บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    ความรู้ทั่วไปทางการเงิน
1.7K
2 นาที
24 พฤศจิกายน 2564
รวมรายจ่ายที่คนไทย “ควรระวัง” ช่วงปลายปี
 

การแพร่ระบาดของโควิด 19 กว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องรายได้ของคนไทยทั้งประเทศ สารพัดเทคนิคในการรัดเข็มขัดให้กับตัวเองถูกนำมาใช้ แน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายตอนนี้เศรษฐกิจก็เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว แต่รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่สูงขึ้น

www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าช่วงนี้ทุกคนน่าจะประคองตัวเองเพื่อรอดูความชัดเจนในเรื่องต่างๆ แต่ก็ประจวบเหมาะกับตอนนี้ที่กำลังเข้าสู่ปลายปี เป็นเวลาใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่แม้บางทีไม่อยากจ่ายแต่ด้วยอารมณ์พาไปบางทีก็ทำให้เราจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่รู้ตัวโดยเฉพาะช่วงนี้สินค้าต่างๆ มีการจัดโปรโมชั่นและมีกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจมาก ถ้าไม่ระวังการใช้จ่ายในช่วงนี้ให้ดี ความพยายามในการเก็บเงินมาตลอดทั้งปีอาจจะสูญเปล่าก็เป็นได้
 
คนไทยใช้จ่ายต่อเดือนมากแค่ไหน อะไรที่เราใช้จ่ายมากที่สุด??
 

ภาพจาก freepik.com

จากข้อมูลของการใช้จ่ายต้นปี 2564 พบว่าค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั่วประเทศจะเฉลี่ยเดือนละ 21,329 บาท โดยผู้คนมักเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่าอาหาร เครื่องดื่ม หรือยาสูบ มากที่สุด คิดเป็น 35.6% รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องอื่นแตกต่างกันไป ตามสัดส่วนเช่น ที่อยู่อาศัย เครื่องแต่งบ้าน และเครื่องใช้ต่างๆ 20.6% ,ค่าเดินทางและยานพาหนะ 17.2% ,เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และของใช้ส่วนบุคคล 4.7% ,การสื่อสาร 4.0% ,การศึกษา 1.5% เป็นต้น

ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค คิดเป็น 13.0% ซึ่งครอบคลุมรายจ่ายประเภทภาษี เบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย ซื้อสลากกินแบ่ง/หวย และอื่นๆ
ซึ่งในความเป็นจริงตัวเลขที่ประเมินนี้อาจไม่ใช่ตัวเลขที่ใกล้เคียงกับบางครอบครัว บางคนอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละครัวเรือนและการบริหารจัดการด้านการเงินที่แตกต่าง 
 
รวมค่าใช้จ่ายที่คนไทย “ควรระวัง” ช่วงปลายปี
 
และเพื่อให้คนที่วางแผนการเงินมาตลอดทั้งปีไม่ต้องมาพังเพราะค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี ลองไปดูว่า ช่วงส่งท้ายปลายปีแบบนี้มีค่าใช้จ่ายอะไรที่ต้องระวังบ้าง
 
1.ค่าใช้จ่ายจากบัตรเครดิต
 

ภาพจาก freepik.com

บัตรเครดิตก็เป็นธุรกิจประเภทหนึ่งและรู้ความต้องการของคนไทยในช่วงเทศกาลแบบนี้ดี ว่าต้องการเงินสด ต้องการใช้จ่าย ดังนั้นเราจึงเห็นว่าแต่ละค่ายบัตรมีแคมเปญที่น่าสนใจผุดขึ้นมาในช่วงเวลาแบบนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะแคมเปญ 0% , ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง , ยิ่งซื้อยิ่งได้ ไม่รวมถึงการได้แต้มโบนัสเพื่อนำไปแลกของรางวัลต่างๆ ถือเป็นสุดยอดกลยุทธ์ที่อาจทำให้เราเผลอใจเลือกใช้บัตรเครดิตกันมากขึ้น และแน่นอนว่าจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายตามมาในภายหลัง ซึ่งถ้าไม่วางแผนการใช้จ่ายดี ๆ หลังผ่านเทศกาลแห่งความสุขนี้ไปเราอาจได้เริ่มต้นปี ด้วยการเป็นหนี้ก้อนโตก็ได้
 
2.ค่าใช้จ่ายที่ต้องการนำไป “ลดภาษี”
 

ภาพจาก freepik.com

สำหรับบางคนที่มีภาระในการต้องจ่ายภาษีประจำปีอาจมีแนวคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจ่ายภาษีต้นปีหน้าให้น้อยที่สุด
 
วิธีที่เห็นชัดเจนคือการมองหาการลงทุนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน หรือการจ่ายซื้อสินค้าบริการทางการเงินที่สามารถมาลดหย่อนภาษีได้ ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ การซื้อประกันชีวิตไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือจะซื้อให้พ่อแม่ก็ล้วนนำมาลดภาษีได้สำหรับคนที่กำลังมองหาแบบประกันเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ ตัวเลขผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงและตัวเลขที่ทำให้ลดหย่อนภาษีได้ก็อาจจะทำให้เผลอตกปากรับคำไปก่อนจะศึกษาข้อมูลและกลายเป็นว่าแทนที่จะได้เก็บเงินในช่วงนี้ต้องมาจ่ายไปกับสินค้าและบริการเหล่านี้เพียงเพื่อต้องการนำไปลดหย่อนภาษีเท่านั้น
 
3.ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว/สังสรรค์
 

ภาพจาก freepik.com

เป็นเรื่องธรรมดาที่ปลายปีหลายคนจัดทริปท่องเที่ยวให้กับตัวเองและครอบครัว ยิ่งตอนนี้มีการคลายล็อคน์ และยังสนับสนุนให้คนไทยได้ออกมาเที่ยวมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากโครงการของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง มองในแง่ดีมันคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าไม่ระวังให้ดีรายจ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวนี้อาจทำให้เรามีปัญหาเรื่องการเงินได้เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าอยากจะเที่ยวต้องมีการวางแผนการใช้จ่ายให้มีคุณภาพ มีการจัดงบประมาณที่เหมาะสม กำหนดค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนในแต่ละทริป และควรวางแผนให้ตัวเองมีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย
 
4.ค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น
 

ภาพจาก freepik.com

หลายคนที่นึกถึงเทศกาลปีใหม่ ก็นึกอยากแต่งบ้านให้สวยงาม นำไปสู่การซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะตอนนี้การช็อปปิ้งออนไลน์ทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้วคลิ๊ก อยากซื้ออะไรอยากได้อะไรแค่ใช้มือถือเครื่องเดียวจัดส่งให้ได้ถึงหน้าบ้าน เมื่อยิ่งซื้อได้ง่าย เราก็ยิ่งจ่ายง่าย แถมการตลาดออนไลน์ช่วงนี้มีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ทำให้บางคนรอช่วงเวลาแบบนี้ในการซื้อ ซื้อ และซื้อ สินค้าบางอย่างที่ซื้อมาบางทีไม่จำเป็น แต่ก็ยังซื้อมาเพียงเพราะว่ามันลดราคาหรือรู้สึกว่าถ้าไม่ซื้อตอนนี้อาจได้สินค้าราคาแพงในภายหลัง ทางที่ดีควร ตั้งกฎให้แน่วแน่ว่าจะจ่ายให้กับการซื้อสินค้าเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการเงินในภายหลังได้
 
5.ค่าใช้จ่ายจากการเป็น “เหยี่อการตลาด”
 

ภาพจาก freepik.com

นอกจากกลยุทธ์สำหรับสินค้าขนาดใหญ่แล้ว ในกลุ่มสินค้าขนาดเล็กกลยุทธ์การตลาดสุดท้ายนี้มักพบเห็นกันทั่วไปด้วยพัฒนาการของระบบการตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงทุกคนผ่าน application บนโทรศัพท์มือถือ บริษัทอาจจัดส่ง e-coupon ทางโทรศัพท์ หรือบางแห่งอาจเตรียมคูปองบนแผ่นพับใบปลิวในห้างสรรพสินค้า เพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการและเลือกซื้อสินค้า ซึ่งคนส่วนใหญ่เห็นกลยุทธ์เหล่านี้แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่อ ที่ยอมเดินเข้าไปซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องระวังเช่นกัน
 
นอกจากค่าใช้จ่ายที่เราได้กล่าวมาเชื่อว่าปลายปีแบบนี้ยังมีอีก “หลายค่า” ที่จะตามมาและบางทีจำเป็นต้องจ่าย เช่น ภาษีรถยนต์ , ประกันรถยนต์ , ประกันสุขภาพ ทางที่ดีถ้าเรารู้ว่าปลายปีแบบนี้ค่าใช้จ่ายเราสูงก็ควรวางแผนการเงินมาตั้งแต่ต้นปีเพื่อให้เรามีเงินใช้จ่ายมากพอกับทุกรายจ่ายที่ต้องเผชิญ และควรวางแผนให้เรามีเงินเหลือเก็บเอาไว้ส่วนหนึ่งด้วยเพื่อที่จะได้เริ่มต้นปีใหม่อย่างอุ่นใจว่าอย่างน้อยเราก็มีเงินติดบัญชีไว้มากพอเผื่อยามฉุกเฉิน
 
ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
649
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
598
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
540
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
491
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
488
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
458
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด