อยากเป็นเศรษฐีก็ต้องคิดแบบเศรษฐี เกิดคำถามอีกว่า “แล้วเศรษฐีเค้าคิดกันยังไง?” และ ถ้าเราเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีเงินมากมายจะไปคิดลงทุนแบบเศรษฐีได้ยังไง?  ตามหลักจิตวิทยาบอกว่าคนเรามีกรอบความคิด และพลังของความคิดก็ทำให้เราก้าวออกมาจากกรอบนั้นไม่ได้ บางคนคิดเสมอว่าเราทำไม่ได้ เราไม่มีทางรวย เราไม่ได้รวยเหมือนเค้า เราเป็นของเราได้แค่นี้ สิ่งเหล่านี้คือคำสะกดให้ตัวเราอยู่ในกรอบเดิมๆ หากต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งแรกคือ “เปลี่ยนความคิด”

 

เศรษฐีหลายคนในโลกนี้ก็ไม่ได้รวยมาตั้งแต่เกิด แต่เขามีวิธีสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เป็น 9 แนวคิดของ 9 เศรษฐีที่ www.ThaiFranchiseCenter.com นำมาฝากเพื่อปี 2020 นี้เราอาจจะกลายเป็นเศรษฐีได้ด้วยตัวเอง

 

ภาพจาก bit.ly/36cYy4e

 

นี่คือการเริ่มต้นที่อาจไม่สวยหรู ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่อลังการ เราอาจเริ่มต้นด้วยเงินที่เรามี ที่เราพอจะหาได้ กิจการของเราอาจจะเริ่มจากเล็กๆ หรือบางทีอาจไม่มีหน้าร้านอะไรเลยด้วยซ้ำ สำคัญคือวิธีการบริหารจัดการ ไอเดียในการนำเสนอสินค้า

Barbara Corcoran ผู้ก่อตั้ง Corcoran Group ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จจากการเริ่มต้นแบบนี้ ธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับของ Corcoran เติบโตอย่างมากแต่จุดเริ่มต้นคือการขายเสื้อโค้ทขนสัตว์แบบเล็กๆ ที่ค่อยๆขยายกิจการไปเรื่อยๆ อาจต้องใช้เวลาแต่ว่าถ้าขยันและตั้งใจ และมีไอเดียที่ไม่ย่อท้อ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้

 

ภาพจาก bit.ly/2ZJCNH1

 

คำนี้เราน่าจะได้ยินกันมานาน และก็วกมาที่คำถามเดิมอีกว่า “ไม่มีเงินแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปต่อเงิน” ตามแนวคิดของ Grant Cardone ผู้ก่อตั้ง Cardone Capital ซึ่งเป็นอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ เขาเลือกใช้เงินลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อว่าจะเป็นการลงทุนแบบใช้เงินต่อเงินที่ดีที่สุด

 

สำหรับคนทั่วไปอาจไม่ต้องเริ่มยิ่งใหญ่ระดับปลูกหมู่บ้านขายและลงทุนสร้างคอนโดขาย เริ่มจากสิ่งที่พอทำได้เช่นการเช่าซื้อคอนโด อพาร์ทเม้น แล้วปล่อยให้คนอื่นเช่าและกินส่วนต่างค่าเช่า คล้ายกับให้คนเช่าเป็นคนผ่อนอีกที ซึ่งตรงนี้จะทำให้เรามีเงินสดหมุนเวียนในแต่ละเดือนมากขึ้น ซึ่งคนที่สนใจสามารถศึกษาวิธีแบบนี้ซึ่งมีการอบรมเทคนิคกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว

 

ภาพจาก bit.ly/37tRdxA

 

คำว่ารวย คำว่าเศรษฐี เส้นทางไปถึงคำนั้น หลายคนนึกถึงแต่ตัวเองเป็นสำคัญ นำไปสู่การแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น แต่แนวคิดของ Kuda Biza ผู้ร่วมก่อตั้งและ CMO ของคณะกรรมการมูลนิธิ Amani Hope มีแนวคิดสวนทางโดย Kuda Biza เริ่มจากการเป็นผู้ให้ก่อนที่จะเป็นผู้รับเหมือนเป็นการสร้างธุรกิจในแบบกิจกรรมเพื่อสังคม

 

ถือเป็นอีกแนวทางที่ทำให้คนยอมรับ ซึ่งวิธีนี้สำคัญคือต้องเป็นการให้อย่างจริงใจโดยเฉพาะกับผู้ด้อยโอกาสต่าง ๆ สิ่งที่ได้ตามมาคือการยอมรับของผู้คนจำนวนมากและการพัฒนาสินค้าที่คนยอมรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีแบบก้าวกระโดด แต่สำคัญกว่าคือเมื่อยิ่งมีรายได้ก็อย่าลืมเรื่องการให้ แนวคิดนี้ “การให้” คือการ “ได้รับ” ที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุด

 

ภาพจาก cnb.cx/2ZoEol5

 

หนึ่งในวิธีการสร้างวินัยทางการเงินเพื่อให้เราก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีเงินเก็บเงินออมตามแนวคิดของ Lin Sun, CEO ที่ Tiny Devotions บอกว่าให้กำหนดรายจ่ายเป็น %  โดยยึดเอาฐานจากรายได้ของครอบครัว มาเฉลี่ยเป็นรายจ่ายว่าแต่ละเดือนครอบครัวมีรายได้อยู่เท่านี้ รายจ่ายที่แท้จริงควรเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของรายรับ เพื่อให้มีเงินคงเหลือมากขึ้น แต่วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยวินัยทางการเงินอย่างมาก และจะดีกว่าหากมีการเพิ่มรายรับด้วยการหารายได้เสริมมากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเศรษฐีได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย

 

ภาพจาก bit.ly/2QHvLy8

 

การเริ่มต้นทำธุรกิจเพื่อก้าวไปสู่คำว่าเศรษฐี หลายคนมุ่งเน้นแต่จะขายให้ได้กำไรมากๆ จนละเลยเรื่องความซื่อสัตย์ที่ควรจะมี หลายคนพยายามลดต้นทุนจนสินค้ากลายเป็นของไม่มีคุณภาพ สิ่งนั้นเท่ากับเป็นการทำลายตัวเอง

 

แนวคิดของ Itzik Levy ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ vCita แพลตฟอร์มการจัดการธุรกิจขนาดเล็ก บอกชัดเจนว่า ไม่ว่าธุรกิจของเราจะเริ่มต้นเล็กแค่ไหนแต่สินค้าและบริการต้องมีคุณภาพ ให้ลูกค้ารู้ว่าบริษัทของเราแม้จะเล็กแต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยคำว่าคุณภาพ สิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจของเรามั่นคงในระยะยาวดีกว่าได้กำไรในระยะสั้นแต่ลูกค้าหายไปในระยะยาว ที่เสี่ยงต่อการขาดทุนยับเยินได้เลยทีเดียว

 

ภาพจาก AccountingDepartment

 

Dennis Najjar ผู้ร่วมก่อตั้งของ AccountingDepartment.com ซึ่งเป็นบริการบัญชีเสมือนจริงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก พูดถึงหนึ่งในวิธีการทำให้มีเงินไม่ได้สำคัญแค่ว่าจะหาเงินยังไง แต่สำคัญด้วยว่าจะรักษาเงินที่หามายังไง เขาจึงแนะนำระบบบัญชีเสมือนจริง ให้ผู้ลงทุนได้รู้เส้นทางการเงินที่แม่นยำ สามารถวางแผนการออมหรือใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ในยุคที่โลกพัฒนาด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ธุรกิจต้องรู้จักผสมผสานความรู้ใหม่ๆ มาใช้ในการลงทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ภาพจาก bit.ly/2MNZ2pU

 

หนึ่งในแนวทางการเป็นเศรษฐีหรือทำธุรกิจให้มียอดขายสูงขึ้นไม่ใช่มุ่งแต่พัฒนาสินค้าตัวเองอย่างเดียว ในปี 2020 สิ่งสำคัญคือความต้องการของลูกค้าต้องสอดคล้องกับการพัฒนาสินค้า

 

Emma Watkinson ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ SilkFred กล่าวว่า การขายออนไลน์แม้จะเป็นเรื่องสำคัญและเป็นการตลาดที่ยังพัฒนาได้มากแต่ธุรกิจเองก็ต้องเข้าใจอัตราการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีผลอย่างยิ่งในการพัฒนาสินค้าและบริการที่ได้ผลเป็นที่ต้องการอย่างแท้จริง

 

ภาพจาก bit.ly/2SIC4UL

 

Gail Corder Fischer ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบริหารของ Fischer & Company บริษัท อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกที่ให้คำปรึกษานายหน้าและโซลูชั่นเทคโนโลยี พูดถึงการเป็นเศรษฐีในปี 2020 ว่าคนที่จะรวยได้ต้องรู้จักการจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเมื่อเกษียณ การเตรียมงบสำหรับกรณีฉุกเฉิน การวางแผนงบประมาณสำหรับขยายธุรกิจ ทุกอย่างต้องมีการจัดสรรอย่างมีคุณภาพ จะได้ไม่กระทบต่อความมั่นคงในภาพรวม ซึ่งจะเป็นวิธีที่แม้อาจจะไม่ชัดเจนแต่ก็ช่วยให้เราเข้าใกล้คำว่าสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

 

ภาพจาก bit.ly/2QdLupH

 

Daniel Lesniak, ผู้ก่อตั้ง Orange Line Living ซึ่งเป็นธุรกิจฝึกสอนด้านอสังหาริมทรัพย์ พูดถึงการลงทุนที่จะทำให้คนรวยเร็วรวยง่ายในปี 2020 คือการเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการเป็นนายหน้าและรู้จักการจับสินทรัพย์มาขายที่จะได้ค่าตอบแทนเป็นคอมมิชชั่นไม่ต่ำกว่า 10-15% จากมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งในแต่ละปีมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นจำนวนมากและหากผู้สนใจสามารถทำอาชีพนี้ได้จะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงและสร้างรายได้ที่ดีมาก ซึ่งปัจจุบันมีหลายแห่งที่เปิดฝึกอบรมในเรื่องนี้

 

จากแนวคิดทั้งหลายเหล่านี้ของผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจหลายคนอาจมองไม่เห็นว่าจะเอามาทำให้ตัวเองรวยขึ้นได้อย่างไรแต่หากศึกษาดีๆ จะพบกลเม็ดเคล็ดลับที่บุคคลเหล่านี้พยายามอธิบายถึงวิธีการสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจในแบบของตัวเอง โดยเราอาจจะเอามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อจะก้าวเป็นเศรษฐีในปี 2020 ได้ง่ายขึ้น

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

ขอบคุณข้อมูล
https://cnb.cx/2ZoEol5

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)