหลในความน่ารักโดราเอมอนซึ่งแน่นอนว่ายอดขายเพิ่มขึ้นแม้ราคาจะแพงขึ้นก็ตาม

2. Mini Cooper
 
รถยนต์ยี่ห้อดังอย่าง Mini Cooper ที่เน้นดีไซน์เล็กกะทัดรัด ของตัวเองให้ดูเป็นรถยนต์ที่น่ารัก เรียกว่าดึงความน่ารักของตัวเองออกมาเป็นจุดขายซึ่งลูกค้าก็เห็นถึงความแตกต่างและมองว่าเป็นดีไซน์ที่มีไอเดียมาก 
 
3. Scott
 
ภาพจาก https://bit.ly/32jumb4

เป็นแบรนด์กระดาษทิชชู่ที่เชื่อว่าคนไทยรู้จักกันดี และภาพของสุนัขสีน้ำตาลพันธุ์ลาบราดอร์ที่อยู่บนหนังโฆษณาและแพคเกจของแบรนด์ก็ทำให้หลายคนจดจำแบรนด์นี้ได้มากขึ้น เหตุผลของการใช้สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เป็นจุดขายเพราะเป็นสัญลักษณ์ของความน่ารัก สดใส อ่อนนุ่ม ซึ่งสอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์ 

4. บาร์บีคิวพลาซ่า
 
ภาพจาก https://bit.ly/3rsD0MI

พูดถึงบาร์บีคิวพลาซ่าเราก็จะนึกถึงมาสค็อตอย่าง “บาร์บีกอน” ที่รูปร่างคือมังกรสีเขียวหน้าตาน่ารัก ที่ไม่ว่าจะทำการตลาดอะไร หรือจะโฆษณาแบบไหน ก็ต้องมีบาร์บีกอนนี่ออกมาร่วมอยู่ด้วยทุกครั้ง แม้แต่การไปร่วมมือกับแบรนด์ใด บาร์บีกอนก็จะปรากฏตัวด้วยทุกครั้งนั่นคือวิธีการทำตลาดแบบ Cute Marketing ของบาร์บีคิวพลาซ่า

5. ปากกาไฮไลท์หลอดวาซาบิ
 
Geo Design บริษัทออกและวางแผนแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว พัฒนาสินค้าใหม่คือปากกาไฮไลท์ที่ใช้แนวคิดจากหลอดวาซาบิโดยเปลี่ยนจากแท่งปากกามาเป็นหลอดวาซาบิ และเปลี่ยนจากไส้วาซาบิเวลาบีบออกมาเป็นไส้ปากกาไฮไลท์แทน โดยนอกจากสีเขียวสะท้อนแสงแล้ว ยังมีสีเหลือง ซึ่งได้ไอเดียมาจากขิงขูด และสีชมพูที่ได้มาจากลูกพลัมให้เลือกใช้ด้วย
 
สาเหตุที่ทำให้ Cute Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ดีเพราะคนส่วนใหญ่ต้องการ “ความสุข” แม้จะเป็นสินค้าเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าดีไซน์สวย แปลก และน่าสนใจ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า และอยากส่งต่อความคุ้มค่าน่ารักนี้ให้กับคนอื่น แต่ในแง่การตลาดการออกแบบแพคเกจจิ้งที่สวยงามแบบนี้มักมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการก็ควรเลือกวิธีการใช้ Cute Marketing นี้กับธุรกิจให้เหมาะสมมากที่สุด
 
ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3tQELWO
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
7 เหตุผลที่ทุกธุรกิจต้องการโปรแกรม HR จาก ByteHR
446
ปี 2568 อวสานธุรกิจไทย บทเรียนที่แก้ไขไม่ได้
348
อวสานห้างไทยในตำนาน คน แบรนด์ สถานที่
338
KuanZhai Panda ร้านอาหารเสฉวนต้นตำรับจากเฉิงตู ส..
331
อวสานวงการบันเทิงไทย ถอยหลัง ตกยุค เรตติ้งตก?
329
10 การขายขั้นสุด! พ่อค้าจีนขายเก่งกว่าคนไทย
326
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด