บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
8.9K
2 นาที
19 กรกฎาคม 2556
อยาก...เป็นเจ้าของธุรกิจ ต้อง “รู้” อะไรบ้าง 

หลายคนเมื่อเรียนสำเร็จหรือหลังจากทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนมาได้ระยะหนึ่ง คงถึงเวลาค้นหาความฝัน อยากผันตัวไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่พวกเขาเหล่านี้อาจยังไม่รู้เลยว่าจะทำธุรกิจอะไร ควรเริ่มต้นจากจุดไหน แล้วต้องบริหารอย่างไรให้อยู่รอดและไปได้ด้วยดี โอกาสนี้ ìธนาคารกสิกรไทยî มีข้อแนะนำน่าสนใจมาฝากไว้ให้เหล่า SMEs มือใหม่...ทั้งหลาย

ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความคิด

แบบทดสอบง่ายๆ เพื่อเป็นการประเมินตัวเองว่า คุณมีคุณสมบัติเหมาะสมมากน้อยเพียงใดกับการที่จะก้าวเข้ามาสู่ความเป็นผู้ประกอบการ
 
ข้อ 1 เวลาหลับตาฝันกลางวัน คุณมองเห็นตัวเอง
  • คำตอบ A เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ตามใจต้องการ
  • คำตอบ B ทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ความมั่นคงสูง

ข้อ 2 เมื่อมีงานประดังเข้ามามากๆ คุณมักจะ
  • คำตอบ A ยุ่งมากแค่ไหนก็ยังสบายอยู่
  • คำตอบ B งงๆ สับสน ผิดพลาดเสมอ

ข้อ 3 ก่อนที่จะเริ่มทำงานสักอย่างหนึ่ง คุณเตรียมตัวอย่างไร
  • คำตอบ A หาข้อมูล ขบคิด วางแผน
  • คำตอบ B ทำเลย จะรออะไร คิดไปทำไปก็ได้

ข้อ 4 คุณรับมือกับมนุษย์ที่ชอบก่อปัญหาอย่างไร
  • คำตอบ A ชักแม่น้ำทั้ง 5 ตะล่อมด้วยเหตุและผล
  • คำตอบ B เลือดขึ้นหน้า พูดจาโผงผาง

ข้อ 5 ในการตัดสินใจแต่ละครั้ง คุณมักจะ
  • คำตอบ A มั่นใจ มั่นคง และเดินตามที่เลือกแล้ว
  • คำตอบ B ลังเล ลีลา อยากหาที่ปรึกษา
...ถ้าคำตอบสวนใหญ่เป็น  A แปลว่าคุณมีคุณสมบัติเข้าข่ายที่จะเป็นผู้ประกอบการได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกคำตอบ A หรือ B เป็นส่วนใหญ่ อย่าเพิ่งดีอกดีใจหรือน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะนี่เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น เพราะหลังจากวัดใจตัวเองแล้ว ก็ถึงเวลาอยู่รอดและประสบความสำเร็จ ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้
 
แน่ใจนะว่าคุณผลิตสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์คนซื้อ, ผลิตแล้วคุณรู้เรื่องการทำตลาดดีพอ, ลูกค้าของคุณคือใคร, แล้วคุณจะเข้าถึงลูกค้าที่ว่าของคุณด้วยช่องทางไหน, ลูกค้าของคุณยอมจ่ายเงินเพื่อสินค้าของคุณหรือเปล่า
 
คุณบริหารต้นทุนให้เหมาะสมได้ไหม, คุณมีทรัพยากรทั้งหลายที่จะทำให้กิจการนี้เกิดขึ้นได้ไหม, สินค้ามีจุดเด่นอะไรที่จะดึงดูดให้ลูกค้าซื้อ, คุณสามารถก้าวขึ้นแท่นผู้นำในธุรกิจนี้หรือไม่, แล้วจะเริ่มต้นตรงไหนดีล่ะ หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ทุกข้อ จะรีรออะไรอยู่ ได้เวลาลุยแล้วล่ะ!
 
เปิดประตูก้าวสู่โลกธุรกิจ
รูปแบบธุรกิจ หลักๆ แล้วมี 4 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบใด จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้
 
1. สร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตัวเอง
สามารถคิด เลือก ตัดสินใจทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง ตัดสินใจและปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว แต่ต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มีความเสี่ยงสูง เหมาะกับคนเจ้าความคิด มีแผนธุรกิจชัดเจน และมีเงินทุนสูง
 
2. ซื้อกิจการต่อจากผู้อื่น
ไม่ต้องเปลืองเวลาเริ่มต้นนับหนึ่ง มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว แต่ต้องพึงระวังว่าเจ้าของเดิมอาจเปิดธุรกิจแข่ง และต้องพิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาอย่างละเอียด เหมาะกับคนที่เห็นโอกาสทำกำไรในธุรกิจชัดเจน หรือต้องการต่อยอดจากธุรกิจประเภทใกล้เคียงกัน
 
3. เข้าไปรับช่วงกิจการ
ถ้าธุรกิจดีอยู่แล้ว ไม่ต้องลงแรงมาก และมีฐานลูกค้าเดิมอยู่ ส่วนใหญ่เป็นการรับช่วงจากธุรกิจครอบครัวไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก เพราะสามารถปรึกษากันในครอบครัวได้ แต่อาจต้องสะสางปัญหาเดิมที่ค้างอยู่ เหมาะกับธุรกิจครอบครัวหรือคนที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมากพอควร
 
4. การซื้อแฟรนไชส์
เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์น้อยแต่มีเงินทุนพอควร หรือต้องการเปิดแฟรนไชส์เป็นอาชีพเสริม จุดเด่นของรูปแบบนี้ คือ ไม่ต้องใช้เวลาศึกษามาก และแบรนด์มักเป็นที่รู้จัก สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้ง่าย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่ม เช่น Royalty fee หักเปอร์เซ็นต์ของรายได้ และต้องดำเนินธุรกิจตามข้อกำหนด 
 
...เมื่อพบรูปแบบที่เหมาะกับตัวเองแล้ว ถึงเวลาที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนในการจดทะเบียนตั้งธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย อยู่ในการดูแลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดูรายละเอียดที่ www.dbd.go.th
 
กฎหมายควรรู้ สำหรับ SMEs
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
    กิจการร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นทะเบียนพาณิชย์ ต้องยื่น ภ.ง.ด.94 ในครึ่งปีแรก และยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 อีกครั้งในครึ่งปีหลัง
     
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล
    ธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด ต้องยื่น ภ.ง.ด.51 ในครึ่งปีแรก เพื่อประเมินรายได้ และยื่น ภ.ง.ด.52 ในครึ่งปีหลัง พร้อมส่งงบดุล และมีการตรวจสอบบัญชี
     
  • การจดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
    ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชย์ ที่มีรายได้เกิน 1,800,000 บาท ต่อปี หรือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.01) เพื่อคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th
     
  • การออกแบบใบกำกับภาษี
    ใบกำกับภาษีเป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องทำขึ้นและออกให้ผู้ซื้อทุกครั้งเมื่อมีการขายสินค้าหรือรับเงิน หรือมีการส่งมอบสินค้า
     
  • กฎหมายประกันสังคม
    นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป จะต้องยื่นขอขึ้นทะเบียน ซึ่งในแต่ละเดือน นายจ้างมีหน้าที่นำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยนำส่ง 2 ส่วน คือ ในส่วนของลูกจ้าง (ทุกคน) หักนำส่งในอัตราร้อยละ 5 ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 750 บาท) และเงินสมทบส่วนของนายจ้างเท่ากับส่วนของลูกจ้างทุกคน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของกระทรวงแรงงาน www.mol.go.th และเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
อ้างอิงจาก  เส้นทางเศรษฐี (มติชน)
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
Anchor text คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO
500
Joe Wings ไก่ทอดไทย น้องใหม่โอ้กะจู๋ ลุยตลาด 3 ห..
352
Trung Nguyen Legend กาแฟท้องถิ่นเวียดนาม ชนะสตาร..
350
เจ้าของ สุคิยะ บริษัทเชนร้านอาหาร ใหญ่สุดในญี่ปุ..
350
กลยุทธ์ "ชาสามม้า" ตำนานน้ำชา 88 ปี ที่หลายคนเคย..
338
หลังบ้านของธุรกิจร้านอาหารที่โตไว มีอะไรซ่อนอยู่!
335
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด