บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.1K
2 นาที
15 มิถุนายน 2563
ขายโบสถ์ วัด ตีมูลค่าอย่างไร?
 
เรามาลองตีราคาศาสนสถานเช่นวัดโบสถ์ต่างๆ กันดู เพราะทุกอย่างก็สามารถตีราคาได้  แต่บางคนบอกไม่ได้ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจ ความจริงเป็นอย่างไร
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน ให้ความเห็นต่อการประเมินค่าทรัพย์สินประเภทโบสถ์วัดต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นที่ยึดเหนียวทางจิตใจในลักษณะที่มีคุณค่าสูงจนประเมินค่ามิได้ในบางครั้ง บางคนและบางกรณีก็ตาม
 
มีบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งของ ฟาติมาสาร เรื่อง Churches for Sale (เสนอขายโบสถ์) โดยเขียนไว้ว่า “วิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกายังคงพ่นพิษไม่หยุด. . .อัตราคนไม่เชื่อพระเจ้าและไม่มีศาสนาสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นแบบนี้ โบสถ์คริสต์ก็ไม่มีคนไปร่วมพิธี ประกอบกับเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของโบสถ์ ผลที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “การประกาศขายโบสถ์” เกิดขึ้นเยอะมากในยุโรปและอเมริกา”


ในบทความยังกล่าวว่า วาติกัน อินไซเดอร์. . .เปิดเผยตัวเลขว่า แต่ละปี นิกาย “แองกลิกัน” ในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) จะประกาศปิดโบสถ์และ “ตั้งป้ายขาย” โบสถ์ที่ถูกปิดนั้น อย่างน้อย 20 แห่งต่อปี เนื่องจากโบสถ์เหล่านี้มีผู้มาร่วมพิธีน้อยมาก การขายโบสถ์เพื่อเก็บเงินสดไว้ใช้ยามฉุกเฉิน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด. . .ยังมีให้เห็นแบบเกลื่อนที่สหรัฐอเมริกา. . .นักพัฒนาที่ดินหลายเจ้าชอบซื้อโบสถ์คาทอลิกไปทำธุรกิจอื่น อาทิ ร้านอาหาร รวมไปถึงผับบาร์ สาเหตุที่พวกนี้ชอบซื้อโบสถ์คริสต์เพราะดีไซน์การออกแบบภายในสวยงามเป็นที่ต้องตาต้องใจ (คนเหล่านี้ชอบภาพวาดเทวดาและภาพวาดบนเพดานโบสถ์). . .ตัวเลขที่ตุรกีค่อนข้างน่ากลัว เพราะมีโบสถ์คริสต์ถึง 38 เปอร์เซ็นต์จากทั้งประเทศ ถูกตั้งป้ายขาย
 
บทความดังกล่าวยังยกตัวอย่างอีกหลายประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน และ เดนมาร์ก และสรุปว่า “นี่ก็เป็นทิศทางวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติความเชื่อในศาสนาที่มาบรรจบกันอย่างไม่น่าเชื่อ สมัยก่อน ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำ คนจะหันกลับมาหาพระเจ้าเพื่อหาที่พึ่งทางจิตใจ แต่ตอนนี้ วิถีแบบนั้นเริ่มหมดไป มันถูกพัฒนามาเป็นเทรนด์ใหม่ เศรษฐกิจตกต่ำ จิตใจคนในสังคมถอยห่างจากพระเจ้า ผลสุดท้ายก็คือขายโบสถ์ที่เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตตัวเองให้รอด”


ภาพจาก bit.ly/2UFyJGg
 
นี่เป็นเพียงการขาย การทำสงครามแย่งยึดศาสนสถานมายังมีมากมาย เช่น เปลี่ยนศาสนสถานของศาสนาหนึ่ง เป็นอีกศาสนาหนึ่ง จนกลายเป็นข้อพิพาททางประวัติศาสตร์มากมาย  ว่ากันว่าจำนวนคนฆ่ากันตายเพราะเรื่องความเชื่อทางศาสนามีมากกว่าเรื่องอื่นในโลกเสียอีก  บ้างก็อาจไม่ยึด ไม่ซื้อขาย แต่เผาเสียเลย เช่น พม่ามาเผาวัดแทบทุกวัดในกรุงศรีอยุธยา หรือกองทัพไทยไปเผาวัดแทบทุกวัดในกรุงเวียงจันทน์ ทั้งที่ต่างก็นับถือพุทธศาสนากันทั้งสิ้น เป็นต้น
 
ในการประเมินค่าโบสถ์นั้น บางท่านอาจบอกว่า “หาค่ามิได้” แปลว่าราคาสูงมากจนประเมินค่ามิได้ เพราะเป็นที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า  แต่ในชีวิตจริงมีการขายโบสถ์กันมากมาย  ยิ่งถ้าโบสถ์ไหนมี “สตอรี่” ให้เล่าขานถึงประวัติศาสตร์ ความศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ก็จะเป็นเสน่ห์เพิ่มมูลค่าในการขายเสียอีก  ยิ่งถ้ามีสถานที่พอจัดงานแต่งงาน งานเลี้ยง ฯลฯ ก็ยิ่งมีค่า  แต่ถ้าเป็นวัดธรรมดา เช่น วัดไทยในต่างประเทศที่สร้างแบบไม่ได้มีสถาปัตยกรรมแบบไทย เป็นอาคารทั่วๆ ไปที่ดัดแปลงเป็นวัด เป็นโบสถ์ ก็คงไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรเป็นพิเศษ แต่เครื่องยึดเหนี่ยวทางใจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
ในกรณีวัดไทยจะเห็นได้ว่ามีความพยายามในการทำลายเหมือนกัน อาจเป็นเพราะความเชื่อต่างศาสนา โดย “เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีคนร้าย 1 คน บุกเข้าไปในบริเวณวัดพุทธภาวนา เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา. . .คนร้ายได้บุกเข้าไปในวัดแล้วจุดไฟเผาศาลเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งอยู่ด้านข้าง ทางทิศตะวันตกของ โบสถ์วิหาร. . .และยิงปืนขู่หลายนัด พระอาศัยอยู่ในวัดได้โทรแจ้งตำรวจท้องที่และสามารถจับกุมชายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนเผาวัดได้ 1 คน เป็นคนผิวขาวร่างใหญ่ ซึ่งตรงกับคำให้การของเด็กวัดที่เห็นเหตุการณ์ โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต”


ภาพจาก bit.ly/3hw7mrV
 
ในข่าวดังกล่าวยังกล่าวว่า “เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2534 ได้เกิดโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่วัดพรหมคุณาราม วัดไทยที่ตั้งอยู่ที่เมืองฟินิกซ์ รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ไทย เมื่อคนร้ายได้เข้าไปสังหารหมู่ พระธรรมทูต 6 รูป สามเณร 1 รูป เด็กวัด 1 คน แม่ชี 1 ท่าน รวม 9 ศพ ซึ่งได้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์โลกว่าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม อำมหิต เกินกว่าที่ใครจะทำใจได้” อย่างไรก็ตามวัดนี้ก็ยังอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้กลายเป็นวัดร้างหรือขายให้ใครไป
 
ในการประเมินมูลค่าของโบสถ์นั้น คงต้องพิจารณาในหลายกรณี เช่น
  1. ความเป็นไปได้ในการซ่อมแซม (หรือจะพังจนซ่อมไม่ได้ ต้องรื้อทิ้ง)
  2. ต้นทุนในการซ่อมแซม-ปรังปรุงเพิ่มเติม (ถ้ามี)
  3. ความเป็นไปได้ในการดัดแปลงไปใช้ในทางอื่น เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ฯลฯ
  4. การขายความสูงในการก่อสร้างอาคารให้กับอาคารใกล้เคียงอื่น เพราะในบางประเทศ โบสถ์อยู่ในย่านผังเมืองที่อนุญาตให้สร้างสูงได้ 200 เมตร แต่โบสถ์สูงเพียง 80 เมตร สิทธิส่วนที่เกินก็สามารถขายได้
  5. ความเป็นไปได้ในการรื้อโบสถ์ทิ้งไปสร้างเป็นอื่น
  6. ราคาที่เคยมีการขายในอดีตในเชิงเปรียบเทียบ
  7. ความเป็นไปได้ในด้านข้อกฎหมาย ผังเมือง เป็นต้น
 
ที่มา : https://bit.ly/2MMK9nc
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
516
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
436
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
423
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
419
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด