คนไทยคุ้นเคยกับ “ขนมจีน” มาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ขนมจีนเป็นอาหารคาวที่มีจุดเด่นอยู่ที่เส้นซึ่งปรุงสุกสีขาวเข้าคู่กับน้ำยาหลากหลายประเภท มีเครื่องเคียงเป็นผักต่างๆ ทำเอาหลายคนนึกไปว่า ขนมจีน คืออาหารที่คิดโดยคนไทยหรือไม่ก็เชื่อว่าเป็นอาหารจากจีนตามชื่อ แต่ที่จริง ขนมจีนเป็นอาหารจากแนวคิดของมอญ คำว่า ขนมจีน มาจากภาษามอญว่า ขะ-นอม-จิน คำว่า ขะนอม มีความหมายอย่างหนึ่งว่าเส้น คำว่า จินมีความหมายว่าสุก

 

แต่ใจความสำคัญไม่เกี่ยวกับว่าเป็นอาหารของชนชาติใด แต่สำคัญว่าทุกวันนี้ “ขนมจีน” กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เราเห็นทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้าหลายคนก็มีกำไรจาการเปิดร้าน “ขนมจีน” ได้เป็นอย่างดี เราอาจจะเคยเห็น ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำเงี้ยว  แต่ www.ThaiFranchiseCenter.com มีหนึ่งสุดยอดไอเดียที่พลิกโฉม “ขนมจีน” จากเดิมๆ กลายเป็น “ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด” ที่จุดเด่นคือเหมือนยกเอาทะเลมาใส่ไว้ในชามขนมจีน มีทั้งกุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่ ปลาหมึก  ปูทะเล ที่สำคัญนี่คือธุรกิจที่เปิดขายในระบบแฟรนไชส์ให้คนสนใจได้เอาไปลงทุน รวย ๆ กันถั่วหน้าอีกด้วย

 

จุดกำเนิด “ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด”
 

คุณเมธินี ทองเกิดคือเจ้าของไอเดีย “ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด” ที่ก่อนหน้าจะมาเปิดร้านขายขนมจีน ก็เริ่มต้นจากคนทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป  แต่ด้วยแนวคิดที่อยาก “เป็นนายตัวเอง” และมองหาความสำเร็จและการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต จึงตัดสินใจก้าวออกมา เพื่อ “สร้างธุรกิจตัวเอง” โฟกัสไปที่ “ขนมจีน” เพราะเป็นเมนูที่ตัวเองชื่นชอบ รวมถึงมีสูตรเด็ดของครอบครัวที่เชื่อว่าหากได้เปิดร้านขาย ลูกค้าจะต้องติดใจ นำมาสู่การเริ่มเปิดร้านขนมจีนอย่างเต็มรูปแบบ
 

 

ซึ่งสูตรเด็ดในส่วนผสมของน้ำยาขนมจีนของคุณเมธินี้เน้นที่เนื้อปลาทับทิมแบบเข้มข้น ซึ่งแตกต่างจากร้านทั่วไปที่นิยมใช้ปลาช่อน และถึงแม้จะมีความแตกต่างในเรื่องวัตถุดิบและดูเหมือนว่าจะเป็นน้ำยาขนมจีนที่อร่อยและมีคนสนใจมาก แต่คุณเมธินีมองว่า “ขนมจีน” เป็นเมนูที่ยังใส่ไอเดียอื่นๆ ได้อีก ทำไมเราจะต้องยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆของขนมจีนน้ำยาที่ไปที่ไหนก็ไม่แตกต่าง จึงเริ่มคิดหาสิ่งที่ “ไม่เหมือนใคร” กลายมาเป็น “ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด” ที่ชูจุดเด่นด้วยการเอาวัตถุดิบจากทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สารพัดชนิดมาเป็นส่วนหนึ่งของขมจีนน้ำยา ที่ดูหน้าตาของแต่ละเมนูแล้วไม่บอกไม่รู้นึกว่ามากินอาหารซีฟู้ดกันเลยทีเดียว

 

“เจ้าแรกของเมืองไทย” ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด”
 

และไอเดียสุดเริ่ดดังกล่าวนี้ก็ทำให้ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ของคุณเมธินี เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย ที่ทำให้วงการขนมจีนต้องฮือฮา ถึงขนาดที่มีรายการทีวีต่างๆ มาเชิญไปร่วมรายการเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความพิเศษที่แตกต่างและการได้ร่วมออกรายการต่างๆ ทำให้ชื่อเสียงของ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ยิ่งโด่งดังและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ซึ่งร้านแรกของ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด เปิดอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟเก่าเกษตรนวมินทร์และแม้ว่าตลาดนี้จะได้ปิดตัวไปแล้ว และ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ได้ย้ายมาเปิดร้านในสถานที่ใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ยอดลูกค้าลดน้อยลงไปแต่อย่างใดหากแต่มีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งส่วนที่มาจากหน้าร้านคนที่ตามมาจากการออกรายการทีวี คนที่มาจากการรีวิวของเพจดังต่างๆ และจากการสั่งผ่านเดลิเวอรี่ที่สร้างยอดขายเติบโตเป็นอย่างมาก

ถ้าพูดแล้วยังไม่เห็นภาพ ขอตัดภาพไปที่สุดยอดเมนูของ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ที่ราคาเริ่มต้น 40 บาท กับเมนูขนมจีนลูกชิ้น และหากจะลิ้มชิมรสอาหารทะเล ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 69 บาท สูงสุดของเมนูราคาประมาณ 300 บาท โดยเราจะได้วัตถุดิบอาหารทะเลตามแพคเกจราคาที่เราเลือก ตั้งแต่กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ  หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์  ปลาหมึกตัวใหญ่เต็มคำ เป็นต้น 

ซึ่งหลายคนมองว่า วัตถุดิบเหล่านี้จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงไปด้วย แบบนี้ถ้าเลือกลงทุนแล้วจะมีกำไรตรงไหน  ซึ่งคุณ เมธินีได้ให้ข้อมูลว่า 
 

“วัตถุดิบเหล่านี้เราเลือกที่เหมาะสมกับอาหารของเรา อย่างกุ้งแม่น้ำก็มีหลายแบบ แต่เราจะเลือกที่เหมาะกับการเอามาใส่ในเมนูขนมจีน ซึ่งเราจะบอกแหล่งวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ของเราที่ลงทุนด้วย ส่วนต้นทุนของแต่ละเมนูนั้นอยู่ที่ประมาณ 50% เท่ากับว่ากำไรของผู้ลงทุนก็อยู่ที่ 50% จากราคาขายเช่นกัน  ยิ่งอยู่ในทำเลที่ดียิ่งมีปริมาณการขายได้มาก ก็ยิ่งทำให้เรามีรายได้มากขึ้น”

 

 

และเมื่อกิจการเติบโตเป็นอย่างดีจึงมีการต่อยอดธุรกิจให้แข็งแรงมากขึ้นด้วยการ “สร้างระบบแฟรนไชส์” ที่ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด  2 แห่งได้แก่สาขาบางบัวทอง และสาขากาญจนบุรี เมื่อรวมกับสาขาที่เจ้าของเปิดขายเป็นร้านต้นแบบเท่ากับตอนนี้มีทั้งหมด 3 สาขา โดยราคาลงทุนมีแพคเกจเดียวคือ 59,000 บาท สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ ป้ายกล่องไฟติดหน้าร้าน  อุปกรณ์การเปิดร้านครบทุกรายการ ป้ายประชาสัมพันธ์ที่ได้ออกรายการทีวีต่างๆ  วัตถุดิบพร้อมขายเบื้องต้น การอบรมแนะนำการเปิดร้าน  การส่งทีมงานไปช่วยในวันเปิดร้านครั้งแรก  รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ลงทุนเป็นอย่างดี
 

 

ทั้งนี้ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ถือเป็นการผสมผสานเอาอาหารที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยมาเพิ่มมูลค่าให้ดูโดดเด่นน่าสนใจ ทำให้สร้างยอดขายได้มากขึ้น โดยเฉลี่ยต่อวันยอดขายไม่ต่ำกว่า 150 จาน ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ รวมถึงมีเทคนิคในการบริหารจัดการร้านที่คุณเมธินีกล่าวว่า
 

“เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ เมนูกุ้งหอยปูปลาทุกชนิดต้องมีความสดใหม่ ไม่ใช่ของเก่าค้างคืน เราใส่ใจกับความรู้สึกของผู้บริโภคที่ต้องได้สินค้าเหมาะสมกับราคาที่จ่ายมา เราไม่ได้เป็นแค่ร้านขนมจีนธรรมดา แต่เราขายความสุขให้ลูกค้า การที่ลูกค้าได้แช๊ะ และแชร์ ก็ถือเป็นผลพลอยได้ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้กับทางร้าน ซึ่งเราได้ประโยชน์ในส่วนนี้มาก 
 

ดังนั้นเราจึงต้องตอบแทนลูกค้าทุกคนที่ไว้ใจมาซื้อสินค้าด้วยคำว่า คุณภาพ และแฟรนไชส์ของเราทุกสาขาจะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายของเราคือการขยายแฟรนไชส์ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น แต่เราจะไม่เน้นการขยายในเชิงปริมาณ เราจะเน้นที่คำว่าคุณภาพ ไม่ว่าลูกค้าจะไปทานที่สาขาไหนก็ต้องประทับใจเหมือนได้ทานที่ร้านต้นแบบของเราแห่งนี้”
 

ปัจจุบันลูกค้าสามารถเลือกเมนูได้ตามต้องการนอกจากวัตถุดิบอาหารทะเล ยังมีน้ำยากะทิ  น้ำยาป่า แกงเขียวหวาน และ กะทิ+น้ำยาป่า ให้ลูกค้าเลือกได้ตามใจชอบ แผนการในอนาคตของ ขะ-หนม-จีน ทะเลระเบิด ที่วางไว้คือรักษาคุณภาพพร้อมกับเติบโตในธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น คาดว่าในปี 2653 จะสามารถขยายสาขาเพิ่มได้อีกหลายแห่งทั่วประเทศด้วย

 

Facebook : www.facebook.com/kanhomjeen 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)