บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
33K
2 นาที
24 กันยายน 2562
Paradigm Shift การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ 
 
ภาพจาก https://n.pr/2wj8jOq

กระบวนทัศน์ (Paradigm) ทฤษฎี คือ มโนทัศน์ ภาพฝัน (Concepts) ค่านิยม (Values) ความเข้าใจรับรู้ (Perceptions) และการปฏิบัติ (Practice) ที่มีร่วมกันของคนกลุ่มหนึ่ง ของทัศนะอย่างเฉพาะแบบหนึ่ง เกี่ยวกับความจริง (Reality) 
 
กระบวนทัศน์ คือ การนำกฎ นำทฤษฎี การนำเครื่องมือ การนำความรู้ การนำทรัพยากรคน รวมกัน เพื่อไปสร้างรูปแบบนำไปสู่แนวปฏิบัติที่เชื่อมโยงกันของคนที่มีอยู่ในกระบวนทัศน์เดียวกัน จะมีกฎและมาตรฐานการปฏิบัติที่เหมือนกันไปในทิศทางกันเกิดการ Synergy ร่วมกันและได้ผลลัพธ์ที่ดีร่วมกัน

การกลยุทธ์เป็นแผนที่รวมทุกอย่างซึ่งสามารถรวมไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดภาพที่ใหญ่ขึ้น เราเรียกว่า Paradigm  
 
กระบวนทัศน์ คือ กลุ่มทฤษฎีที่มีการพัฒนาแนวคิดด้านการบริหารและการจัดการในศาสตร์นั้น ๆ โดยมีการรวบรวมแนวคิดทฤษฎีของนักทฤษฎีไว้ด้วยกัน และอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน อาจจะเป็นในทศวรรษเดียวกัน หรือทศวรรษต่อเนื่องกัน โดยนักทฤษฎีในกระบวนทัศน์นั้น ๆ จะไม่ขัดแย้งกัน มีเนื้อหาทฤษฎีที่มีการเกื้อหนุนกันในด้านการบริหารและการจัดการในศาสตร์นั้น ๆ และเมื่อมีกลุ่มนักทฤษฎีที่มีข้อเสนอที่ขัดแย้ง และมีความหลากหลาย เมื่อนั้นกระบวนทัศน์จะถูกล้มล้าง และจะก้าวเข้าสู่กระบวนทัศน์ใหม่ หรือเรียกว่าการเปลี่ยนผ่านกระบวนทัศน์ (paradigm shift) ตัวอย่างเช่น ศาสตร์ทางรัฐประศาสนศาสตร์ (public administration) มีการเปลี่ยนผ่านกระบวนทัศน์หลายขั้น อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.or
 
ก้าวเข้าสู่กระบวนทัศน์ใหม่ หรือ เรียกว่าการเปลี่ยนผ่านกระบวนทัศน์ ( paradigm shift ) เราสามารถกำหนดการใช้ทรัพยากรขององค์การได้บรรลุตามภารกิจและวัตถุประสงค์ ซึ่งสามารถแข่งขันอยู่ในตลาดได้ หากกล่าวอย่างสั้นๆ 
ภาพจาก bit.ly/2kZjwBr
 
แผนกลยุทธ์ คือ แผนที่ทำให้องค์การอยู่รอดในระยะยาวและได้เปรียบการแข่งขันในตลาด ผู้วางแผนกลยุทธ์จะต้องสามารถมองไปข้างหน้ามองไปในอนาคตได้อย่างถูกต้อง 

การวางแผนกลยุทธ์ เป็นกระบวนการกำหนดกลยุทธ์และการนำกลยุทธ์ไปใช้ การกำหนดวัตถุประสงค์ขององค์การ การเลือกกลยุทธ์ที่จะทำให้องค์การสามารถไปสู่วัตถุประสงค์นั้นได้ การวางแผนกลยุทธ์จะเกี่ยวข้องกับ 3 หัวข้อที่สำคัญคือ การวิเคราะห์กลยุทธ์ การกำหนดกลยุทธ์ และการนำกลยุทธ์ไปใช้ 
 
เคยเขียนเรื่องของ CORPORATESTRATEGYในบทความตาม https://bit.ly/2miNII4
 
การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) คือ การเปลี่ยนแปลงความรู้ ที่นำมาวิเคราะห์เพื่อหาสิ่งที่ใช่หรือไม่ใช่ อาจเกิดการหักล้างกับทฤษฎี หรือกระบวนทัศน์เก่าๆ จนเกิดกระบวนทัศน์ที่ทรงพลังที่ดีขึ้น แก้ปัญหาเก่าได้มากขึ้น ส่วนนึงก็เป็นเพราะเทคโนโลยี ที่ทำอะไรได้มากขึ้น ง่ายขึ้นนั้นเอง จากเดิมที่มนุษย์เก็บพืชผลตามธรรมชาติ มาทำเกษตรกรรมแบบตั้งรกราก การปฏิวัติอุตสาหกรรมตามมา กระบวนทัศน์แบบเก่ามองแบบธรรมชาติ เปลี่ยนเป็นแบบเทคโนโลยีมากขึ้นเกิด กระบวนทัศน์ใหม่

ซึ่งเกิดขึ้นในการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ในแต่ละครั้ง การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติจึงจำเป็นจะต้องมีวิธีคิดแบบใหม่ ในการมองเห็นคุณค่าของทรัพยากรมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการวางแผนของการทำธุรกิจที่หันไปมองต้นน้ำและปลายน้ำกันมากขึ้น ของอธิบายให้ชัดขึ้น 
 
Backward integration คือ การย้อนกับไปทำที่ต้นน้ำเพื่อให้ธุรกิจของตัวเองมีจุดแข็งมากยิ่งขึ้นในการควบคุมวัตถุดิบในด้านของคุณภาพและราคา ลดอำนาจการต่อลองของ Suppliers รวมถึงสามารถวาง 
 
แผนการผลิตได้มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นผลไม้บางฤดูการอาจจะไม่ได้รับผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการ
เนื่องจากปัญหาต่างๆที่ไม่สามารถจะควบคุมได้ ทำให้ลดความเสี่ยงจากไม่มีวัตถุดิบป้อนโรงงาน
 
Forward integration คือ การไปทำปลายน้ำมากขึ้นลดอำนาจหรือการกดราคาของคู่ค้า หรือยี่ปั้วซ่าปั่ว ที่มักจะคอยแต่จะต่อรองเรื่องราคาและปัญหาของการจัดเก็บสินค้า ร่วมถึงสิ้นที่มักหมดอายุก่อนกำหนดที่
 
ร้านค้าไม่พยายามปล่อยขายหรือช่วยขายทำให้มีของเครมกับมาจำนวนมาก จึงทำให้องค์กรต้องขยายหรือหาช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้น 

ภาพจาก bit.ly/2l2NZ1x
 
•ประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินงาน Backward integration และ Forward integration
 
ตอบ เพื่อแก้ปัญหาและสามารถที่จะได้วางแผนหรือพยากรณ์ยอดขายได้ด้วย การทำงานจะทำงานเป็น Chain ที่ฝ่ายผลิตจะวางแผนการผลิตได้ ฝ่ายวัตถุดิบก็วางแผนการจัดหาวัตถุดิบไปครบทั้ง Chain เป็นการ integration ได้อย่างเกิดประโยชน์ รวมถึงสร้างผลกำไรได้มากขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น
 
•ยกตัวอย่างธุรกิจที่มีลักษณะการดำเนินงาน Backward integration และ Forward integration
 
ตอบ ธุรกิจผมอยู่ในแนววงของอุตสาหกรรมน้ำดื่ม โรงงานน้ำดื่มทำหน้าที่ปรับปรุงคุณภาพน้ำดิบและควบคุมคุณภาพน้ำดื่มให้ได้ตามมาตรฐานกำหนด ปัจจุบันสั่งขวดมาเพื่อบรรจุและส่งไปยังร้านค้าส่ง
 
Backward integration วางแผนธุรกิจเป่าฉีดหลอดพรีฟอร์มและเป่าขวด เพื่อควบคุมคุณภาพและราคา
ในการสร้างต้นทุนที่จะไปแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้มากขึ้น 
 
Forward integration สร้างช่องทางจำหน่ายตรง ด้วยกลการสร้างแบรนด์สินค้า ขายในราคาขายปลีกสร้างตลาดใหม่อย่างลูกค้า OEM ซึ่งจะได้เปรียบร้านค้าส่ง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยส่งเองหรือบริการลูกค้าไม่ทั่วถึง สร้างช่องทางกระจายสินค้ามากยิ่งขึ้น
 
เมื่อไรที่เราต่างเห็นภาพเดียวกันมากขึ้น การส่งเสริมที่เป็นกระบวนทัศน์เดียวกันจะทลายเรื่องของราคาขายและต่างมาช่วยกันพัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตไปร่วมกันเกิดการเชื่อมโย้งที่ดี เหมือนกับคำว่า เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้านั้นเอง
 
 
อ.อ๊อด  น้ำดี เขียนจบ 24 ก.ย. 2562 เวลา 8:36 น.
www.สถาบันพัฒนาธุรกิจน้ำดื่มประเทศไทย.com
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
506
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
425
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
404
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
395
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
379
In-N-Out ราชินีฟาสต์ฟู้ดอเมริกา ไม่ขายแฟรนไชส์ แ..
363
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด